แม่คือหลักประกันความมั่นคงของลูก
นักสังคมวิทยาเชื่อว่าบุคคลสมบูรณ์ย่อมมาจากครอบครัวที่ได้รับอิทธิพลจากพ่อแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม่ ผู้หญิงเป็นผู้สร้างอนาคตให้แก่ผู้คนในทุกๆ สังคม เพราะฉะนั้น การสร้างบุคลิกภาพของผู้หญิงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
แม่ในวันนี้ เคยเป็นลูกมาก่อนในอดีต ซึ่งเจริญเติบโตและได้รับการเลี้ยงดูมาในอ้อมแขนที่อบอุ่นของแม่ของเธอเอง ผู้ปูทางสำหรับการเลี้ยงดูคนอีกรุ่นหนึ่ง นักจิตวิทยากล่าวว่า ความมั่นคงในความเห็นอกเห็นใจกัน คือการได้รัก และเป็นที่รัก คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนเสาะหาในชีวิตของเขา ผู้ที่เป็นเจ้าของลักษณะพิเศษเหล่านี้จึงสามารถแสดงความรักของเขาต่อผู้อื่นได้
อีริค ฟรอม กล่าวว่า “มนุษย์ที่สมบูรณ์ทุกคนควรเป็นผู้ที่สามารถรักตัวเองได้ก่อน แล้วจึงอุทิศความรักของตัวเองให้แก่ผู้อื่นได้” เราควรทำอย่างไรถ้าเราต้องการหลักประกันนี้? เพื่อเด็กคนหนึ่งมาสู่โลก เขาจะพบกับความวิตกกังวล จึงเป็นหน้าที่ของแม่ที่ต้องบรรเทาความวิตกกังวลนั้น
เมื่อลูกเกิดมา แม่ถือเป็นบ่อเกิดสำคัญของการให้อาหาร ให้ชีวิต และให้ความรัก การมีแม่อยู่ทำให้ลูกรู้สึกสงบและมั่นคง ดังนั้น แม่ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของชีวิตและพลัง จึงควรมีบุคลิกภาพที่ร่าเริงแจ่มใส
เราไม่ควรใช้ “ความรัก” เป็นเครื่องมือในการเลี้ยงลูก เพราะความรักคือเป้าหมายไม่ใช่เครื่องมือ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกของเราทำของเล่นพัง เราไม่ควรพูดว่า “แม่ไม่รักลูกอีกแล้ว” เพราะมันจะส่งผลเสียให้แก่ลูก ลูกจะวิตกกังวลกับการสูญเสียความรักของแม่ไปมากกว่าการกังวลเครื่องของเล่นที่พัง
ถ้าลูกทำของเล่นพังอีก เขาจะพูดโกหกเกี่ยวกับมันและไม่พูดถึงของเล่นชิ้นนั้นอีก ประโยคเดียวส่งผลให้ลูกต้องพูดโกหกและปิดบังสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้นแม่จึงควรจะพูดว่า “แม่ไม่ชอบที่ลูกทำแบบนั้น” แทนการพูดว่า “แม่ไม่รักลูกอีกแล้ว”
เด็กที่วิตกกังวลว่าจะสูญเสียความรักของแม่ไป จึงต้องทำนิสัยที่ไม่ดีเพื่อให้แม่ทิ้งเขาไป เด็กคนนี้จะเติบโตขึ้นเป็นพ่อหรือแม่ที่ทำหน้าที่ได้ดีได้อย่างไร?