อิมามฮาดี(อ) คือ ใคร
อิมาม อาลี อันนะกีย์ อัลฮาดีย์ คือลูกหลานของท่านศาสดามูฮัมมัด รุ่นที่ 8 ท่านถือกำเนิดในวันที่ 15 ซุลฮิจญะฮ ฮศ. 212 บิดาของท่านคือ อิมาม มูฮัมมัด ตะกีย์ อัลญะวาด มารดาของท่าน คือ ท่านหญิง ซามานะฮ ซึ่งเป็นสตรีที่บริสุทธิ์ มีความยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ (ซ.บ) ท่านคือผู้รับมอบหมายหน้าที่ในการดูแล เลี้ยงดู ท่านอิมามฮาดีย (อ)
ฮาดี (هادی) คือ ฉายานามที่แพร่หลายมากที่สุดของอิมามท่านที่ 10 ของชีอะฮ์ เหตุที่ท่านได้รับฉายานี้ เพราะว่าการชี้นำผู้คนและการสร้างแสงสว่างแห่งสัจธรรมของท่าน
ในวิชาการของอัลกุรอาน และอะฮลุลบัยต์(อ) คำว่า ฮิดายะฮ และ คำว่า ฮาดีย์ มีความหมาย ถึงการชี้นำ ที่ลึกซึ้งกว่าการชี้เส้นทางตามแผนที่
ฮาดีย์ หมายถึง ผู้ที่รู้จักเส้นทาง รู้จักเป้าหมาย รู้จักประชาชาติ รู้จัก คาราวานที่เดินทางไปด้วยกัน รู้ถึงปัจจัยที่จะทำให้เกิดอุปสรรคในการเดินทาง ผู้ที่ี่จะสร้างแรงจูงในในการก้าวไปข้างหน้า, ผู้กระตุ้นให้เกิดจิตวิญญาณแห่งการยืนหยัด ผู้รักษาความสามัคคีของขบวน ผู้สนับสนุนด้วยทรัพย์สิน และหัวใจ ผู้มี่มอบสิทธิให้แก่ผู้ร่วมเดินทาง
เหล่านี้คือความหมายของ “ฮาดีย“
ยุคสมัยของอิมามฮาดี (อ)
อิมามฮาดีย์ เริ่มต้นการเป็นอิมามัตในเมืองมะดีนะฮ ซึ่งในช่วงที่ท่านอยู่ในเมือง ท่านมีบทบาทสำคัญ ในด้านการเป็นผู้นำของชีอะฮ์ ถึงขั้น ราชวงศ์อับบาซียะฮ วิตกกังวล ถึงการดำรงอยู่ในมะดีนะฮของท่าน(อ)
มุตะวักกิล ตัดสินใจ ย้ายตัวอิมาม ไปซามัรรอ เพื่อให้อยู่ในการควบคุมมากขึ้น
เพราะสายลับได้แจ้งข่าวถึงความเคลื่อนไหวของอิมามฮาดีย ให้ มุตะวักกิล ได้รับรู้ มุตะวักกิล จึงสั่งให้ยะฮยา บิน ฮัรซะมะฮ ย้ายตัวอิมามในทันที
เมื่อยะฮ์ยา บิน ฮัรซะมะฮ เข้าเมืองมะดีนะฮ เขาพบว่า คนทั้งเมือง ต่างพากันชื่นชมและรักใคร่ต่อ อิมาม (อ) ทุกคนต่างพากันท้วงติง จนยะฮยา ต้องออกมาประกาศ เขาไม่ได้มีธุระอะไร กับ อิมามฮาดีย์ และไม่มีการคุกคามใดๆต่ออิมาม แต่สุดท้ายคนพวกนี้ก็ใช้ข้ออ้างในการรวบรวมอาวุธ เตรียมไปโจมตีที่บ้านท่านอิมาม แต่เมื่อพวกเขาไปถึง พวกเขากลับไปพบสิ่งใด นอกจากอัลกุรอานและบทดุอา ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้น แม้แต่ยะฮยา ยังพูดว่า
“ฉันไม่พบสิ่งใด ในตัวของบุคคลผู้นี้ นอกจาก ความยิ่งใหญ่ ความยำเกรง ความสันโดษ และความกล้า ในตัวของเขา“
เมื่อมุตะวักกิล ได้ย้ายอิมามฮาดีไปซามัรรอ มันได้แสดงการดูถูกต่อท่านและนอกจากมันจะไม่ออกมาต้อนรับท่านแล้ว ยังได้ส่งท่านไป สถานที่แห่งหนึ่ง การติดต่อสื่อสารทั้งหมด อยู่ภายใต้การควบคุมของมุตะวักกิลอย่างเต็มแบบรูปแบบ และเมื่อมีข่าวออกมาว่า อิมามได้เก็บรักษาทรัพย์สิน และอาวุธของชีอะฮไว้ บรรดาทหารจะบุกเข้ามาในบ้านท่านในทันที ไม่เว้นแม้แต่ยามค่ำคืน แต่พวกเขาก็ไม่พบสิ่งใด
ตรงข้าม ยิ่งอิมาม อยู่ซามัรรอ ผู้คนก็เริ่มรักท่านมากขึ้นเท่านั้น ทุกคนต่างนอบน้อม เมื่ออยู่ต่อหน้า อิมามฮาดีย์ และให้เกียรติท่านมากยิ่งขึ้นไปอีก อับบาซียะฮ รับไม่ได้กับสิ่งนี้ มุตะวักกิล จึงได้สั่งให้สังหารอิมามฮาดีย์
แม้ว่า อิมามจะถูกปิดกั้น และถูกควบคุม แต่ท่าน ก็ยังใช้จังหวะ ในส่วนที่มี ในการให้ความรู้ แก่บรรดามุสลิม ซึ่งลูกศิษย์ของท่าน ได้แก่ ฟัฎล บิน ชาซาน , ฮูเซน บิน ซาอีด อะฮ์วาซีย์, อับดุลอะซีม ฮาซานีย์
เรื่องจริงสอนใจ
ครั้งมีผู้ป่วยคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง
พลางสะอื้นส่งเสียงร้องไห้ เพราะกลัว ในช่วงที้ใกล้สิ้นใจ
อิมามเข้ามาเยี่ยมเยียนเขา นั่งอยู่ข้างศรีษะ ท่านกุมมือเข้าไว้ และพูดกับเขาว่า
“ท่านกลัวความตายหรือ ? เมื่อร่างท่านเปรอะเปื้อนท่านต้องไปชำระล้างในห้องอาบน้ำ ความตายก็เป็นเช่นนั้น มันจะทำความสะอาดบาปของท่าน และมันจะส่งท่านไปสู่ความสะดวกสบาย“
เมื่อผู้ป่วยได้ฟังเช่นนั้น จึงทำให้เขาสงบลง และจากโลกนี้ไป ในสภาพที่อิมามยังกุมมือเขา
ขอขอบคุณเว็บไซต์ thaitalabeh
