ชีวิตในโลกนี้ คือหลักฐานบ่งชี้ถึงชีวิตในปรโลก
ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า
عَجِبْتُ لِمَن أَنْكَرَ النَّشْأَةَ الْأُخْرَى، وَهُوَ يَرَى النَّشْأَةَ الْأُولَى
“ฉันประหลาดใจต่อผู้ที่ปฏิเสธการมีชีวิตในปรโลก ในขณะที่เขาเห็นการมีชีวิตในโลกนี้”
(นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ ฮิกมะฮ์ที่ 126)
คำอธิบาย :
ใครก็ตามที่มองดูการใช้ชีวิตในโลกนี้ด้วยความเข้าใจและใช้สติปัญญา เขาจะมองเห็นทั่วทุกอณูของโลกนี้ว่าเต็มไปด้วยสัญญาณต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงเดชานุภาพแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า และใครก็ตามที่คิดใคร่ครวญถึงเดชานุภาพแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้าด้วยสติปัญญาและความเข้าใจ เขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธเรื่องของปรโลกและการมีชีวิตภายหลังความตายได้เลย
หากเราพิจารณาดูโลกใบนี้ด้วยความละเอียดอ่อน ด้วยสามัญสำนึกและความเป็นธรรม เราจะเข้าใจอย่างชัดเจนว่า มนุษย์ สัตว์และพืช และสิ่งมีชีวิตทั้งมวลในโลกนี้ ได้มีชีวิตขึ้นมาซึ่งแต่เดิมไม่มีชีวิตอยู่มาก่อน ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเดชานุภาพที่ทรงบังเกิดสิ่งมีชีวิตทั้งมวลนี้ขึ้นมาจากความไม่มีอะไรมาก่อน แน่นอนพระองค์ย่อมทรงเดชานุภาพที่จะบันดาลให้สรรพสิ่งทั้งมวลเหล่านี้มีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ภายหลังจากความตายและการสิ้นสลายของมัน
หากเราคิดใคร่ครวญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ในด้านหนึ่งเราจะพบว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกำหนดรากฐานที่มาของชีวิตมนุษย์ไว้ในดิน และในช่วงเวลาที่จำเป็นพระองค์ได้ทรงทำให้มวลมนุษย์บังเกิดขึ้นมาจากดินนั้น เริ่มแรกทีเดียวรากฐานของชีวิตและบ่อเกิดแห่งการดำรงอยู่ของเราถูกซ่อนอยู่ในใจกลางของพื้นดินในท้องทุ่งทั้งหลาย จากพื้นดินเหล่านี้ที่ข้าวสาลี ข้าวเจ้า ผัก ผลไม้และพืชพันธ์ธัญญาหารต่างๆ ได้งอกเงยขึ้นมา และพ่อแม่ของเราได้บริโภคส่วนหนึ่งจากสิ่งที่งอกเงยขึ้นมาเหล่านี้ และอีกส่วนหนึ่งของมัน สรรพสัตว์ทั้งหลายก็ได้บริโภคเป็นอาหารเช่นเดียวกัน เพื่อที่จะดำรงชีวิตอยู่และเจริญเติบโตขึ้น และกลายมาเป็นอาหารของมนุษย์ กล่าวคือเมื่อพ่อแม่ของเราได้กินเนื้อของสัตว์ทั้งหลายเป็นอาหาร ในความเป็นจริงแล้วพวกท่านได้ใช้ประโยชน์จากอาหารซึ่งรากฐานที่มาของมันก็คือดินนั่นเอง
ตามลำดับขั้นตอนดังกล่าวนี้ พ่อแม่ของเราได้ดำรงชีวิตอยู่และเจริญเติบโตขึ้นโดยการบริโภคอาหารต่างๆ ซึ่งแหล่งกำเนิดดั้งเดิมของมันนั้นมาจากดิน ต่อจากนั้นเซลล์แห่งการดำรงอยู่ของเราก็ได้ปรากฏขึ้นในไขสันหลังและครรภ์ของท่านเหล่านั้น จากนั้นเราก็ได้เริ่มการเจริญเติบโตขึ้น มีมือ มีเท้า มีตา มีหู มีสมองและอวัยวะร่างกายส่วนอื่นๆ และในที่สุดเราก็ก้าวออกจากครรภ์ของมารดามาสู่โลกใบนี้ในรูปของมนุษย์ที่สมบูรณ์คนหนึ่ง ขั้นตอนทั้งหมดเหล่านี้ นับจากช่วงเวลาที่อณูต่างๆ แห่งการดำรงอยู่ของเรายังอยู่ในใจกลางของดิน จนกระทั่งอณูเหล่านี้ได้เคลื่อนมาสู่การดำรงอยู่ของพ่อแม่ และต่อจากนั้นก็กลายมาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ล้วนดำเนินไปโดยเดชานุภาพแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้าทั้งสิ้น
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ก่อนหน้านี้พระเจ้าทรงแสดงให้เห็นเดชานุภาพของพระองค์มาแล้วครั้งหนึ่งในโลกนี้ โดยที่พระองค์ได้ทรงบังเกิดเราขึ้นมาจากดิน ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ พระเจ้าผู้ทรงมีเดชานุภาพเช่นนี้ ย่อมสามารถที่จะกระทำการดังกล่าวได้อีกครั้งหนึ่ง กล่าวคือ เมื่อเราตายลงและกลายเป็นดิน ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ พระผู้เป็นเจ้าของเราจะบังเกิดเราขึ้นมาจากใจกลางของดินอีกครั้งหนึ่ง และจะทรงให้เรามีชีวิตและการดำรงอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อที่เราจะไปปรากฏตัวในท้องทุ่งมะห์ชัร (สถานที่รวมตัว) เพื่อการตรวจสอบบัญชีการกระทำต่างๆ ของเรา
source : alhassanain