ไทยแลนด์
Monday 25th of November 2024
0
نفر 0

อิมามอะลี อัลฮาดีย์ อิมามที่สิบแห่งอะฮ์ลุลบัยต์

อิมามอะลี อัลฮาดีย์ สมญานามของท่าน คือ อะบุลฮะซัน ฉายานาม คือ อัลนะกียฺ และอัลฮาดีย์ (อ) ท่านเป็นอิมาม (ผู้นำ) ท่านที่ 10 จากวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ของบรรดาชีอะฮ์อิมามียะฮ์ ท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) ถือกำเนิดในวันที่ 15 ซุลฮิจญะฮ์ ฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 212 ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่รอบๆ นครมะดีนะฮ์ ชื่อว่า “ซ็อรยา”
อิมามอะลี อัลฮาดีย์ อิมามที่สิบแห่งอะฮ์ลุลบัยต์

อิมามอะลี อัลฮาดีย์ สมญานามของท่าน คือ อะบุลฮะซัน ฉายานาม คือ อัลนะกียฺ และอัลฮาดีย์ (อ) ท่านเป็นอิมาม (ผู้นำ) ท่านที่ 10 จากวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ของบรรดาชีอะฮ์อิมามียะฮ์

 

ท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) ถือกำเนิดในวันที่ 15 ซุลฮิจญะฮ์ ฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 212 ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่รอบๆ นครมะดีนะฮ์ ชื่อว่า “ซ็อรยา”

 

บิดาของท่านคืออิมามญะวาด (อ) อิมามท่านที่ 9 จากวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) และมารดาของท่านคือ ซะมานะฮ์

 

อิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) ได้เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้นำ (อิมามะฮ์)ในปีที่ 220 แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช ภายหลังจากการเป็นชะฮีด (เสียชีวิตในหนทางของพระเจ้า) ของบิดาท่าน

ซึ่งในชาวงเวลานั้นท่านอิมามฮาดีย์ (อ) มีอายุแค่ 8 ขวบ ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของท่านรวม ทั้งสิ้น 33 ปี

อิมามฮาดีย์ (อ) เป็นชะฮีด (ถูกสังหารในหนทางแห่งพระองค์) ในฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 254 ณ เมืองซะมัรรออ์ ในวัย 41 ปีเศษ

 

 

ผู้ปกครองที่ท่านอิมามร่วมอยู่ด้วย จากราชวงศ์อับบาซียะฮ์มีอยู่หกคน ดังนี้

 

1. มุอ์ตะซิม บิลลาฮ์ น้องชายของมะอ์มูน (ปกครองอยู่ช่วงปีฮ.ศ.ที่ 217-227)

2. วาซิก บิลลาฮ์ บุตรของมุอ์ตะซิม (ปกครองอยู่ช่วงปีฮ.ศ. 224-232)

3. มุตะวักกิล บิลลาฮ์ น้องชายของวาซิก (ปกครองอยู่ช่วงปี 232-248)

4. มุนตะซิร บิลลาฮ์ บุตรชายของมุตะวักกิล (ปกครองอยู่ประมาณหกเดือน)

5. มุสตะอีน บิลลาฮ์ (ปกครองอยู่ช่วงปี 248-252)

6. มุอ์ตัซ บิลลาฮ์ บุตรชายอีกคนหนึ่ง ของมุตะวักกิล (ปกครองอยู่ช่วงปี 252-255)

 

มาตแม้นว่าระยะเวลาแห่งการเป็นอิมามของท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) จะยาวนานถึงสามสิบกว่าปี แต่ทว่าด้วยสาเหตุของอุปสรรคต่างๆนานา จากเหล่าผู้ปกครองแห่งราชวงศ์อับบาซียะฮ์ ทำให้ท่าน

อิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) ไม่สามารถทำการสั่งสอนวิชาการได้อย่างเต็มที่

จนในที่สุดท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) ได้ถูกมุตะวักกิลอับบาซีย์เชิญตัวแกมบังคับให้ท่านอิมามออกจากนครมะดีนะฮ์สู่เมืองซามัรรออ์ การกระทำของฝ่ายผู้ปกครองอับบซียะฮ์นั้นย่อมบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า พวกเขากังวลและระแวง ต่อการเคลื่อนไหวของท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) ฉะนั้นพวกเขาจีงต้องควบคุมตัวท่านไว้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเป็นการปิดกั้นไม่ให้ท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) เคลื่อนไหวทางสังคมการเมืองได้อย่างสะดวก

 

 

มุตะวักกิล มีความคับแค้นใจและเป็นปฏิปักษ์ต่อวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) อย่างที่สุด และถ้าหากเขาได้ทราบว่าบุคคลใดก็ตามที่มีความรักต่อวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) เขาก็จะยึดทรัพย์สิน และสังหารคนๆ นั้นในทันที คล้ายๆ กับมุสลิมกลุ่มหนึ่งในปัจจุบัน ที่ประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับชีอะฮ์ของ

อะฮ์ลุลบัยต์ (อ) อย่างแข็งขัน พวกเขาได้แสดงความคับแค้นใจอย่างมากมายออกมา และตั้งหน้าตั้งตาโจมตี ให้ร้ายป้ายสีต่างๆ นานา ทั้งบนเวที และในโลกอินเตอร์เน็ต ต่อชีอะฮ์ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) ซึ่งมีให้เห็นมากมายในยุคปัจจุบัน

 

ในสถานการณ์ดังกล่าว ท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) จึงได้ประยุกต์การเผยแพร่ศาสนาอิสลามที่แท้จริง ด้วยการปฏิบัติต่างๆเพื่อการซึมซาบทางจิตวิญญาณ และกระตุ้นความรู้สึกทางด้านจิตใจแก่ประชาชาติอิสลาม ด้วยจริยะธรรม ศีลธรรมอันดีงาม เพื่อนำทางประชาชาติอิสลามเข้าสู่แนวทางที่เที่ยงตรง

 

ท่านอิมามอะลี ฮาดีย์ (อ) คือผู้หนึ่งที่ในชีวิตของท่าน ท่านจะใช้เวลาในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างมากมาย ในรายงานบันทึกว่า ในทุกค่ำคืนท่านจะอดหลับอดนอนเพื่อเคารพภักดีต่อพระองค์อย่างมากมาย ด้วยการโค้ง (รูกูอ์) กราบกราน (สุญูด) จนกระทั่งที่หน้าผากของท่านมีร่องรอยเป็นสีดำ


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

อัลกุรอาน คัมภีร์แห่งทางนำ
...
คุณลักษณะของมนุษย์ผู้สมบูรณ์
...
การเป็นศาสดาคนสุดท้ายของโลก
ความโลภคือรากของความชั่วร้าย
...
...
ทำไมอิสลามห้ามดื่มสุรา
บทเรียนจากตัฟซีรเนะฮ์มูเนะฮ์ ...

 
user comment