ความประเสริฐของท่านหญิงคอดิญะฮ์
เนื่องในวันที่ 10 เดือนรอบีอุลเอาวัล เป็นวันคล้ายวันสมรสของท่านศาสดามูฮัมมัด (ซ็อลฯ) กับท่านหญิงคอดีญะฮ์ (ซ.) อยากจะขอนำเสนอความประเสริฐต่างๆของท่านหญิงให้รับทราบกัน
หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของท่านหญิงคอดิญะฮ์ (ซ.) ที่ไม่เพียงแต่มีความเหนือภรรยาคนอื่นๆ ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) เพียงเท่านั้น แต่ทว่ามีความเหนือมุสลิมทั้งมวล นั่นก็คือการที่ท่านเป็นสตรีคนแรกที่ยอมรับอิสลาม จุดเด่นและความประเสริฐต่างๆ ที่ท่านหญิงคอดิญะฮ์ (ซ.) มีนั้นสามารถพบเห็นได้ในคำพูดต่างๆ ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ)
ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ทั้งในช่วงที่ท่านหญิงคอดิญะฮ์ยังมีชีวิตอยู่ และหลังจากการเสียชีวิตของนาง ท่านจะกล่าวถึงนางด้วยการให้เกียรติและด้วยความดีงามตลอดเวลา แม้ว่าในช่วงเวลานั้นการมีภรรยาหลายคนจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ตราบที่ท่านหญิงคอดิญะฮ์ (ซ.) ยังมีชีวิตอยู่ ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ไม่ได้สมรสกับสตรีอื่นใดเลย การที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ได้แสดงการให้เกียรติต่อท่านหญิงคอดิญะฮ์ (ซ.) ก็เนื่องจากสถานะอันสูงส่งที่แท้จริงของนาง
ท่านถือว่าท่านหญิงคอดิญะฮ์ (ซ.) คือหนึ่งในสี่สตรีที่ประเสริฐที่สุดของโลก เคียงข้างกับท่านหญิงมัรยัม ท่านหญิงอาซิยะฮ์ (ภรรยาของฟิรเอาน์) และท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (ซ.) และนางยังได้รับแจ้งข่าวดีถึงที่พำนักของนางในสวรรค์ ในขณะที่นางยังมีชีวิต (1)
ในรายงานจากอิบนิอับบาส (ร.ฎ.) ได้กล่าวว่า :
خَطَّ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي الْأَرْضِ أَرْبَعَةَ خُطُوطٍ ، قَالَ : تَدْرُونَ مَا هَذَا ؟ فَقَالُوا : اللَّهُ وَرَسُولُهُ أَعْلَمُ . فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : أَفْضَلُ نِسَاءِ أَهْلِ الْجَنَّةِ : خَدِيجَةُ بِنْتُ خُوَيْلِدٍ ، وَفَاطِمَةُ بِنْتُ مُحَمَّدٍ ، وَآسِيَةُ بِنْتُ مُزَاحِمٍ امْرَأَةُ فِرْعَوْنَ ، وَمَرْيَمُ ابْنَةُ عِمْرَانَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُنَّ أَجْمَعِينَ
“ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้ขีดเส้นสี่เส้นลงบนพื้นดิน แล้วกล่าวว่า “พวกท่านรู้ไหมว่านี่คืออะไร” พวกเขาจึงตอบว่า “อัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์รู้ดีที่สุด” ดังนั้นท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) จึงกล่าวว่า “สตรีชาวสวรรค์ที่ประเสริฐที่สุดได้แก่ คอดิญะฮ์ บินติคุวัยลิด ฟาฏิมะฮ์ บินติมุฮัมมัด อาซิยะฮ์ บินติมุซาฮิม ภรรยาของฟิรเอาน์ และมัรยัม บินติอิมรอน ขออัลลอฮ์ทรงพึงพอพระทัยต่อพวกนางทุกคน” (2)
หลังจากการเสียชีวิตของท่านหญิงคอดิญะฮ์ และในช่วงที่ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้พำนักอาศัยอยู่ในนครมะดีนะฮ์ ท่านจะรำลึกถึงนางตลอดเวลา ถึงขั้นที่ว่าเมื่อท่านเชือดแกะท่านจะส่งเนื้อส่วนหนึ่งของมันไปมอบให้กับเพื่อนๆ ของท่านหญิงคอดิญะฮ์ และจะอธิบายเหตุผลโดยกล่าวว่า
إنِّي لأحِبُّ حَبِيبَهَا
“แท้จริงฉันรักเพื่อนรักของนางด้วย” (3)
อย่างไรก็ดี ความรักของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ที่มีต่อท่านหญิงคอดิญะฮ์นั้นมีมากถึงขั้นที่ว่า ภรรยาบางคนของท่านเอง อย่างเช่นท่านหญิงอาอิชะฮ์ ที่รู้สึกหึงหวงและไม่พอใจ ในคำรายงานหนึ่งได้กล่าวว่า : ท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้เล่าว่า เกือบทุกครั้งที่ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) จะออกจากบ้านนั้น ท่านจะรำลึกถึงคอดิญะฮ์และจะกล่าวยกย่องชื่นชมนาง วันหนึ่งท่านได้กล่าวถึงนางและทำให้ความหึงหวงเกิดขึ้นกับฉัน ฉันจึงกล่าวว่า “นางก็เป็นแค่หญิงแก่ไม่ใช่หรือ และอัลลอฮ์ก็ได้ทรงเปลี่ยนสิ่งที่ดีกว่านางให้แก่ท่านแล้ว” ท่านศาสนทูตโกรธจนกระทั่งหน้าผากของท่านสั่นเนื่องจากความโกรธ จากนั้นท่านได้กล่าวว่า
لَا وَاللَّهِ، مَا أَبْدَلَنِي اللَّهُ خَيْرًا مِنْهَا، آمنَتُ بي إِذْ كَفَرَ النَّاسُ، وَصَدَّقَتْنِي إِذْ كَذَّبَنِي النَّاسُ، وَوَاسَتْنِي فِي مَالِهَا إذْ حرَمَنِي النَّاسُ، وَرَزَقَنِي اللَّهُ مِنْهَا أَوْلَادًا إِذْ حَرَمَنِي أَوْلَادَ النِّسَاءِ" ، قالت عائشة: فقلت في نفسي: لا أذكرُها بسيئةٍ أبدًا
"ขอสาบานต่ออัลลอฮ์! อัลลอฮ์มิได้ทดแทนหญิงใดที่ดีกว่านางให้แก่ฉัน นางได้ศรัทธาต่อฉันในขณะที่ประชาชนได้ปฏิเสธฉัน นางยอมรับฉันในขณะที่ประชาชนกล่าวหาว่าฉันมุสา นางได้ช่วยเหลือฉัน (ในการเผยแพร่ศาสนา) ด้วยทรัพย์สินของนางในขณะที่ประชาชนได้หักห้ามฉัน และอัลลอฮ์ได้ทรงประทานลูกๆ แก่ฉันจากนาง ในขณะที่พระองค์ได้ทรงหักห้ามลูกๆ แก่ฉันจากสตรีอื่น” ท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้กล่าวว่า “ฉันกล่าวกับตัวเองว่า ฉันจะไม่พูดถึงนางในทางไม่ดีอีกแล้ว” (4)
จากคำพูดปกป้องดังกล่าวนี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) ที่มีต่อท่านหญิงคอดิญะฮ์ (ซ.) และทำให้ประจักษ์ได้เป็นอย่างดีถึงสถานภาพอันสูงส่งของนางที่มีเหนือภรรยาท่านอื่นๆ ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ)
เชิงอรรถ :
(1) อัลอิซอบะฮ์, อิบนุฮะญัร, เล่มที่ 8, หน้าที่ 101
(2) อัลมุสนัด, อะห์มัด บินฮันบัล, เล่มที่ 4, หน้าที่ 409 ; ฟัตหุ้ลบารี, อิบนุหะญัร, เล่มที่ 6, หน้าที่ 178
(3) อัลอิซอบะฮ์, อิบนุฮะญัร, เล่มที่ 8, หน้าที่ 103
(4) อัลอิซอบะฮ์, อิบนุฮะญัร, เล่มที่ 8, หน้าที่ 103
ขอขอบคุณเว็บไซต์ islamicstudiesth