เสี้ยวหนึ่งในวิถีชีวิตของอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบา
เนื่องวโรกาสคล้ายวันประสูติของท่านอิมามฮะซัน อัลมุจญ์ตะบา ประเด็นที่จะนำเสนอ คือ มาทำความรู้จักบุรุษผู้ที่ประสูติในวันนี้กันสักพอสังเขป
เมื่อวันที่ 15 เดือนรอมฏอน ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่สาม ซึ่งเป็นเดือนอันยิ่งใหญ่ที่พระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานถูกประทานลงมา
ณ บ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่ง ในเมืองมะดีนะฮ์ ทารกที่มีนามว่าฮะซัน ได้ถือกำเนิดลืมตาดูโลก ซึ่งชื่อของท่านนั้น เป็นชื่อที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานมอบให้ และท่านได้รับการเลี้ยงดูมาในอ้อมแขนของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อล ฯ ) ผู้เป็นตา ท่านอิมามอะลี (อ.) ผู้เป็นบิดา และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) ผู้เป็นมารดาของท่าน
จะเห็นได้ว่าท่านศาสดามุฮัมมัดนั้น มีความรักต่อฮะซันผู้เป็นหลานชายท่านอย่างมาก
ท่านเคยกล่าวว่า
“เขาคือบุตรของฉัน และเขาคือกลิ่นหอมของฉันที่มาจากโลกนี้”
บรรดามุสลิมมักจะเห็นท่านศาสดาให้เด็กน้อยฮะซันขึ้นขี่คอของท่านเสมอ แล้วกล่าวย้ำเสมอว่า เด็กผู้นี้ คือ ประมุข ผู้นำโลกอิสลามคนหนึ่ง และหวังว่า พระเจ้าจะทรงประนีประนอมคนมุสลิมสองกลุ่มได้เนื่องด้วยเขา หลังจากนั้น ท่านก็วิงวอนขอพรต่อพระเจ้าเสมอว่า
“โอ้ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า แท้จริงข้าพระองค์รักเขา ดังนั้น ขอให้พระองค์ทรงรักเขา และทรงรักผู้ที่รักเขาด้วยเถิด”
ท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อล ฯ) ยังได้กล่าวเสมอว่า
“ฮะซัน และฮุเซนคือประมุขของบรรดาชายหนุ่มชาวสวรรค์”
วันหนึ่งท่านศาสดากำลังนมาซอยู่ในมัสญิด ขณะที่ท่านกำลังก้มกราบแสดงความเคารพภักดี ฮะซันได้ปีนขึ้นไปบนหลังแล้วนั่งบนคอของท่าน ท่านศาสดาจึงต้องก้มศีรษะอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งฮะซันลงไป เมื่อท่านนมาซเสร็จ มีบางคนกล่าวว่า
“โอ้ ท่านศาสดา แท้จริงท่านได้ปฏิบัติต่อเด็กอย่างที่ไม่เคยมีใครปฏิบัติมาก่อนเลย” ท่านศาสดาจึงตอบว่า
“แท้จริงหลานคนนี้คือกลิ่นหอมของฉัน เป็นบุตรของฉัน เป็นประมุขคนหนึ่งและหวังว่าอัลลอฮ์จะทรงประนีประนอมระหว่างมุสลิมทั้งสองฝ่ายได้เนื่องด้วยเขา”
วิธีการอบรมสั่งสอนของท่านอิมามฮะซัน
ท่านฮะซันเคยเดินไปมัสญิดพร้อมฮุเซนน้องชาย ทั้งสองเห็นชายชราคนหนึ่งกำลังทำน้ำนมาซ แต่เขาทำไม่ถูกต้อง ท่านฮะซันคิดหาวิธีการเพื่อจะแนะนำการทำน้ำนมาซที่ถูกต้องแก่ชายชราผู้นั้น โดยไม่เสียมารยาท ดังนั้น ทั้งสองจึงเข้าไปหาชายชราผู้นั้น และทำทีว่าทั้งสองคนขัดแย้งกัน โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่า ทำน้ำนมาซไม่ถูกต้อง แล้วทั้งสองคนก็พูดกับชายชราว่า “ท่านโปรดตัดสินระหว่างเราสองคนด้วยเถิด” แล้วทั้งสองก็ลงมือทำน้ำนมาซให้ชายคนนั้นดู
ชายชราได้สังเกตวิธีการทำน้ำนมาซ ก็เข้าใจในจุดประสงค์ของทั้งสองคนทันทีจึงพูดยิ้มๆ ออกมาว่า “เปล่าเลย ท่านทั้งสองต่างก็ทำน้ำนมาซถูกต้องด้วยกัน” แล้วเขาก็ชี้ไปที่ตัวเอง พลางกล่าวว่า “แต่ชายแก่คนนี้ซิยังโง่อยู่ เราต่างหากที่ทำน้ำนมาซไม่ถูกต้อง และเราก็ได้เรียนรู้จากท่านทั้งสอง”
อิมามฮะซันในยามอิบาดะฮ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า
สาวกคนหนึ่งของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เห็นท่านศาสดาให้ท่านฮะซันและฮุเซนขึ้นขี่คอของท่าน สาวกคนนั้นได้กล่าวว่า “อูฐที่ดีที่สุดคืออูฐของท่านทั้งสอง”
ท่านศาสดามุฮัมมัด กล่าวว่า “และคนขี่ที่ดีที่สุดก็คือเขาทั้งสอง”
ท่านฮะซัน (อ.) เป็นผู้ที่หมั่นเพียรในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้ามากที่สุด ในสมัยของท่าน ท่านไปบำเพ็ญฮัจญ์ด้วยการเดินเท้าเปล่าถึง 25 ครั้งด้วยกัน
เมื่อท่านเริ่มลงมือทำน้ำนมาซและจะนมาซ สีหน้าของท่านก็ซีดเผือด เนื่องจากความเกรงกลัวต่อพระเจ้า ท่านเคยกล่าวว่า
“เป็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง สำหรับคนที่ยืน ณ เบื้องพระพักตร์ของพระผู้อภิบาลแห่งบัลลังค์ที่จะต้องมีอาการเกรงกลัวจนหน้าซีด ประหนึ่งว่าวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง”
เมื่อท่านไปถึงประตูมัสญิด ท่านได้แหงนหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “โอ้พระผู้ทรงไว้ซึ่งความดี บัดนี้ผู้ทำความผิดได้มาหาพระองค์แล้ว ดังนั้น ขอให้พระองค์ทรงขจัดความเลวที่มีอยู่ในตัวฉันออกไปด้วยความดีงามที่มีอยู่ ณ พระองค์ด้วยเถิด โอ้พระผู้ทรงเกียรติ”
อ้างอิงจากเว็บไซต์อัชชีอะฮ์
ทางเว็บอัลฮะซะนัยน์ได้ปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนเพื่อความเหมาะสมและเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น