ไทยแลนด์
Monday 25th of November 2024
0
نفر 0

ร็อจอะฮฺคืออะไร ?

ร็อจอะฮฺคืออะไร ?

สามารถตอบได้ว่า ร็อจอะฮฺ ในภาษาอาหรับหมายถึง การกลับ ส่วนในความหมายของนักปราชญ์ทางวิชาการหมายถึง การย้อนกลับมาของคนกลุ่มหนึ่งภายหลังจากความตายและก่อนการอวสานของโลก (กิยามะฮฺ)  พร้อมกับการปรากฏกายของท่านอิมามมะฮฺดี (อ.) และแก่นแท้ของเรื่องนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับเหตุผลทางสติปัญญาและอัล-กุรอานแต่อย่างใด

ในทัศนะของอิสลาม และศาสนาอื่นๆ ที่มีความเชื่อต่อพระผู้เป็นเจ้านั้นเชื่อว่า แก่นแท้ของความเป็นมนุษย์คือ วิญญาณที่เป็นมุญัรร็อด (หมายถึงไม่มีการดับสลายด้วยอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า) หรือในบางครั้งเรียกว่า นัฟซฺ เหมือนกัน ซึ่งวิญญาณนั้นภายหลังจากร่างกายได้ดับสลายแล้ว มันยังคงดำรงอยู่ตลอดไปอย่างเป็นอมตะ อีกด้านหนึ่งพระองค์  อัลลอฮฺ (ซบ.) ผู้ทรงเกรียงไกรนั้น อัล-กุรอานได้กล่าวว่าเป็นผู้ทรงเดชานุภาพแต่เพียงผู้เดียว และอำนาจของพระองค์ทรงครอบคลุมอยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่มีสิ่งใดสามารถขัดขวาง หรือกำหนดให้อำนาจของพระองค์อยู่ในขอบเขตจำกัดได้

ด้วยสองบทนำที่กล่าวมาทำให้รู้ได้ว่าเรื่อง ร็อจอะฮฺ จากมุมมองของสติปัญญานั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะว่าการกลับมาอีกครั้งของบุคคลกลุ่มดังกล่าว   เป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่าการสร้างให้เกิดขึ้นมาในครั้งแรก   พระผู้อภิบาลผู้ทรงสร้างพวกเขาให้เกิดขึ้นมาในครั้งแรกจากสิ่งที่ไม่มี ฉะนั้นการนำพวกเขากลับมาอีกครั้งย่อมเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่าและเป็นไปได้สำหรับพระองค์ บนพื้นฐานความเชื่อดังกล่าว อัล-กุรอานได้กล่าวถึงการกลับมาของคนบางกลุ่มในอดีตไว้ดังนี้

 

 
وَإِذْ قُلْتُمْ يَا مُوسَى لَن نُّؤْمِنَ لَكَ حَتَّى نَرَى اللَّهَ جَهْرَةً فَأَخَذَتْكُمُ الصَّاعِقَةُ وَأَنتُمْ تَنظُرُونَ ثُمَّ بَعَثْنَاكُم مِّن بَعْدِ مَوْتِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَشْكُرُونَ

และ (จงรำลึก) เมื่อพวกเจ้ากล่าวว่า โอ้มูซา เราจะไม่ศรัทธาต่อท่านเด็ดขาด จนกว่าเราจะได้เห็นอัลลอฮฺ อย่างแจ้งชัด ฉะนั้นสายฟ้าได้คร่าชีวิตพวกเจ้า ขณะที่พวกเจ้ามองดูอยู่ แล้วเราได้ให้พวกเจ้าฟื้นขึ้นมา หลังความตายของพวกเจ้า โดยหวังว่าพวกเจ้าจะสำนึกในพระคุณ [1]

อีกโองการหนึ่งอัล-กุรอานได้กล่าวถึงคำพูดของท่านศาสดาอีซา (อ.) ว่า

وَأُحْيِي الْمَوْتَى بِإِذْنِ اللّهِ

และฉันจะให้ผู้ที่ตายแล้วมีชีวิตขึ้นมาด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ [2]

อัล-กุรอานไม่ได้กล่าวว่าเรื่องร็อจอะฮฺจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังได้สนับสนุนการกลับมาของกลุ่มชนบางกลุ่มอีกต่างหาก ดังบางโองการได้กล่าวถึงการกลับมาของคนกลุ่มหนึ่ง ภายหลังจากได้ตายไปแล้วก่อนวันกิยามะฮฺว่า

 
وَإِذَا وَقَعَ الْقَوْلُ عَلَيْهِمْ أَخْرَجْنَا لَهُمْ دَابَّةً مِّنَ الْأَرْضِ تُكَلِّمُهُمْ أَنَّ النَّاسَ كَانُوا بِآيَاتِنَا لَا يُوقِنُونَ  وَيَوْمَ نَحْشُرُ مِن كُلِّ أُمَّةٍ فَوْجًا مِّمَّن يُكَذِّبُ بِآيَاتِنَا فَهُمْ يُوزَعُونَ

 
และเมื่อพระดำรัสเกิดขึ้นแก่พวกเขา เราได้ให้สัตว์ออกมาจากแผ่นดินแก่พวกเขา เพื่อกล่าวแก่พวกเขาว่า แท้จริงปวงมนุษย์นั้นไม่ยอมเชื่อมั่นต่อโองการทั้งหลายของเรา และ (จงรำลึกถึง) วันที่เราจะเรียกจากทุก ๆ ชาติ มาชุมนุมกันเป็นหมู่คณะ จากผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเราโดยที่พวกเขาจะถูกจัดเป็นกลุ่ม ๆ [3]

ก่อนที่จะพิสูจน์ว่าเรื่องร็อจอะฮฺ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ จำเป็นต้องกล่าวถึงประเด็นสำคัญบางอย่างดังต่อไปนี้

๑. บรรดานักอธิบายอัล-กุรอานส่วนมากได้กล่าวว่า ๒ โองการข้างต้นได้พูดถึงเรื่องวันกิยามะฮฺ ขณะที่โองการแรกนั้นมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดก่อนกิยามะฮฺ ดังเช่นที่ท่านญะลาลุดดีน ซุยูฏียฺ ได้กล่าวไว้ในตัฟซีรอัดดุรุลมันซูร โดยรายงานมาจากท่าน อิบนิอะบีชัยบะฮฺ จากท่าน ฮุดัยฟะฮฺว่า การออกมาชุมนุมของปศุสัตว์ทั้งหลายได้เกิดก่อนกิยามะฮฺ [4]

๒. ไม่เป็นที่สงสัยว่าในวันกิยามะฮฺนั้นมนุษย์ทั้งหมดจะถูกนำมารวมกัน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจากประชาชาติที่เฉพาะเจาะจง อัล-กุรอานกล่าวถึงการเรียกให้มนุษย์มารวมกันว่า

ذَلِكَ يَوْمٌ مَّجْمُوعٌ لَّهُ النَّاسُ وَذَلِكَ يَوْمٌ مَّشْهُودٌ

วันแห่งการรวบรวมปวงมนุษย์สำหรับพระองค์  และนั่นคือวันแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง [5]

ในวันนั้นตัฟซีรอัดดุรุลมันซูรได้อธิบายว่าเป็นวันกิยามะฮฺ [6]

 
وَيَوْمَ نُسَيِّرُ الْجِبَالَ وَتَرَى الْأَرْضَ بَارِزَةً وَحَشَرْنَاهُمْ فَلَمْ نُغَادِرْ مِنْهُمْ أَحَدًا

และ (จงรำลึก) วันที่เราให้เทือกเขาเคลื่อนย้ายไป และเจ้าจะเห็นแผ่นดินราบเรียบ และเราจะชุมนุมพวกเขา ดังนั้น เราจะไม่ให้ผู้ใดออกไปจากพวกเขาเลย [7]

ด้วยการยืนยันของอัล-กุรอานจะพบว่าในวันกิยามะฮฺนั้นมนุษย์ทุกคนจะถูกนำมารวมกัน ซึ่งคำสั่งนี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงมนุษย์กลุ่มใดเป็นพิเศษ

๓. โองการที่ ๒ ซูเราะฮฺอัลนัมล์ ได้กล่าวถึงการกลับมาของคนบางกลุ่มที่เฉพาะเจาะจงจากมวลประชาชาติ ไม่ได้หมายถึงมนุษย์ทุกคนเพราะโองการกล่าวว่า และ (จงรำลึกถึง) วันที่เราจะเรียกจากทุก ๆ ชาติ มาชุมนุมกันเป็นหมู่คณะ จากผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเราโดยที่พวกเขาจะถูกจัดเป็นกลุ่ม ๆ

โองการอัล-กุรอานได้กล่าวยืนยันอย่างชัดเจนว่า ไม่ได้หมายถึงชนทุกหมู่เหล่า เฉพาะบางกลุ่มเท่านั่นเอง
บทสรุป   จากบทนำทั้งสามที่ได้กล่าวมาทำให้ทราบว่า การกลับมาของกลุ่มชนที่ปฏิเสธโองการต่างๆ ของอัลลอฮฺซึ่งโองการที่ ๒ ซูเราะฮฺนัมลิ ได้กล่าวถึงแสดงให้เห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้เกิดก่อนวันกิยามะฮฺอย่างแน่นอน (เพราะโองการได้กล่าวว่ามีเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้กลับมา) ด้วยเหตุนี้ คำกล่าวอ้างของชีอะฮฺที่ว่าจะมีกลุ่มชนกลับมาหลังจากความตาย และก่อนวันกิยามะฮฺนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนด้วยการสนับสนุนของโองการดังกล่าว ซึ่งการกลับมานั้นเรียกว่า ร็อจอะฮฺ นั้นเอง

บรรดาอะอิมมะฮฺ (อ.) ในฐานะของผู้ที่ถูกเทียบเคียงและอธิบายอัล-กุรอานได้กล่าวถึงสิ่งนี้ไว้ เช่น

ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า

ايام الله ثلاثة يوم القائم و يوم الكرة ويوم القيامة

วันแห่งอัลลอฮฺนั้นมี ๓ วัน ได้แก่วันแห่งการปรากฏกายของมะฮฺดี วันแห่งการกลับ (ร็อจอะฮฺ)
และวันกิยามะฮฺ
แหล่งอ้างอิง

[1] อัล-บะเกาะเราะฮฺ / ๕๕ / ๕๖

[2] อาลิอิมรอน / ๔๙

[3] อัลนัมลิ / ๘๒ / ๘๓

[4] ตัฟซีรอัดดุรุลมันซูร เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๑๗๗ ตอนอธิบายโองการที่ ๘๒ ซูเราะฮฺอัลนัมลิ

[5] ฮูด / ๑๐๓

[6] ตัฟซีรอัดดุรุลมันซูร เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๓๔๙

[7] อัลกะฮฺฟิ / ๔๗

 
ขอขอบคุณเว็บไซต์อิมามอะลี

0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

ความโลภคือรากของความชั่วร้าย
...
...
ทำไมอิสลามห้ามดื่มสุรา
บทเรียนจากตัฟซีรเนะฮ์มูเนะฮ์ ...
อิมามฮะซัน อัสการีย์(อ) ...
อิมามอะลี ...
"ฝน"ในอัลกุรอาน
ชีวประวัติท่านฮัมซะฮ์ บิน ...
หลักปฏิบัติในอิสลาม ...

 
user comment