ซัยนับ วีรสตรีผู้ผดุงสาส์นแห่งกัรบะลาอฺ (ตอนที่ 2)
ดวงวิญญาณตั้งแต่ในวัยทารก
ถ้าเราดูในหน้าประวัติศาสตร์จะพบว่าตั้งแต่ท่านหญิงถือกำเนิดขึ้นมา
นักบันทึกประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้อย่างมากมาย ว่า ท่านหญิงจะมีความผูกพันเป็นพิเศษกับท่านอิมามฮุเซน(อ)
ตั้งแต่ในวัยที่ยังแบเบาะในวัยที่ยังเป็นทารก มีรายงานกล่าวว่าทุกครั้งที่ท่านหญิงซัยนับ (ซ) ร้องไห้ในสภาพของทารกแล้วไม่มีใครสามารถที่จะกล่อมเด็กน้อยผู้นี้ให้เงียบลงได้ นอกจากอยู่ในอ้อมกอดของท่านอิมามฮุเซน(อ)เท่านั้น
แม้ว่าท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(ซ)จะเอาไปอุ้มแล้วก็ไม่เงียบ ท่านอิมามอะลี(อ) เอาไปอุ้มก็ไม่เงียบ
ท่านอิมามฮาซัน อัล-มุจตะบา(อ) เอาไปอุ้มก็ไม่เงียบ แต่ทันทีที่อยู่ในอ้อมกอดของอิมามฮุเซ็น(อ)ท่านหญิงซัยหนับได้เงียบในทันที นี่คือความผูกพันแบบพิเศษ ความผูกพันที่ไม่ธรรมดา
สิ่งเหล่านี้ต้องการชี้ให้เห็นว่าทั้งสองท่านนี้จะต้องคู่กันและต้องถูกร้อยดวงวิญญาณตั้งแต่ในวัยทารก
เมื่อเติบโตเป็นสาวและจะต้องมีสามีก็มีเรื่องราวที่แปลกและพิเศษอย่างมากมาย หนึ่งในเงื่อนไขของการแต่งงานที่สำคัญคือเมื่อแต่งงานกับท่าน อับดุลลอฮฺ บิน ญะอฺฟัรแล้ว ท่านหญิงซัยนับ(ซ)ตั้งเงื่อนไขว่าทุกครั้งที่ฉันคิดถึงท่าน อิมามฮุเซน(อ) ท่านต้องอนุญาตให้ฉันไปเยี่ยมพี่ชายของฉัน ขณะที่มีชีวิตคู่และมีสามีแล้วก็ยังไม่ลืมพี่ชายสุดที่รักคนนี้ ท่านอับดุลลอฮฺก็ยอมรับเงื่อนไขอันนี้ หลังจากรับเงื่อนไขข้อที่หนึ่ง ท่านหญิงซัยนับ(ซ)ก็เพิ่มเงื่อนไขข้อที่สองว่า ฉันจะยอมเป็นภรรยาของท่านภายใต้เงื่อนไขว่า เมื่อใดก็ตามที่อิมามฮุเซ็น(อ)ต้องออกจากเมือง มะดีนะฮฺ และฉันมีความประสงค์ที่จะร่วมเดินทางไปกับท่านอิมามฮุเซ็น(อ)แล้ว ท่านจะต้องอนุญาตให้ฉันร่วมเดินทางไปด้วย
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องบังเอิญหรือ ? เราจะต้องมองสิ่งเหล่านี้ว่านี่คือพระประสงค์ของอัลลอฮฺ(ซบ) เพราะเรื่องในลักษณะนี้นั้นยังมีอีกมากมายหลายเรื่อง ท่านอับดุลลอฮฺ บิน ญะฟัร ก็ยอมรับเงื่อนไขต่างๆทั้งหมด จึงทำให้ท่านหญิงซัยนับ (ซ)ยินยอมที่จะเป็นภรรยาของท่าน
หลังจากแต่งงานแล้วสิ่งหนึ่งที่ทำเป็นกิจวัตรและแทบจะกล่าวได้ว่าทำเกือบทุกวันคือ ท่านหญิงซัยนับ(ซ)จะต้องหาเวลาหาโอกาสไปเยี่ยมท่านอิมามฮุเซน(อ)อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะมีฐานะเป็นภรรยาของผู้อื่นแล้วก็ตาม แต่ความผูกพันระหว่างพี่กับน้องคู่นี้นั้นยิ่งวันเวลาผ่านไปยิ่งเข้มข้นมากขึ้น ตรงนี้เองที่เรากำลังจะบอกว่า ท่านหญิงซัยนับ(ซ)กับท่าน อิมามฮุเซน(อ)ถูกสร้างมาเพื่อภารกิจอันนี้
จนกระทั่งวันนั้นมาถึง วันที่ท่านอิมามฮุเซน(อ)ต้องออกจาก มะดีนะฮฺมุ่งสู่แผ่นดินกัรบะลาอฺ ท่านหญิงซัยหนับ(ซ) ก็ได้บอกกับอับดุลลอฮฺว่าวันแห่งเงื่อนไขสัญญานั้นได้มาถึงแล้ว ซึ่งแน่นอนทุกคนรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งหนึ่งเมื่อเราศึกษาเรื่องราวแห่งกัรบะลาอฺพี่น้องโปรดจำไว้ว่าเหตุการณ์แห่ง กัรบะลาอฺนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าจุดจบของมันจะเป็นเช่นไร มีรายละเอียดที่สมบูรณ์ที่ยืนยันได้ว่าเกือบทั้งหมดของบุคคลที่เข้าร่วมกับท่านอิมามฮุเซ็น(อ)นั้นรู้จุดจบของเหตุการณ์เป็นอย่างดี รู้มากรู้น้อย รู้เกือบทั้งหมด รู้ทั้งหมดและรู้ละเอียดหรือรู้แบบไม่ละเอียดนั้นเป็นอีก เรื่องหนึ่ง วีรกรรมแห่งกัรบะลาอฺเป็นวีรกรรมที่เกิดขึ้นอย่างสมัครใจ ด้วย จิตวิญญาณอันสูงส่งของผู้ที่ไม่กลัวสิ่งใด และผู้ที่ไม่มีวันจะโศกเศร้ากับสิ่งใดๆ
ดังนั้น ถ้าเราสังเกตในบทซิยารัตวาริษท่อนสุดท้ายที่อ่านให้กับบรรดาอัศฮาบ จะกล่าวว่า
اَلسَّلامُ عَلَیْكُمْ یا اَوْلِیاَّءَ اللَّه
‘สลามแด่ท่าน โอ้ผู้เป็นเอาลิยาอฺของอัลลอฮฺ’
ซิยารัตนี้รายงานจากบรรดาอะอิมมะฮฺ(อ) ซึ่งอิมามที่อ่านซิยารัตบทนี้ได้ตีตราและการันตียืนยันว่า อัศฮาบแห่งกัรบะลาอฺทั้งหมด คือเอาลิยาอฺของอัลลอฮฺ(ซบ) ภารกิจอันนี้เป็นภารกิจของเอาลิยาอฺของอัลลอฮฺ ซึ่งหากไม่ใช่ เอาลิยาอฺของอัลลอฮฺแล้วไม่สามารถที่จะยืนหยัดในภารกิจอันนี้ได้
وَاَحِبّائَهُ
‘สลามไปยังบุคคลที่เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮฺ ‘
اَلسَّلامُ عَلَیْكُمْ یا اَصْفِیاَّءَ اللَّهِ
‘สลามไปยังผู้ที่ถูกเลือกสรรจากอัลลอฮฺ (ซบ) ‘
เพราะภารกิจอันนี้มันน่ากลัว ภารกิจอันนี้มันรู้จุดจบ ภารกิจอันนี้ถ้าเรามองในภาพนอกแล้วมันน่าสยดสยอง แล้วมันสยดสยองจริงๆด้วย
ขอขอบคุณสถาบันศึกษาศาสนาอัลมะฮ์ดี