การผ่าดวงจันทร์ (ชักกุลก้อมัร) ปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซาต) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ)
بِسمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِیم
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตายิ่ง ผู้ทรงปรานีเสมอ
اقْترَبَتِ الساعَةُ وَانشقَّ الْقَمَرُ
“กาลอวสานของโลกใกล้เข้ามาแล้ว และดวงจันทร์ได้แยกออก”
وَ إِن یَرَوْا ءَایَةً یُعْرِضُوْا وَیَقُولُوْا سِحْرٌ مُّسْتَمِرُّ
“และแม้พวกเขาจะเห็นสัญลักษณ์ (ปาฏิหาริย์ที่แสดงถึงความสัจจริงของมุฮัมมัด) พวกเขาก็จะหันหลังให้ และจะกล่าวว่า นี่คือมายากลที่มีมาอย่างต่อเนื่อง”
وَكَذَّبُوا وَاتَّبَعُوا أَهْوَاءَهُمْ ۚ وَكُلُّ أَمْرٍ مُّسْتَقِرٌّ
“และพวกเขาได้ปฏิเสธและปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขา และทุกกิจการนั้นย่อมเป็นไปตามกำหนด”
(ซูเราะฮ์อัลก้อมัร/อายะฮ์ที่ 1- 3)
ในนครมักกะฮ์ ในค่ำคืนที่ 13 (ของเดือนซุลฮิจญะฮ์) อบูญะฮัลพร้อมด้วยผู้รู้ชาวยิวคนหนึ่ง ได้ไปพบท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ)
และอบูญะฮัลได้กล่าวว่า:
“โอ้มุฮัมมัด! ถ้าหากเจ้าเป็นผู้สัจจริงในการกล่าวอ้างตนเป็นศาสดา ดังนั้นเจ้าก็จงแสดงปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) และสิ่งมหัศจรรย์ให้เราเห็นกับตาเถิด มิเช่นนั้นแล้วเราจะฆ่าเจ้า” ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้กล่าวอย่างใจเย็นว่า : “ท่านต้องการให้ฉันทำอะไร?”
อบูญะฮัลได้หันไปหาชาวยิวผู้นั้น โดยกล่าวว่า : “เราจะให้เขาทำสิ่งใดที่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้?”
ชายชาวยิวผู้นั้น กล่าวว่า :
“มุฮัมมัดนั้นเป็นนักมายากล ไม่ว่าเราต้องการให้เขาทำสิ่งใดในหน้าแผ่นดินนี้ ดังนั้นท่านจงขอให้เขาแยกดวงจันทร์เถิด เพราะว่ามายากลนั้นจะไม่บังเกิดผลใด ๆ ในท้องฟ้า และนักมายากลนั้นจะไม่สามารถครอบครองสิ่งใดในมันได้ และเมื่อมุฮัมมัดไร้ความสามารถจากการกระทำดังกล่าว เราจะทำการสังหารเขา”
อบูญะฮัลจึงกล่าวว่า : “เจ้าจงแยกดวงจันทร์นี้ให้เราได้เห็นเถิด” ดังนั้นท่านศาสดา (ซ็อลฯ) จึงวิงวอนขอดุอาอ์
และได้ชี้นิ้วไปยังดวงจันทร์ และได้แยกมันออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งหยุดอยู่กับที่ และอีกซีกหนึ่งได้เคลื่อนที่ไปอีกด้านหนึ่ง
และได้ดำเนินไปเช่นนี้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นานนักอบูญะฮัลได้กล่าวว่า : “เจ้าจงทำให้ดวงจันทร์กลับสู่สภาพเดิม”
ดังนั้นท่านศาสดา (ซ็อลฯ) จึงทำให้ดวงจันทร์ทั้งสองซีกประกบเข้าด้วยกันเหมือนเดิม และกลับกลายเป็นดวงจันทร์เพ็ญอีกครั้งหนึ่ง
ชายชาวยิวซึ่งเป็นผู้รู้ของศาสนายูดาย เมื่อได้เห็นปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ดังกล่าวของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) เขาได้เข้ารับอิสลาม
แต่อบูญะฮัลกลับเกิดความโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น พรัอมกับกล่าวว่า :
“เขาได้ปิดตาของเราด้วยมายากล และด้วยกับไสยศาสตร์เขาได้ทำให้เราหลงคิดว่า เขาได้ผ่าดวงจันทร์ให้เราได้เห็น” เพื่อที่จะพิสูจน์คำพูดของตน อบูญะฮัลได้กล่าวว่า : เราจะถามบรรดาผู้เดินทางทั้งจากไกลและใกล้ เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงเรื่องการแยกของดวงจันทร์
(ชักกุลกอมัร) นี้ เขาได้ถามจากบุคคลเหล่านั้น บรรดาผุ้เดินทางต่างกล่าวว่า :
“ในช่วงเวลาดังกล่าวของค่ำคืน พวกเราได้เห็นการแยกออกของดวงจันทร์ด้วยกับตาของพวกเรา” แต่อบูญะฮัลก็ยังคงไม่ศรัทธาเช่นเดิม และได้อ้างเหตุผลเช่นนี้ว่า มายากลของมุฮัมมัดได้ส่งผลต่อบรรดาผุ้เดินทางชาวฮิญาซด้วย และบรรดาผู้ปฏิเสธชาวกุเรชผู้ทรนงตนก็ได้เชื่อตามอบูญะฮัล
ชาวกุเรชได้ขอให้ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) แสดงปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) และท่านก็ได้ใช้นิ้วมือชี้ไปยังดวงจันทร์ และดวงจันทร์เพ็ญก็ได้แยกตัวออกเป็นสองซีกด้วยเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า และได้ประกบเข้าด้วยกันเหมือนเดิม แล้วหลังจากนั้น โองการนี้จึงถูกประทานลงมาว่า :
اقْترَبَ تِالساعَةُ وَ انشقَّ الْقَمَرُ
“กาลอวสานของโลกใกล้เข้ามาแล้ว และดวงจันทร์ได้แยกออก”
คำถาม
ประเด็นเกี่ยวกับการผ่าดวงจันทร์ (ชักกุลก้อมัร) ได้รับการพิสูจน์บนพื้นฐานของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ประการใดบ้าง?
บรรดายานสำรวจอวกาศได้ค้นพบสิ่งใดใหม่เกี่ยวกับดวงจันทร์ และพวกเขาได้มีการตีพิมพ์ข่าวใดบ้างในการพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับประเด็นนี้?
คำตอบ
เพื่อที่จะได้รับคำตอบที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น จะขอชี้ถึงบางประเด็นดังต่อไปนี้
1. การผ่าดวงจันทร์ (ชักกุ้ลก้อมัร) คือปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ)
พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตรัสว่า :
اقْترَبَتِ الساعَةُ وَ انشقَّ الْقَمَرُ
“กาลอวสานของโลกใกล้เข้ามาแล้ว และดวงจันทร์ถูกแยกออก”
ซูเราะฮ์อัลก้อมัร/อายะฮ์ที่ 1
ในโองการนี้ ได้กล่าวถึงสองเหตุการณ์ที่สำคัญ นั่นคือ : เหตุการณ์แรกเกี่ยวกับการใกล้จะมาถึงของกาลอวสานของโลก (กิยามะฮ์) ซึ่งจะติดตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งการสร้างสรรค์ และเหตุการณ์ที่สอง คือปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ที่มีเหนือทุกสรรพสิ่ง และยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งชี้ถึงความสัจจริงของความเป็นศาสดาของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ)
(ตัฟซีร นะมูเนะฮ์ , เล่มที่ 2ปาฏิหาริย์ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) การผ่าดวงจันทร์)
มีกรณีแวดล้อมบ่งชี้จำนวนมากอยู่ในโองการนี้ ที่เน้นย้ำถึงการเกิดขึ้นของปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ประการหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การกล่าวถึงประเด็นนี้ โดยใช้รูป “กิริยาอดีตกาล” ซึ่งเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า “ชักกุลก้อมัร” (การผ่าดวงจันทร์) นั้นได้เกิดขึ้นแล้ว ทำนองเดียวกันกับที่การใกล้ถึงช่วงเวลาแห่งกาลอวสานของโลกก็เป็นจริงแล้วด้วยกับการมาของศาสดาท่านสุดท้าย
นอกเหนือไปจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ริวายะฮ์ (คำรายงาน) จำนวนมากได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือต่าง ๆ ของอิสลามเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) นี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี หรือถึงขั้นตะวาตุร (มีสายรายงานมากมายต่อเนื่องในทุกยุคสมัย) และด้วยเหตุนี้เองจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับกรณีที่ว่า “ชักกุลก้อมัร” (การผ่าดวงจันทร์) เป็นปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ที่ยิ่งใหญ่ของท่านศาสดาแห่งอิสลาม (ซ็อลฯ) นั้น ก็คือว่า ในคำรายงานบางบทเราจะพบว่า สาเหตุของการนำเสนอเรื่อง “การผ่าดวงจันทร์” (ชักกุลก้อมัร) ต่อท่านศาสดา (ซ็อลฯ) โดยสื่อบรรดาผู้ปฏิเสธชาวกุเรชนั้น ก็เนื่องจากการที่พวกเขากล่าวว่า มายากลนั้นจะบังเกิดผลเฉพาะในเรื่องต่าง ๆ ในหน้าแผ่นดินเท่านั้น เราต้องการที่จะให้แน่ใจว่า ปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ของมุฮัมมัดนั้นไม่ใช่มายากล
(บิฮารุ้ลอันวาร , เล่มที่ 17, หน้าที่ 355 (ฮะดีษที่ 10)
ขอขอบคุณเว็บไซต์ซอฮิบซะมาน
source : alhassanain