ความประเสริฐของ "ดุอาอ์กุเมล"
เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม
บรรดาอาริฟ (ผู้รู้แจ้งในสภาวะของพระเจ้า) และผู้ที่มีความรักมุ่งสู่การเป็นอาริฟ บรรดาผู้ที่ตื่นจากภวังค์ และมีหัวใจที่มีความชอบธรรมทั้งหลาย ได้ให้สถานภาพดุอาอ์กุเมลเหนือบรรดาบทดุอาอ์ทั้งหมดที่มีอยู่ เปรียบได้กับการมีอยู่ของมนุษย์ท่ามกลางสรรพสิ่งทั้งมวลที่มีอยู่ในจักรวาลนี้ อันเนื่องจากว่ามนุษย์คือสิ่งถูกสร้างที่ดีที่สุดจากสิ่งถูกสร้างทั้งมวล ดุอาอ์กุเมลก็เช่นเดียวกันคือบทดุอาอ์ที่ดีที่สุดในบรรดาบทดุอาอ์ทั้งหมดที่มีอยู่
ท่านอัลลามะฮ์มัจญลิซีย์ ได้กล่าวว่า "ดุอาอ์กุเมล คือดุอาอ์ที่ดีสุดในบรรดาดุอาอ์"
ท่านอัลลามะฮ์มัจญลิซีย์ ได้บันทึกไว้ในหนังสือ "ซาดุ้ลมะอาด" ซึ่งอ้างจากหนังสือ "อิกบาล" ของท่านซัยยิด อิบนิฏอวูส ว่า ท่านกุเมลได้กล่าวว่า "ณ เมืองบัสเราะฮ์ในวันหนึ่ง ฉันได้พบกับท่านอะมีรุ้ลมุอ์มินีน อิมามอะลี (อ) ฉันได้ถามอิมาม (อ) ว่า ในซูเราะฮ์อัดดุคอน โองการที่ 4 พระองค์ทรงตรัสว่า "ในคืนนั้นทุกๆ กิจการที่สำคัญถูกจำแนกไว้แล้ว" หมายถึงอะไร?
อิมามอะลี (อ) ได้ตอบแก่ฉันว่า "คือค่ำคืนนิสฟุชะอ์บาน (ค่ำคืนที่ 15 เดือนชะอ์บาน)"
อิมามอะลี (อ) ได้กล่าวต่อว่า "ขอสาบานต่อพระองค์ พระผู้ซึ่งชีวิตของอะลีอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ไม่มีบ่าวคนใดสักคน ที่จะไม่ถูกลิขิตชะตาที่จะเกิดขึ้นทั้งในเรื่องที่ดี และไม่ดีของเขาจนถึงปีหน้าในค่ำคืนนิสฟุชะอ์บาน และเช่นกันจะไม่มีบ่าวคนใดสักคนซึ่งอดหลับอดนอนในค่ำคืนดังกล่าวเพื่อขอดุอาอ์ และได้อ่านดุอาอ์ของศาสดาเคฎร์ (อ) นอกจากดุอาอ์ของเขาจะถูกยอมรับจากพระองค์"
ท่านกุเมลได้กล่าวต่อว่า "เมื่ออิมามอะลี (อ) ได้กลับไปบ้าน ฉันได้ตามอิมามไปทันที และเมื่อท่านอิมามได้เห็นฉัน อิมามได้กล่าวขึ้นว่า แล้วเจ้ามีธุระอันใดอีกหรือ? ฉันจึงได้ตอบทันทีว่า ฉันมาขอให้ท่านอิมามสอนบทดุอาอ์ศาสดาเคฎร์ (อ) ให้แก่ฉัน
อิมามอะลี (อ) จึงได้กล่าวแก่ฉันว่า "นั่งลงซิ" จากนั้นอิมามอะลี (อ) จึงได้กล่าวแก่ฉันว่า โอ้กุเมลเอ๋ย คราใดก็ตามเมื่อเจ้าได้ท่องจำดุอาอ์บทนี้แล้ว ก็จงอ่านในทุกค่ำวันศุกร์ หรืออ่านสักครั้งในหนึ่งเดือน หรืออ่านให้ได้สักครั้งในหนึ่งปี หรือว่าจงอ่านให้ได้สักครั้งตลอดชีวิตของเจ้า เนื่องจากการอ่านดุอาอ์บทนี้ พระองค์จะทรงปกป้องเจ้า ให้พ้นจากความ่ชั่วร้ายต่างๆ ของศัตรู และจะเพิ่มพูนปัจจัยยังชีพแก่เจ้าอย่างมากมาย และจะยังช่วยลบล้างบาปต่างๆ ของเจ้าอีกด้วย"
อิมามอะลี (อ) ยังได้กล่าวต่ออีกว่า "โอ้กุเมล ความรัก ความผูกพันธ์อันยาวนานของเจ้าที่มีต่อฉัน คือที่มาของการได้รับความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่นี้ ที่ฉันจะได้สร้างความภาคภูมิใจสำหรับเจ้า" หลังจากนั้นอิมามอะลี (อ) ได้กล่าวอีกว่า "จงบันทึกซิ" และท่านอิมามได้อ่านบทดุอาอ์นั้นให้ฉันฟังจนจบ
มัรฮูมกัฟอะมีย์ ได้บันทึกเอาไว้ในหนังสือ "มิศบาฮ์" ของท่านว่า "ท่านอะมีรุ้ลมุอ์มินีน อิมามอะลี (อ) ได้กล่าวดุอาอ์บทนี้ในขณะที่ท่านกำลังกราบกราน (ซุญูด) ต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ)"
ผู้ที่ประสงค์จะอ่านดุอาอ์บทนี้ จะเป็นการสมควรอย่างยิ่ง เมื่อค่ำวันศุกร์มาถึงจงรักษามารยาทต่างๆ ของการอ่านดุอาอ์ อาธิเช่นการมีน้ำวุฎุอ์ การผินหน้าไปยังกิบลัต และอ่านดุอาอ์ด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ด้วยความสมถะ อ่อนน้อมถ่อมตนยังพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) แน่นอนยิ่ง หากผู้ใดกระทำได้เช่นนั้น นั่นหมายความว่าเขาผู้นั้นได้เข้าใกล้ชิดยังพระองค์ และเข้าสู่ความโปรดปรานต่างๆ ของพระองค์แล้ว
ดวงตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้ เนื่องจากสำนึกในความผิดบาปต่างๆ ของตนเองจะนำมาซึ่งการอภัยโทษจากพระองค์ และจะช่วยดับเปลวไฟแห่งความกริ้วโกรธของพระองค์ได้ อีกทั้งความโปรดปรานต่างๆ อันมากมายจากพระองค์จะหลั่งไหลสู่เจ้าของดวงตาเหล่านั้น
มีรายงานจากท่านอิมามญะอ์ฟัร ซอดิก (อ) ว่า "ทุกๆ ดวงตาจะร่ำไห้ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ และวันแห่งการสอบสวนนอกจากสามดวงตาเท่านั้น หนึ่งดวงตาซึ่งไม่ได้มองในสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามมอง สองดวงตาซึ่งตื่นจากการหลับใหลในหนทางของพระองค์ สามดวงตาซึ่งร้องไห้ในยามดึกดื่นเนื่องจากเกรงกลัวพระองค์"
แปลเรียบเรียงโดย เชคมาลีกี ภักดี
ขอขอบคุณเว็บไซต์อะฮ์ลุลบัยต์อะคาเดมี