ไทยแลนด์
Thursday 26th of December 2024
0
نفر 0

ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) แก้วตาดวงใจของอิมามฮุเซน(อ.)

ในโลกอาหรับรู้จักลูกสาวคนเล็กของอิมามฮุเซน(อ.) ในนามรุกอยยะฮ์ ในขณะที่โลกมุสลิมทั่วไปรู้จักท่านในนามว่าซากีนา หรือ ท่านหญิงซากีนะฮ์ บินติ ฮุเซน(อ.)
ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) แก้วตาดวงใจของอิมามฮุเซน(อ.)

ในโลกอาหรับรู้จักลูกสาวคนเล็กของอิมามฮุเซน(อ.) ในนามรุกอยยะฮ์ ในขณะที่โลกมุสลิมทั่วไปรู้จักท่านในนามว่าซากีนา หรือ ท่านหญิงซากีนะฮ์ บินติ ฮุเซน(อ.)

 
 
ท่านหญิงซากีนะฮ์เป็นเด็กที่มีความสดใสร่าเริง เต็มไปด้วยความรักและความสุข ท่านหญิงเป็นที่รักใคร่ของทุกคน ท่านหญิงเป็นเด็กที่เคร่งครัดในศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ท่านชอบอ่านคัมภีร์อัล-กุรอาน และไม่เคยขาดนมาซเลย ตั้งแต่อายุสองขวบ ท่านเอาใจใส่อย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่าได้ปกปิดศีรษะและใบหน้าของท่านตามลักษณะการแต่งกายของสตรีมุสลิมที่เรียกว่าฮิญาบเพื่ออยู่ในที่สาธารณะ
 

 
ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) เป็นลูกสาวที่อิมามฮุเซน(อ.) รักมากที่สุด ท่านเคยนมาซตะฮัจญุด(นมาซชับ หรือนมาซกลางคืน) เพื่อขอให้ได้ลูกสาวคนหนึ่ง และการถือกำเนิดของท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) คือผลจากการนมาซกลางคืนเหล่านั้น

 
 
อิมามฮุเซน(อ.) เคยกล่าวบ่อยครั้งว่า “บ้านที่ไม่มีซากีนะฮ์คงจะเป็นบ้านที่ไม่น่าอยู่” ท่านหญิงซากีนะฮ์มีรอยยิ้มที่สดใสและแสนหวาน มีนิสัยที่เป็นมิตรกับทุกคน เด็กอื่นๆ อยากเป็นเพื่อนกับท่านด้วยความที่ท่านจะเป็นเด็กที่ใจกว้างและแบ่งปันทุกอย่างที่มีให้กับผู้อื่น

 
 
แม้แต่ท่านอับบาส(อ.) ผู้เป็นอาก็ยังมีความรักและผูกพันเป็นพิเศษกับท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ท่านอับบาส(อ.) รักท่านหญิงมากกว่าที่ท่านรักลูกๆ ของตัวเอง หากท่านหญิงซากีนะฮ์ร้องขอสิ่งใด ท่านอับบาส(อ.) จะไม่นิ่งเฉยจนกว่าจะทำให้ท่านหญิงพอใจตามที่ขอได้ ไม่มีสิ่งใดที่ท่านอับบาส(อ.) จะไม่ทำถ้ามันจะทำให้ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) มีความสุข
 

 
ระหว่างการเดินทางจากมะดีนะฮ์มายังมักกะฮ์ และจากมักกะฮ์ไปถึงกัรบะลานั้น ท่านอับบาส(อ.)มักจะนั่งบนหลังอูฐตัวเดียวกับท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อท่านหญิงต้องการสิ่งใดแล้วท่านจะหาให้ ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ก็มีความรักต่ออาของท่านอย่างมากเท่ากัน

 
 
ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ก็เหมือนกับเด็กๆ ในวัย 4-5 ขวบทั่วไป เมื่อยามเข้านอนท่านหญิงอยากจะให้บิดาอยู่กับท่านก่อนสักพัก อิมามฮุเซน(อ.) มักจะเล่าเรื่องราวของท่านศาสดา(ศ.) และการต่อสู้ในสมรภูมิต่างๆ ของอิมามอะลี(อ.) ผู้เป็นปู่ เมื่อเข้าวันที่สองมุฮัรรอมที่กัรบะลา กองทัพของยะสีดเริ่มสมทบเข้ามาอย่างหนาแน่น อิมามฮุเซน(อ.) กล่าวแก่ท่านหญิงซัยนับ(อ.) ว่า “ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องทำให้ซากีนะฮ์เคยชินกับการเข้านอนโดยไม่มีพี่” ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) จะเดินตามบิดาของท่านในเวลากลางคืน และอิมามฮุเซน(อ.) จะนำท่านมาหาท่านหญิงซัยนับ(อ.) ผู้เป็นอา และท่านหญิงรุบาบ(อ.) ผู้เป็นมารดา

 
 
วันที่ 7 มุฮัรรอม ที่กัรบะลา เส้นทางไปหาน้ำถูกปิดกั้นด้วยกองทัพของยะสีด ทำให้ค่ายของอิมามฮุเซน(อ.) ขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) แบ่งปันน้ำน้อยนิดที่ท่านมีให้กับเด็กคนอื่นๆ และเมื่อไม่มีน้ำอีกแม้แต่นิดเดียว เด็กๆ ที่กระหายน้ำจะหันมามองท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ด้วยความหวังเต็มเปี่ยม และเมื่อท่านหญิงไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ท่านจึงร้องไห้ ริมฝีปากของท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) แห้งผากด้วยความกระหายน้ำ

 
 
วันที่ 10 มุฮัรรอม หรือวันอาชูรอ ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ได้มอบถุงน้ำให้ท่านอับบัส(อ.) เพื่อไปหาน้ำมาให้ท่านและเด็กๆ เมื่อท่านอับบาส(อ.) ออกไปเอาน้ำ บรรดาเด็กๆ มารวมตัวกันรอบท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) พร้อมกับภาชนะใส่น้ำใบเล็กๆ ของพวกเขา ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานท่านอับบาส(อ.) ก็จะต้องนำน้ำกลับมา ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) สัญญากับทุกคนว่าท่านจะให้ทุกคนได้ดื่มน้ำก่อนตัวท่านเอง แต่เมื่อท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ได้เห็นอิมามฮุเซน(อ.) ถือธงเปียกโชกไปด้วยเลือดกลับมา ท่านก็รู้แล้วว่าท่านอับบาส(อ.) อาสุดที่รักของท่านได้พลีชีพไปแล้ว

 
 
ตั้งแต่วันนั้นมา ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ไม่เคยบ่นว่ากระหายน้ำอีกเลย ท่านหญิงไม่เคยขอน้ำจากใครอีกเลย ท่านหญิงซัยนับ(อ.) คะยั้นคะยอให้ท่านจิบน้ำได้เพียงเล็กน้อย แต่ตัวท่านหญิงเองไม่เคยร้องขอน้ำและไม่เคยยบ่นว่ากระหายน้ำอีกเลย

 
 
เมื่อถึงเวลาที่พื้นแผ่นดินแทบสั่นสะเทือนและท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ท่านหญิงก็ยังมีจิตใจคิดถึงผู้อื่นก่อนอยู่เสมอ ท่านจะปลอบโยนท่านหญิงรุบาบ(อ.) มารดาของท่านในเรื่องการเสียชีวิตของอะลีอัสกัร น้องชายวัย 6 เดือนของท่าน และเมื่อท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) เห็นสตรีหรือเด็กคนอื่นๆ ร่ำไห้ ท่านจะกอดพวกเขาด้วยอ้อมแขนน้อยๆ ของท่าน
 

 
นับจากวันที่อิมามฮุเซน(อ.) ได้พลีชีพในสมรภูมิกัรบะลา ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) ก็ไม่เคยมีรอยยิ้มอีกเลย กูฟะฮ์ได้เห็นว่าท่านเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่เหม่อลอย บ่อยครั้งที่ท่านจะผุดลุกขึ้นกลางดึก และเมื่อมีคนถามว่าท่านต้องการอะไร ท่านจะตอบว่า “ฉันแค่ได้ยินเสียงเด็กร้อง? เป็นเสียงของอะลีอัสกัรหรือเปล่า? เขาต้องเรียกหาฉันแน่ๆ”
 

 
ท่านหญิงซากีนะฮ์(อ.) รู้ว่าการที่ท่านร้องไห้จะทำให้มารดาของท่านเศร้าใจ ท่านหญิงจึงจะแอบร้องไห้เงียบๆ ไม่รีบเช็ดน้ำตาไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตกเป็นนักเชลยและถูกขังอยู่ในคุกที่ดามัสกัส ท่านจะเฝ้ามองฝูงนกบินกลับรังยามพลบค่ำแล้วถามท่านหญิงซัยนับ(อ.) ว่า “ซากีนะฮ์จะได้กลับบ้านเหมือนนกพวกนั้นที่กำลังบินกลับบ้านของมันหรือเปล่า?”

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

ความหมายของตักวาในอัลกุรอาน
ชีวประวัติของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ...
...
กำเนิดจักรวาล
"ฝน"ในอัลกุรอาน
ทำไมเราต้องทำนมาซด้วย?
น้ำผึ้งในอัลกุรอานและฮะดีษ
ท่านอะบูฏอลิบ คือ ใคร
ความเป็นพี่น้องในอิสลาม
คุตบะฮ์ชะอ์บานียะฮ์ ...

 
user comment