จริยวัตรของท่านศาสนทูตในคัมภีร์อัลกุรอาน ตอนที่ 1
หนทางที่ดีที่สุดประการหนึ่งในการจำแนกผู้กล่าวอ้างที่สัจจริงออกจากบรรดาผู้มดเท็จ ก็คือคุณลักษณะต่างๆ ทางด้านจริยธรรมของบุคคลเหล่านั้น คุณลักษณะเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้และเป็นสัญลักษณ์อันชัดแจ้งที่จะนำมาใช้ปฏิเสธหรือพิสูจน์ถึงความสัจจริงของบรรดาผู้กล่าวอ้างตนเองเหล่านั้น การให้ความสำคัญอย่างสมบูรณ์ต่อคัมภีร์อัลกุรอานของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้ทำให้จริยวัตรอันเจิดจรัสของท่านเป็นสิ่งที่คู่ควรอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตาม
คัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า
لَّقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِّمَن كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ وَذَكَرَ اللَّهَ كَثِيرًا
“แน่นอนยิ่ง แบบอย่างอันงดงามสำหรับพวกเจ้านั้นมีอยู่ในศาสนทูตของอัลลอฮ์”
(อัลกุรอาน บทอัลอะห์ซาบ โองการที่ 21)
ทุกๆ จริยวัตรที่ประสานกลมกลืนกับคัมภีร์ไม่ว่าจะในระดับใดก็ตาม ก็ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติตามอัลกุรอานในระดับนั้นๆ และเนื่องจากท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ได้วางกรอบจริยวัตรของท่านไว้บนข้อเท็จจริงต่างๆ แห่งคัมภีร์อัลกุรอาน ดังนั้นจริยวัตรของท่านจึงเป็นจริยวัตรที่สมบูรณ์ที่สุด ด้วยเหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวเกี่ยวกับท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ไว้เช่นนี้ว่า “บุคลิกของท่านคือคัมภีร์อัลกุรอาน” เพื่อที่จะได้รับประโยชน์อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นจากจริยวัตรอันทรงคุณค่าของท่านศาสนทูต เราจะขอนำเสนอบางตัวอย่างซึ่งมีหลักฐานจากคัมภีร์อัลกุรอานด้วยเช่นกัน
การเคารพภักดีพระเจ้า (อิบาดะฮ์) และการนมาซในยามค่ำคืน (ตะฮัจญุด) ของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ)
พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาให้ท่านศาสนทูตผู้ทรงเกียรติ (ซ็อลฯ) ใช้เวลาส่วนใหญ่ในยามค่ำคืนทำอิบาดะฮ์ เพื่อว่าสิ่งดังกล่าวจะทำให้ท่านอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับการสรรเสริญ (มะกอมุน มะห์มูด)
ในบทอัลอิซรออ์ โองการที่ 79 อัลลอฮ์ (ซบ.) ได้ทรงตรัสว่า
وَمِنَ اللَّيْلِ فَتَهَجَّدْ بِهِ نَافِلَةً لَّكَ عَسَىٰ أَن يَبْعَثَكَ رَبُّكَ مَقَامًا مَّحْمُودًا
“ และบางช่วงของยามกลางคืนเจ้าจงตื่นขึ้นทำนมาซ “ตะฮัจญุด” ด้วยความสมัครใจของเจ้าเถิด หวังว่าองค์อภิบาลของเจ้าจะทรงทำให้เจ้าฟื้นคืนชีพขึ้นด้วยตำแหน่งที่ได้รับการสรรเสริญ
เกี่ยวกับวิธีการนมาซในยามค่ำคืน (ซอลาตุ้ลลัยน์) ของท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) มีรายงานว่าท่านมักจะเตรียมน้ำสำหรับทำวุฎุอ์และการแปรงฟันของท่านไว้ตั้งแต่ก่อนนอน และจะใช้เวลาในการนอนเพียงเล็กน้อย เหมือนกับทหารที่ตั้งมั่นอยู่ตามแนวรบเพื่อป้องกันข้าศึก ท่านจะตื่นขึ้นหลังจากการนอนหลับไปไม่นานนัก และท่านจะทำนมาซสี่ร่อกะอัต หลังจากนั้นก็จะนอนอีกเพียงเล็กน้อยและตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และจะปฏิบัติอยู่เช่นนี้ทุกครั้งที่ท่านตื่นนอนขึ้นมา
ท่านจะมองไปยังท้องฟ้าพร้อมกับอ่านบรรดาโองการอัลกุรอานต่อไปนี้คือ
إِنَّ فِي خَلْقِ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ وَاخْتِلَافِ اللَّيْلِ وَالنَّهَارِ لَآيَاتٍ لِّأُولِي الْأَلْبَابِ
الَّذِينَ يَذْكُرُونَ اللَّهَ قِيَامًا وَقُعُودًا وَعَلَىٰ جُنُوبِهِمْ وَيَتَفَكَّرُونَ فِي خَلْقِ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ رَبَّنَا مَا خَلَقْتَ هَٰذَا بَاطِلًا سُبْحَانَكَ فَقِنَا عَذَابَ النَّارِ
“แท้จริงการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และการหมุนเวียนไปของกลางคืนและกลางวัน ย่อมเป็นหลักฐานต่างๆ สำหรับปวงผู้มีวิจารณญาณ (พวกเขา) คือบรรดาผู้ซึ่งรำลึกถึงอัลลอฮ์ทั้งในยามยืน ยามนั่ง และในยามนอนตะแคง และพวกเขาจะคิดใคร่ครวญในการสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน (พร้อมกับรำพึงว่า) โอ้พระผู้อภิบาลของเรา พระองค์มิได้ทรงสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาอย่างไร้สาระ มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์ ได้โปรดคุ้มครองพวกเราให้พ้นจากไฟนรกด้วยเถิด”
(อัลกุรอานบทอาลิอิมรอน โองการที่ 190, 191)
บรรดาโองการในลักษณะเช่นนี้ นอกจากจะช่วยส่งเสริมมนุษย์ให้คิดใคร่ครวญในระบอบแห่งการสร้างสรรของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ภายใต้การสาธยายคุณลักษณะบางประการของผู้มีสติปัญญาแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างให้บุคคลอื่นๆ กลายเป็นผู้มีสติปัญญาและรู้จักใช้วิจารณญาณอีกด้วย และในขณะเดียวกันได้ชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายของระบอบแห่งการสร้างสรร และพร้อมกันนั้นยังได้สอนถึงวิธีการวิงวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้าให้คุ้มครองความปลอดภัยจากการลงโทษในนรกให้แก่บรรดาผู้มุ่งพัฒนาตนสู่พระผู้เป็นเจ้า (ซาลิกีน) อีกด้วย เป้าหมายของผู้ดำรงอิบาดะฮ์ในยามค่ำคืนที่แท้จริง คือบุคคลผู้ซึ่งการอิบาดะฮ์ในรูปแบบของการกระทำของเขาเป็นสิ่งที่สอดคล้องกันกับการอิบาดะฮ์ในรูปแบบของการคิดใคร่ครวญของเขา
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เอง บนพื้นฐานของโองการอัลกุรอานจากบทอัลอิซรออ์ ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) คือผู้ดำรงอิบาดะฮ์ในยามค่ำคืน และบนพื้นฐานของโองอัลกุรอานการจากบทอาลิอิมรอน ท่านได้ผสมผสานการคิดใคร่ครวญในหลักคำสอนต่างๆ ของศาสนาเข้ากับการดำรงอิบาดะฮ์ในยามค่ำคืนของท่าน
บทความโดย : รูยอคอน ซอเดฮ์
แปล : เชคมูฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ