ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ได้กล่าวว่า “เดือนรอมฎอนคือเดือนแห่งพระผู้เป็นเจ้า คือเดือนแห่งการหวนกลับ (เตาบะฮ์)” ในเดือนรอมฎอนตลอดทั้งเดือนท่านศาสดาจะกล่าวอยู่ตลอดเวลาว่า “อัลลอฮุมมะ อินนะ ฮาซา ชะฮ์รุรอมมะฎอน วะฮาซา ชะฮ์รุตเตาบะฮ์” หมายถึง โอ้อัลลอฮ์ เดือนนี้คือเดือนรอมฎอน เป็นเดือนแห่งการหวนกลับ (เตาบะฮ์)”
ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ผู้นำการปฏิวัติอิสลามผู้ยิ่งใหญ่ได้กล่าวอรรถาธิบายเรื่องการ เตาบะฮ์ ไว้ในหนังสือ สี่สิบฮะดีษของท่านว่า “เตาบะฮ์คือ การหวนกลับจากลักษณะที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ หรืออุปนิสัยสันดานของสิ่งๆนั้น ไปสู่ความบริสุทธิ์แห่งความเป็นตัวตน หลังจากที่รัศมีแห่งความบริสุทธิ์ของความเป็นตัวตนได้หลงใหลอยู่กับความมืดแห่งสันดานในสิ่งๆนั้น ด้วยการทำความผิด และขัดขืนคำสั่งต่างๆ”
พระผู้เป็นเจ้ามีความรักต่อผู้ที่หวนกลับไปสู่ความบริสุทธิ์แห่งจิตวิญญาณ เป้าหมายที่สูงสุดของบรรดาศาสดาที่มายังโลกนี้คือการเชิญชวนมนุษยชาติให้หวนกลับ เพราะการหวนกลับคือแนวทางเดียวที่จะทำให้มนุษยชาติเข้าสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบได้ดีที่สุด การละเว้นจากการกระทำความผิด การกระทำบาป และหวนกลับสู่หนทางแห่งพระผู้เป็นเจ้า คือสารัตถะสำคัญของการพัฒนาตนเอง และการพัฒนาจิตวิญญาณของมนุษย์ การหวนกลับ (เตาบะฮ์) คือสิ่งที่งดงามที่สุดในเรื่องของการขออภัยโทษจากพระองค์
ในรายงานหนึ่งท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ได้กล่าว่า “ในค่ำคืนแรกของเดือนรอมฎอนพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) จะทรงสั่งให้บรรดามะลาอิกะฮ์ (ทูตสวรรค์) ว่า จงตระเตรียมสรวงสวรรค์ไว้ให้พร้อม แด่บรรดาผู้ที่ถือศีลอดจากประชาชาติของมุฮัมมัด (ศ.) และจงไปปิดประตูนรกสำหรับผู้ที่ถือศีลอด และอย่าเปิดเด็ดขาดจนกระทั่งเดือนรอมฎอนจะจบสิ้น และยังทรงสั่งให้ญิบรออีลลงไปยังพื้นพิภพเพื่อปิดกั้นการล่อลวงของชัยฎอนมารร้ายที่จะทำลายการถือศีลอด และความศรัทธาของประชาชาติของมุฮัมมัดอีกด้วย”
แท้จริงแล้วการหวนกลับ (เตาบะฮ์) สำหรับประชาชาติของมุฮัมมัด (ศ.) ไปสู่พระองค์ผู้ทรงยิ่งใหญ่นั้นมีอยู่ทุกวันแ ละทุกเวลา แต่เดือนรอมฎอนถือว่าเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการหวนกลับ เนื่องจากว่าในเดือนนี้นั้น ความเหมาะสมอันมากมาย และการยอมรับจะมีมากกว่าเดือนอื่นๆหลายเท่านัก ดังรายงานที่กล่าวไปแล้วข้างต้นจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.)
และท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ยังได้กล่าวอีกว่า “พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) จะทรงถามอยู่ตลอดทั้งเดือนรอมฎอนว่า มีหรือไม่ผู้ที่ต้องการหวนกลับ (เตาบะฮ์) เพื่อที่เราจะได้ตอบรับการเตาบะฮ์ของเขา???????”
การเตาบะฮ์ จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บรรดาอิมามมะอ์ซูม (อ.) ได้เน้นย้ำให้ชีอะฮ์ของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหลายๆ คำวิงวอนของบรรดาผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นได้วิงวอนขอการหวนกลับจากพระองค์อยู่เป็นนิจสิน แต่การที่บรรรดาผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นวิงวอนขอเช่นนั้นมิได้หมายความว่าพวกเขาตกอยู่ในความมืดมิด แต่นั่นคือแบบอย่างที่พวกเขาต้องการนำเสนอให้กับมนุษยชาติได้นำมาปฏิบัติเพื่อยังความใกล้ชิดกับพระองค์
ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเตาบะฮ์เอาไว้ว่า “โอ้ประชาชาติที่รักทั้งหลาย จงอย่าเพิกเฉยกับการเตาบะฮ์อย่างเด็ดขาด จงคิดใคร่ครวญถึงสภาพของตนเอง จุดจบของตนเองที่กำลังจะมาเยือน จงย้อนกลับไปสู่คัมภีร์ของพระองค์ แบบอย่างของศาสดามุฮัมมัด (ศ.) แบบอย่างของบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) และคำตักเตือนของบรรดาผู้รู้ที่อยู่ในหมู่พวกท่าน ประตูการเตาบะฮ์ คือประตูที่จะเข้าไปสู่ประตูต่างๆอีกมากมาย จงสำรวจตนเองให้ดี
การเตาบะฮ์คือสถานพำนักหนึ่ง จากสถานพำนักแห่งการเป็นมนุษย์ที่แท้จริง จงเข้าไปพำนักในสถานที่นั้น จงให้ความสำคัญกับมัน จงรักษามันไว้ให้มั่น จงวิงวอนขอจากพระองค์ให้มากต่อการได้เป็นผู้เตาบะห์ที่แท้จริง จงขอความช่วยเหลือผ่านท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) และจากบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.) จงพึ่งพิงยังท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) สัญญาณแห่งพระองค์บนหน้าแผ่นดินนี้ เนื่องจากท่านจะทรงช่วยเหลือผู้อ่อนแอ และยากไร้อยู่เสมอ
โอ้ประชาชาติที่รักเอ๋ย อย่าปล่อยให้บรรดาชัยฏอนมารร้ายมีโอกาสเข้ามาลวงล่อ อย่าปล่อยให้อารมณ์ฝ่ายต่ำมีอำนาจเหนือพวกท่าน จนทำให้พวกท่านต้องออกห่างจากการเป็นผู้ที่หวนกลับไปยังพระองค์ พึงรู้ไว้เถิดว่า แม้ว่าสิ่งใดก็ตามที่มันหนักหน่วง แต่หากไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อยมันก็จะไร้ผล มาดแม้นว่า นมาซ การถือศีลอด สิทธิต่างๆ ของพระองค์จะมากมายเพียงใด สิทธิต่างๆ ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็มีมากเช่นนั้น
โอ้ประชาชาติที่รัก แม้ว่าความผิด บาปต่างๆ จะมากมายเพียงใด จงอย่างสิ้นหวังในความเมตตาจากพระองค์เด็ดขาด การเคลื่อนใหวเพียงนิดไปสู่พระองค์ของพวกท่าน พระองค์จะทรงเปิดทางแห่งความรอดพ้นแก่พวกท่านอย่างมากมายและไม่มีที่สิ้นสุด”