ดังนั้นหัวใจคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังคำกล่าวของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) “หัวใจ คืออารามของอัลลอฮ์” หัวใจของมนุษย์คืออาณาจักรของอัลลอฮ์ และเมื่อหัวใจเป็นอาณาจักรของพระองค์ มนุษย์ก็ไม่มีสิทธิที่จะอนุญาตให้สิ่งใดเข้าไปอยู่ในอาณาจักรของพระองค์ได้ หรือถ้าหากมนุษย์ได้อนุญาติสิ่งหนึ่งสิ่งใดเข้าไปอยู่ในอาณาจักรของพระองค์ สิ่งนั้นก็จะต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ของพระองค์เท่านั้น
สิ่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ได้มีการเชื่อมโยงไปยังพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถึงแม้ว่าในประวัติศาสตร์ก็มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมามากมายเช่นกันในยุคของศาสดาบางท่าน แต่การเชื่องโยงยังพระผู้เป็นเจ้าในเหตุการณ์นี้ต่างจากเหตุการณ์อื่นๆ โดยสิ้นเชิง นั่นคือการพลีชีพในหนทางพระผู้เป็นเจ้าของท่านอิมามฮูเซน (อ) พร้อมกับลูกหลาน และบรรดาสหายผู้กล้าในสมรภูมิกัรบะลาอ์
ในบรรดาศาสดาหลายท่านก็ได้พลีชีพในหนทางของพระองค์ บรรดาอิมามมะอ์ซูม (อ) ก็ได้พลีชีพในหนทางของพระองค์ เหมือนกันหมดทุกคน ในบรรดาอิมามทั้งหมดสิบสองท่าน สิบเอ็ดท่านพลีชีพในหนทางของพระองค์ทั้งสิ้น เก้าท่านถูกลอบวางยาพิษ มีแค่สองท่านเท่านั้นคือท่านอิมามอะลี (อ) และท่านอิมามฮูเซน (อ) ที่ถูกสังหารด้วยคมดาบ
ท่านอิมามฮูเซน (อ) คือผู้ที่ได้รับการ การเชื่อมโยงไปยังพระเจ้าที่สำคัญยิ่ง ซึ่งไม่มีอิมามท่านใดและศาสดาท่านใดเคยได้รับการเชื่อมโยงไปยังพระองค์อัลลอฮ์นี้มาก่อน ซึ่งมีบันทึกอยู่ในซิยารัตอาชูรอ ว่า “อัสสะลามุอาลัยกะ ยาษาร้อลลอฮ์” หนึ่งในฉายานามของท่านอิมามฮูเซน (อ) คือ “ษารุ้ลลอฮ์” ฉายานามอื่นๆ มนุษย์ทุกคนสามารถที่จะพัฒนาตนเองไปสู่ฉายานามนั้นได้ แต่ฉายานามนี้ถูกเฉพาะไว้แค่ท่านอิมามฮูเซน (อ) คนเดียวเท่านั้น
และฉายานามนี้ที่อิมามฮูเซน (อ) ได้รับ ก็เนื่องมาจากวีรกรรมอันหาญกล้าของท่านในเหตุการณ์วันอาชูรอ การพลีชีพของท่านเพื่อศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า “ษารุ้ลลอฮ์” หมายถึง “ผู้ที่เป็นเลือดของอัลลอฮ์” นั่นคือการให้ความหมายตามหลักภาษา แต่ไม่ได้หมายความว่าอัลลอฮ์มีเลือด แต่ “เลือดของพระเจ้า” ในที่นี้หมายถึง “ผู้ที่หลั่งเลือดของเขาในหนทางของพระเจ้า และเมื่อเลือดของเขาถูกหลั่งลงในทางของพระเจ้า นั่นหมายถึงเลือดของเขาคือเลือดของพระเจ้า เจ้าของเลือดที่แท้จริงที่ถูกหลั่งลงคือพระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้ามีสิทธิที่จะทวงหนี้เลือดนี้คืนในวันกิยามัต
ความหมายที่แท้จริงในฉายานามนี้ของท่านอิมามฮูเซน (อ) คือ “ผู้ที่อัลลอฮ์เป็นเจ้าของเลือดที่ถูกหลั่งลง ผู้ที่อัลลอฮ์เป็นเจ้าของหนี้เลือด หรือผู้ที่อัลลอฮ์จะทวงหนี้เลือด” เพราะการถูกสังหารของท่านอิมามฮูเซน (อ) พระองค์อัลลอฮ์คือเจ้าของเลือดที่ถูกหลั่งลง ผู้ที่มีสิทธิที่จะทวงสิทธิจากเลือดนี้ก็คือพระองค์อัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น
พระผู้เป็นเจ้าได้เลือกวีรกรรมการพลีของอิมามฮูเซน (อ) ในแผ่นดินกัรบะลาอ์ ให้เป็นวีรกรรมต้นแบบสำหรับมนุษยชาติในการพลีในแนวทางของพระผู้เป็นเจ้า แม้ว่าในประวัติศาสตร์การพลีชีพในหนทางของพระผู้เป็นจะมีอย่างมากมาย แต่มันยังไม่เข้มข้นไปกว่าวีรกรรมการพลีของท่านอิมามฮูเซน (อ) ด้วยเหตุผลอันใดกันหรือ?
เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ ไม่เคยมีวีรกรรมใดที่จะมีแบบฉบับการต่อสู้และพลีในหนทางของพระผู้เป็นเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเหมือนกับวีรกรรมนี้ ในทุกๆ วีรกรรมที่ผ่านมา การต่อสู้ต่างๆ เป็นการต่อสู้ของนักรบ ของชายหนุ่ม ของกองทัพที่ยิ่งใหญ่
แต่การต่อสู้ของอิมามฮูเซน (อ) เลือดของนักรบทุกประเภท คือเลือดของคนหนุ่ม เลือดของเด็ก เลือดของสตรี และเลือดของทารกน้อย ได้ถูกหลั่งลงเพื่อการพิทักษ์อิสลาม