เมื่อท่านอิมามอะลียังเป็นเด็กอยู่นั้น ไม่เคยแยกตัวออกจากการเลี้ยงดูของท่านศาสดาผู้ยิ่งใหญ่เลยและจะติดตามท่านดุจเงาตามตัว ซึ่งท่านอะลีได้กล่าวทบทวนความจำถึงวันเวลาเหล่านั้นว่า
“แน่นอนที่สุด ฉันเคยติดตามท่านเหมือนอย่างที่ลูกอูฐติดตามรอยเท้าแม่ของมัน ท่านได้มอบจริยธรรมทางด้านวิชาการของท่านให้แก่ฉันทุกวัน และท่านได้สั่งสอนให้ฉันเชื่อฟังปฏิบัติตาม แน่นอนที่สุด ในทุกๆปีท่านจะไปที่ถ้ำฮิรออ์ ซึ่งฉันคนเดียวที่ได้เห็นท่านในเวลานั้น ยังไม่มีผู้ใดที่เข้ามาร่วมอยู่ในอิสลาม นอกเหนือจากท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ท่านหญิงคอดีญะฮ์และฉัน ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ฉันได้เห็นรัศมีแห่งวะฮ์ยูและสาส์น (จากพระผู้เป็นเจ้า) อีกทั้งฉันได้สูดดมกลิ่นหอมของสภาวะการเป็นศาสดา”
เมื่ออัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งให้มุฮัมมัดเป็นศาสดาทูตมายังชาวโลกทั้งหลายแล้ว พระองค์ทรงมีบัญชาให้ท่านตักเตือนบรรดาเครือญาติของท่านศาสดาได้สั่งให้ท่านอะลีทำอาหารสำหรับต้อนรับแขก 40 คน และให้ประกาศเชิญชวนเครือญาติของท่านมาพบกับท่าน ซึ่งในจำนวนบุคคลเหล่านั้นได้แก่บรรดาลุงของท่านเองคือ อบูฏอลิบ ,ฮัมซะฮ์, อับบาสและอบูละฮับ
ท่านอิมามอะลีเล่าไว้ว่า
“หลังจากนั้น ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวขึ้นว่า
“โอ้ ลูกหลานของอับดุลมุตฏอลิบ ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า แท้จริงฉันยังไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่า จะมีคนหนุ่มในหมู่ชาวอาหรับคนใด ได้นำเรื่องราวมาบอกแก่พวกพ้องของตนให้เหมือนกับที่ฉันจะได้นำมาบอกแก่พวกท่าน แน่นอนยิ่งฉันได้นำสิ่งที่ดีงามทั้งโลกนี้และปรโลก มาบอกพวกท่าน แท้จริงพระผู้อภิบาลของฉันได้บัญชามายังฉันว่า ให้เรียกร้องเชิญชวน พวกท่านมายังคำสอนของพระองค์ ดังนั้นในหมู่พวกท่านจะมีใครให้ความช่วยเหลือแก่ฉันในกิจการนี้บ้าง เพื่อเขาจะได้เป็นพี่น้อง เป็นทายาท และเป็นตัวแทนของฉันในหมู่พวกท่าน” คนทั้งหมดต่างนิ่งเงียบ ในขณะที่ฉันเป็นคนอายุน้อยที่สุดในหมู่พวกเขา ฉันเองที่ได้ลุกขึ้นว่า “โอ้ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ฉันนี้แหละจะเป็นผู้ร่วมภารกิจของท่านในเรื่องนั้น”
ในขณะนั้นเอง ท่านศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวว่า “นี่คือพี่น้องของฉัน ทายาทของฉัน และตัวแทนของฉันในหมู่พวกท่าน ดังนั้น พวกท่านจงเชื่อฟังเขาและจงปฏิบัติตามเขา”
source : alhassanain