ตัฟซีร ซูเราะฮ์อัลนัศร์ ตอนที่ ๒
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปรานียิ่ง
إِذَا جَاءَ نَصْرُ اللَّهِ وَالْفَتْحُ
ครั้นเมื่อความช่วยเหลือของอัลลอฮฺและชัยชนะได้สำเร็จลง
وَرَأَيْتَ النَّاسَ يَدْخُلُونَ فِي دِينِ اللَّهِ أَفْوَاجًا
และเจ้าได้เห็นประชาชนเข้ารับศาสนาของอัลลอฮฺเป็นกลุ่มๆ
فَسَبِّحْ بِحَمْدِ رَبِّكَ وَاسْتَغْفِرْهُ إِنَّهُ كَانَ تَوَّابًا
ดังนั้นจงสดุดีด้วยการสรรเสริญพระผู้อภิบาลของเจ้า และจงขออภัยโทษต่อพระองค์เถิด แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยโทษเสมอ
โองการแรกของซูเราะฮ์กล่าวว่า ครั้นเมื่อความช่วยเหลือของอัลลอฮ์และชัยชนะได้สำเร็จลงเจ้าก็ได้เห็นประชาชนเข้ารับศาสนาของอัลลอฮฺเป็นกลุ่ม ๆ จริงอยู่ที่ว่าโดยทั่วไปแล้วถ้าหากต้องการควบคุมกองกำลังและประชาชนทั้งหมดจำเป็นต้องเสริมสร้างกองกำลังและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ แต่สำหรับผู้ที่ยึดมั่นในอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทราบดีว่าการช่วยเหลือนั้นต้องมาจากพระองค์เพียงฝ่ายเดี่ยว ฉะนั้นเมื่อเขาประสบชัยชนะจึงไม่แสดงความยโสโอหัง ทว่าเขาจะรีบทำการขอบคุณต่ออัลลอฮฺทันที อัลกุรอานได้ยืนยันไว้ว่า ดังนั้นจงสดุดีด้วยการสรรเสริญพระผู้อภิบาลของเจ้า และจงขออภัยโทษต่อพระองค์เถิด แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยโทษเสมอ
ซูเราะฮ์ดังกล่าวได้อธิบายว่า อันดับแรกการช่วยเหลือนั้นมาจากอัลลอฮ์ หลังจากนั้นจึงได้รับชัยชนะพร้อมกับการแผ่อิทธิพลของอิสลามเข้าไปในเขตพื้นที่ยึดครอง (มักกะฮ์) ทำให้ประชาชนเข้ารับอิสลามกันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งทั้งสามโองการถ้าสังเกตจะเห็นว่าเป็นเหตุและผลที่สนับสนุนให้แก่กันและกันอย่างดี เพราะถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ชัยชนะอย่างสิ้นเชิงก็จะไม่เกิดขึ้น เมื่อไม่ได้รับชัยชนะย่อมเป็นอุปสรรคขว้างกั้นแนวทางและการเติบโตอันเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนไม่กล้ายอมรับอิสลามเป็นกลุ่ม ๆ แน่นอน
เมื่อสามขั้นตอนผ่านพ้นไปลำดับต่อไปคือขั้นตอนที่สี่ได้แก่ การขอบคุณและถวายการสรรเสริญแด่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) พระผู้อภิบาลผู้ทรงเกรียงไกรผู้ทรงช่วยเหลือให้ประสบความสำเร็จและมีชัยชนะเหนือศัตรู
ตัสบีห์ หมายถึงการยอมรับในพิสุทธิคุณของอัลลอฮฺ (ซบ.) จากข้อตำหนิและความบกพร่องทั้งปวง
ฮัมดิ หมายถึง การสรรเสริญพระองค์แต่เพียงผู้เดียวเนื่องจากพระองค์คือ พระผู้ทรงมีคุณลักษณะสัมบูรณ์ทุกประการ
อิสติฆฺฟารฺ หมายถึงการแสดงออกของมนุษย์ หรือการลุแก่โทษต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ เมื่อมนุษย์ได้กระทำความผิดบาป
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้เองเป็นสาเหตุผู้คนทั่วไปไม่อาจคิดได้ว่าอัลลอฮ์ (ซบ.) ทรงปล่อยให้พลพรรคของพระองค์อยู่ตามลำพัง (พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากความคิดเหล่านี้) และจงรู้ไว้ว่าอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงพลานุภาพในการปฏิบัติตามสัญญาของพระองค์ มนุษย์ต่างหากที่มีความบกพร่องและยอมสารภาพในความบกพร่องของตน
การพิชิตมักกะฮ์เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของอิสลาม
ชัยชนะที่มีเหนือมักกะฮ์นับเป็นศักราชใหม่สำหรับการเผยแพร่อิสลาม และเป็นความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่สำหรับผู้ปฎิเสธซึ่งพวกเขาได้ต่อต้านอิสลามมาเป็นเวลานานถึง ๒๐ ปีด้วยกัน ขณะเดียวกันชัยชนะในครั้งนี้ยังเป็นการขุดรากถอนโคนบรรดาเจว็ดทั้งหลายที่สถิตอยู่ในมักกะฮฺมาเป็นเวลานานนับศตวรรษให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับเป็นการประกาศว่าอิสลามนั้นพร้อมที่จะแพร่ขยายไปสู่อาณาจักรอื่นๆ
ขอขอบคุณ เว็บไซต์ทีวีชีอะฮ์