ไทยแลนด์
Saturday 23rd of November 2024
0
نفر 0

ท่านหญิงคอดีญะฮฺ บินติคุวัยลิด วีรสตรีแห่งอิสลาม

ท่านหญิงคอดีญะฮ์ คือ ภริยาคนแรกของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลฯ นาง คือ ผู้เข้ารับอิสลามท่านแรก และนางยังเป็นมารดาแห่งศรัทธาชนหรืออุมมุลมุมินีน อีกทั้งนางยังเป็นมารดาของสตรีผู้ยิ่งใหญ่ในโลกอิสลาม นั่นก็คือ ท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซซะฮ์รอ ซ. นายหญิงแห่งสรวงสวรรค์ หากเรากล่าวถึง ภริยาคนแ
ท่านหญิงคอดีญะฮฺ บินติคุวัยลิด วีรสตรีแห่งอิสลาม

 ท่านหญิงคอดีญะฮ์ คือ ภริยาคนแรกของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลฯ

 นาง คือ ผู้เข้ารับอิสลามท่านแรก และนางยังเป็นมารดาแห่งศรัทธาชนหรืออุมมุลมุมินีน  อีกทั้งนางยังเป็นมารดาของสตรีผู้ยิ่งใหญ่ในโลกอิสลาม นั่นก็คือ ท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซซะฮ์รอ ซ. นายหญิงแห่งสรวงสวรรค์

หากเรากล่าวถึง ภริยาคนแรกของท่านนบีมูฮัมมัด(ศ็อลฯ)ผู้ศรัทธาทุกคนคงทราบแล้วกันดีว่าเป็นใคร ? เพราะภริยาคนแรกของนบี(ศ็อลฯ)ก็คือมารดาคนแรกของผู้ศรัทธา คงไม่มีมุสลิมคนใดที่ประกาศตนเป็นผู้มีศรัทธาแต่ไม่รู้จักแม่ของตัวเอง จะอย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะกล่าวถึงเกียรติประวัติและคุณความดีต่างๆบางประการของท่านหญิงคอดีญะฮ์ที่ประวัติศาสตร์อิสลามได้บันทึก  และจารึกไว้ ขอแนะนำและทบทวนประวัติส่วนตัวของท่านหญิงคอดีญะฮ์โดยสังเขปดังนี้

 

      ท่านหญิงคอดีญะฮ์มีชื่อและชื่อสกุลเต็มว่า คอดีญะฮ์ บินติ คุวัยลิด อัลกุรอชียะฮ์ อัลอะซะดียะฮ์ บิดาของท่านหญิงคอดีญะฮ์  ชื่อ คุวัยลิด บิน อะซัด เป็นชาวเผ่ากุเรช สืบสายสกุลจาก กุซ็อย บินกิลาบ บินมุรเราะฮ์ บินกะอฺบิน บินลุอัยย์  และมารดาของท่านหญิงฯชื่อ ฟาฏิมะฮ์ บินติ ซาอิดะฮ์  เป็นชาวเผ่ากุเรชเช่นกัน แต่สืบสายสกุลมาจากอามิรบินลุอัยย์

 

  และท่านหญิงคอดีญะฮ์มีฉายานามว่าอัฏฏอฮิเราะฮ์  ( الطَّاهِرَةُ )แปลว่า สตรีผู้สะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่อง  ท่านหญิงคอดีญะฮ์เกิดเมื่อประมาณปี ค.ศ. 555 หรือก่อนท่านรอซูลุลอฮ์(ศ็อลฯ)ประสูติ 15 ปี    ท่านหญิงคอดีญะฮ์ เป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงาม พูดจาสุภาพอ่อนหวาน มีกิริยามารยาทที่เรียบร้อยสมเป็นกุลสตรี มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก  และบุคลิกที่โดดเด่นของท่านหญิงฯอีกประการหนึ่งคือท่านหญิงฯชอบทำการค้าขาย

 

ท่านหญิงเป็นสุภาพสตรีที่เคร่งครัดศาสนาและมีฐานะร่ำรวย ในยุคสมัยป่าเถื่อน(ญาฮิลียะฮ์ ) ของชาวอาหรับก่อนการมาของอิสลามนั้น นางเป็นที่รู้จักกันดีในนาม "ฏอฮิเราะฮ์" ซึ่งหมายถึง สตรีผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง นางเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสุภาพสตรีที่ร่ำรวยมากในคาบสมุทรอาหรับ นางทำธุรกิจการค้าด้วยความช่วยเหลือจากผู้อื่นซึ่งทำการค้าในฐานะหุ้นส่วนตัวแทนของนาง ดังนั้นนางจึงมองหาผู้ที่มีความซื่อสัตย์และไว้วางใจได้ ที่นางสามารถเชื่อใจได้อย่างแท้จริงในการลงทุนทำธุรกิจ

 

เมื่อท่านหญิงคอดีญะฮ์(อ.) เริ่มสนใจในศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ท่านมีอายุ 25 ปี และมีชื่อเสียงมากในด้านความซื่อสัตย์และสุจริต นอกเหนือจากคุณสมบัติอันโดดเด่นในฐานะชายผู้ที่สามารถไว้วางใจได้เป็นพิเศษ ดังนั้น ท่านหญิงจึงได้ยื่นข้อเสนอกับท่านโดยผ่านอะบูฏอลิบ ผู้เป็นลุงของท่าน นางได้เสนอให้ท่านเป็นผู้บริหารจัดการในธุรกิจของนาง

 

ท่านหญิงคอดีญะฮ์(อ.) ทราบดีในเรื่องข่าวอันน่ายินดีของการมาปรากฏของผู้ดำรงตำแหน่งศาสดา นางทราบเรื่องนี้จากบรรดาผู้นำทางจิตวิญญาณผู้คงแก่เรียน ซึ่งในจำนวนนี้มี วะรอเกาะฮ์ อิบนุ เนาฟัล ลุงของนาง ซึ่งถือว่าเป็นผู้รู้ที่โดดเด่นคนหนึ่งในหมู่ชาวอาหรับ ต่อมา ความสนใจของนางเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นเมื่อได้เรียนรู้ว่า ศาสดาที่ถูกรอคอยจะปฏิบัติภารกิจศาสดาของท่านจากเมืองมักกะฮ์ และแต่งงานกับสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์และร่ำรวยจากตระกูลกุเรช

 

ท่านหญิงคอดีญะฮ์(อ.) มีความยินดีเมื่อมุฮัมมัด(ศ.) ตอบรับข้อเสนอของท่าน โดยตกลงเป็นผู้รับผิดชอบในการนำคาราวานธุรกิจของนางไปค้าขายที่ดามัสกัส ท่านหญิงได้แต่งตั้งมัยซาเราะห์ ทาสหญิงของนางให้เป็นตัวแทนของท่านเพื่อจับตาดูมารยาทและการปฏิบัติตัวของมุฮัมมัด(ศ.) ในระหว่างการเดินทางและรายงานให้นางทราบ เมื่อกลับจากดามัสกัสมาถึงมักกะฮ์แล้ว ท่านหญิงคอดีญะฮ์(อ.) ได้ขึ้นไปยังห้องชั้นบน เพื่ออยู่ในตำแหน่งที่จะมองเห็นขบวนคาราวานได้ทั้งหมด

 

มีเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงเกิดขึ้น ทำให้นางเกิดความสนใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาอย่างลึกซึ้ง นางสังเกตเห็นเมฆก้อนหนึ่งเคลื่อนกำบังแสงแดดให้แก่มุฮัมมัด(ศ.) และติดตามท่านไปทุกย่างก้าวและทุกการเคลื่อนไหว ความสนใจและศรัทธาอย่างลึกซึ้งนี้ทำให้นางขอแต่งงานกับท่านโดยกล่าวว่า "หากท่านปรารถนาที่จะแต่งงาน ฉันพร้อมและยินดีที่จะเป็นภรรยาและทาสของท่าน"

 

ข่าวการขอแต่งงานครั้งนี้ได้ยินไปถึงอบูฏอลิบและลุงคนอื่นๆ ของท่าน อบูฏอลิบผู้มีวาทศิลป์เป็นเลิศได้ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการแต่งงาน ขณะที่สินสอดในการแต่งงานมาจากทรัพย์สินของนางเอง

 

เมื่อมีพิธีสู่ขอและจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว บรรดาผู้หญิงชั้นต่ำและโง่เขลาในมักกะฮ์ ที่รู้จักความร่ำรวยของคอดีญะฮ์และการที่นางเป็นฝ่ายเสนอขอการแต่งงานเอง ได้วิจารณ์นางอย่างเผ็ดร้อนที่ยอมรับและแต่งงานกับมุฮัมมัด(ศ.) ที่เป็นเพียงลูกกำพร้าของอับดุลลอฮ์ เป็นคนยากจนจากตระกูลบะนีฮาชิม และไม่คู่ควรกับนางเลย

 

ท่านหญิงคอดีญะฮ์แต่งงานกับท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ศาสดาผู้บริสุทธิ์แห่งอิสลาม เมื่อนางมีอายุ 40 ปี และท่านมีอายุ 25 ปี เมื่อ ค.ศ.595 ท่านทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 6 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 4 คน

 

"เมื่อไม่มีใครเชื่อฉัน คอดีญะฮ์เชื่อ นางให้ฉันเป็นหุ้นส่วนในทรัพย์สินของนาง" นี่คือคำพูดของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ที่พูดถึงภรรยาของท่าน

ท่านหญิงคอดีญะฮ์(อ.) ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับท่านศาสดา(ศ.) เป็นเวลา 25 ปี และเป็นภรรยาคนเดียวของท่านในช่วงเวลานั้น เมื่อมีโองการถูกประทานมาจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้ถูกแต่งตั้งเป็นศาสดาท่านสุดท้ายอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 610 ท่านหญิงคอดีญะฮ์ (อ.) เป็นผู้ที่ยอมรับความศรัทธาเป็นมุสลิมคนแรก นางมีอายุ 55 ปี ในขณะนั้น การยอมรับอิสลามของท่านได้มีส่วนช่วยอย่างมากในการเผยแพร่ศาสนาไปในหมู่ชาวมักกะฮ์

 

นางยืนหยัดอยู่เคียงข้างท่านศาสดา(ศ็อลฯ) ตลอดเวลา ในช่วงเวลาแห่งการทดสอบและความยากลำบาก ท่านศาสดา(ศ็อล) เคยมาหานางและนางจะปลอบโยนและให้ความสบายใจแก่สามีของนาง และยังให้กำลังใจแก่ท่านด้วย ทรัพย์สินของท่านหญิงคอดีญะฮ์ถูกใช้จ่ายไปในหนทางของอิสลาม

 

ท่านศาสดาและท่านหญิงคอดีญะฮ์ต้องพบกับความสูญเสียบุตรชายสองคนของพวกท่าน คือกอซิม และอับดุลลอฮ์ ในขณะที่ทั้งสองยังเป็นทารก และในปีที่ห้าหลังการดำรงตำแหน่งศาสดา รุก็อยยะฮ์ บุตรสาวของพวกท่านก็ได้ย้ายไปอยู่อาบิซซิเนีย(เอธิโอเปีย) กับสามีของนาง

 

ชาวกุเรชทำทุกสิ่งงทุกอย่างเพื่อหยุดการเผยแพร่อิสลามของศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ท่านหญิงคอดีญะฮ์คือผู้ให้กำลังใจและให้ความสบายใจแก่ท่าน นางยังได้ร่วมทุกข์กับท่านในขณะที่ถูกคว่ำบาตรอยู่ที่หุบเขา อบูฏอลิบเป็นเวลาสามปีด้วย

 

สุภาพสตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิสลามท่านนี้ได้จากไปเมื่อวันที่ 10 เดือนรอมฎอน ปีที่สิบแห่งฮิจเราะฮ์ศักราช ตรงกับปี ค.ศ.620 เมื่อท่านอายุได้ 65 ปี การเสียชีวิตของนาง คือ ความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของท่านศาสดา (ศ.) ท่านมีความรักต่อท่านหญิงคอดีญะฮ์อย่างลึกซึ้ง และหลังจากที่นางเสียชีวิตไปแล้ว ท่านยังได้รำลึกถึงนางอยู่เสมอ

 

ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) เคยกล่าวถึงท่านหญิงคอดีญะฮ์(อ.) ว่า

"อัลลอฮ์(ซ.บ.) ไม่เคยมอบภรรยาที่ดีกว่าคอดีญะฮ์มาให้ฉันเลย นางตอบรับภารกิจของฉันในยามที่ทุกๆ คนตะโกนต่อต้านมัน นางให้การสนับสนุนฉันในขณะที่แทบจะไม่มีผู้ศรัทธาเลย นางให้ชีวิตชีวาแก่หัวใจฉันเมื่อฉันรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง ความรักขอคอดีญะฮ์ถูกมอบแก่ฉันโดย อัลลอฮ์(ซ.บ.) ฉันจะลืมนางได้อย่างไร?"

 

ในวันหนึ่งขณะที่เทวทูตญิบรีล(อ.ล)กำลังสนทนาอยู่กับท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ) ได้กล่าวกับท่านรอซูลลุลอฮฺ ว่า

 

يَا مُحَمَّدُ هَذِهِ خَدِيجَةُ أَتَتْكَ بِإِنَاءٍ فِيهِ طَعَامٌ أَوْ إِنَاءٍ فِيهِ شَرَابٌ فَأَقْرِئْهَا مِنْ رَبِّهَا السَّلاَمَ  وَبَشِّرْهَا بِبَيْتٍ فِي الْجَنَّةِ مِنْ قَصَبٍ لاَصَخَبَ فِيهِ وَلاَ نَصَبَ

 

ความหมายว่า  “โอ้มูฮัมมัด นี่คือนางคอดีญะฮ์ นางกำลังนำภาชนะที่บรรจุอาหารหรือน้ำดื่มมามอบแก่ท่าน ฉะนั้นเมื่อนางมาถึง ท่านจงบอกสลามจากพระเจ้าของนางแก่นาง และท่านจงบอกข่าวดีแก่นางว่า นางจะได้รับบ้านหลังหนึ่งในสวรรค์ที่ทำจากไข่มุก โดยจะไม่มีเสียงอึกทึกรบกวนและความเหนื่อยล้าในบ้านนั้นแต่อย่างใด

 

ขอขอบคุณเว็บไซต์เลิฟฮุเซน


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

...
ชีวประวัติของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ...
...
เดือนรอมฎอน เดือนแห่งอัลอิสลาม
ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัลอิคลาศ ตอนที่ ...
อาลัมบัรซัค ...
ความสำคัญของพ่อแม่ในอิสลาม
ความกตัญญูต่อบิดามารดา
ท่านอะบูฏอลิบ คือ ใคร
ฮิดายะฮ์ (การชี้นำ)ในอัลกุรอาน

 
user comment