ในวจนะของศาสดามุฮัมมัด (ศ) และบรรดาอิมามมะอ์ซูม (อ) เกี่ยวกับเรื่องของการแต่งงานนั้น ได้แสดงให้เห็นถึงถานภาพที่สูงส่งของการแต่งงานยิ่งนัก บรรดาผู้สูงส่งเหล่านั้นได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการแต่งงานเอาไว้อย่างมากมาย นอกเหนือจากนั้นท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) และบรรดาอิมามมะอ์ซูม (อ) ก็มีการแต่งงาน มีคู่ครองสร้างครอบครัวด้วยกันทุกพระองค์
ในขณะเดียวกันท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) และบรรดาอิมามมะอ์ซูม (อ) ยังได้ส่งเสริมและสนับสนุนในเรื่องของการแต่งงานแก่ประชาชาติมุสลิมทุกคน พร้อมทั้งได้สาธยายถึงสาระถัตต่างๆ ของการใช้ชีวิตครอบครัวไว้อย่างละเอียด และเมื่อมีการละเมิดในเรื่องของการแต่งงานจากผู้ใด ท่านศาสดา (ศ) ก็จะอธิบายให้เข้าในในทันที
ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้ยกฐานภาพของการแต่งงานให้เป็นแบบอย่างหนึ่งของตัวท่าน และเรียกร้องเชิญชวนมนุษยชาติให้เข้าสู่การปฎิบัติที่ดีงามนี้ ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้ให้ความสำคัญต่อการแต่งงานอย่างมาก มากถึงระดับที่ว่าหากผู้ใดใช้ชีวิตเป็นโสดไปตลอดชีวิต เท่ากับเขาผู้นั้นไม่ได้อยู่ในหมู่ผู้ร่วมอุดมการณ์ของท่าน
ท่านอะมีรุ้ลมุอ์มีนีน อิมามอะลี (อ) ก็เช่นเดียวกันท่านก็เรียกร้องเชิญชวนบรรดาหนุ่มสาวมาสู่การแต่งงาน ด้วยการป่าวประกาศวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ในเรื่องของความสำคัญเกี่ยวกับการแต่งงาน ท่านได้ป่าวประกาศว่า “จงแต่งงานเถิด แท้จริงแล้วท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้มีวจนะไว้ว่า บุคคลใดก็ตามที่ปราถนาจะปฏิบัติตามแบบอย่างของฉัน ก็จงแต่งงานเถิด เนื่องจากว่าการแต่งงานคือแบบอย่างหนึ่งของฉัน”
ในอีกรายงานหนึ่งของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ท่านได้นำเสนอโครงสร้างของครอบครัวซึ่งอยู่ภายใต้ร่มเงาของการแต่งงานว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแห่งโครงสร้างในระบอบอิสลาม ท่านได้มีวจนะว่า “ในอิสลาม ไม่มีโครงสร้างใดเลยที่จะเป็นที่รักยิ่ง และมีเกียรติยิ่ง ณ พระผู้เป็นเจ้า มากไปกว่าการแต่งงาน”
ในวันหนึ่งท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้พบกับชายผู้หนึ่งนามว่า อั๊กกอฟ เขาเป็นชายที่มีความร่ำรวย และสามารถที่จะแต่งงานได้ แต่เขาก็ยังละเลยการแต่งงานมีครอบครัว ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) จึงได้กล่าวแก่เขาว่า “จงแต่งงานเสียเถิด มิเช่นนั้นท่านจะกลายเป็นผู้หนึ่งในหมู่ชนที่ทำการฝ่าฝืน”
การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างมากต่อเรื่องของการแต่งงานจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้ทำให้ผู้ที่อยู่ในอุดมการณ์ของท่านให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน และการให้ความสำคัญนี้มีถึงมายังท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (อ) บุตรีของท่าน แม้ขณะอยู่ในยามสถานการณ์ที่คับขัน ท่านหญิงก็ไม่ได้ลืมเรื่องสำคัญนี้ไปได้
ท่านหญิงจึงได้มีคำสั่งเสียหนึ่งแก่ท่านอะมีรุ้ลมุอ์มีนีน อิมามอะลี (อ) สามีของท่าน เมื่อท่านจากโลกนี้ไปแล้วว่า “โอ้ลูกพี่ลูกน้องแห่งศาสดาของพระองค์ คำสั่งเสียแรกของฉันที่มีต่อท่าน คือหลังจากฉัน ท่านจงแต่งงานกับบุตรสาวของน้องสาวของฉัน (อิมามะฮ์) เนื่องจากว่านางจะปฎิบัติต่อลูกๆ ของฉันเช่นเดียวกับฉัน ในความเป็นจริงแล้วบุรุษเพศไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกเสียจากการแต่งงาน”
แปลและเรียบเรียงโดย เชคมาลีกี ภักดี