ไทยแลนด์
Wednesday 6th of November 2024
0
نفر 0

ลัยละตุลก็อดรฺ (รัตติกาลแห่งอานุภาพ) ตอนที่ 8

ในบริบทของ... فزت ورب الکعبة “วันนี้ ข้าประสบความสำเร็จแล้ว โอ้พระผู้อภิบาลแห่งกะอบะฮฺ” . اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم ขอนำเสนอบางเรื่องราว ที่เป็นคำสั่งสอน ที่เป็นสาส์นถึงเราทุกคน ที่คิดว่า เรา คือ ชีอะห์ของท่าน
ลัยละตุลก็อดรฺ (รัตติกาลแห่งอานุภาพ) ตอนที่ 8

ปาฐกถาพิเศษโดยท่านฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี

 

 ในบริบทของ...

فزت ورب الکعبة

 

“วันนี้ ข้าประสบความสำเร็จแล้ว โอ้พระผู้อภิบาลแห่งกะอบะฮฺ”

.

 

 

اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم

 

ขอนำเสนอบางเรื่องราว ที่เป็นคำสั่งสอน ที่เป็นสาส์นถึงเราทุกคน ที่คิดว่า เรา คือ ชีอะห์ของท่าน

ในคืนที่สิบเก้า หลังจากดาบอัปยศ ได้กระหน่ำลงไปบนศีรษะของท่าน

 

ในริวายัตได้กล่าวว่าท่านอิมามอะลี(อ)ไม่ได้พูด ไม่ได้แสดงอาการใดๆ ท่านไม่ได้ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด ถ้าพูดในภาษาของพวกเรา แม้แต่ หนึ่งโอดครวญ ก็ไม่ได้ยินจากท่านอิมามอะลี(อ)

 

ในริวายัตบอกว่า ในทันทีที่ดาบนั้นได้กระทบกับศีรษะอันมูบารอกะฮ์ของท่าน สิ่งแรกที่ได้ยินจากอิมามอะลี(อ)นั้นคือ

“บิสมิลลาฮิ วะบิลลาฮิ วะฟีซะบีลิลลาฮิ ฟุซตุวะรอบบิลกะอ์บะฮ์”

“บิสมิลลาฮ์” (ด้วยพระนามของอัลลอฮ์)

“วะบิลลาฮ์” (และด้วยพระองค์)

“วะฟีซะบีลิลลาฮิ” (และในหนทางของอัลลอฮ์)

“ฟุซตุ วะรอบบิลกะอ์บะฮ์” (ฉันประสบความสำเร็จแล้ว ขอสาบานด้วยพระผู้อภิบาลแห่งกะอ์บะฮ์)

 

หลังจากนั้น อิมามฮะซัน(อ) ได้เข้ามาในแถวข้างหลัง(ศอฟ)เพื่อประคองร่างของท่านอิมามอะลี(อ)ให้อยู่ในอ้อมกอดของท่าน

 

เนื่องจากดาบนั้นได้ฟันไปกลางที่ศีรษะของท่านนั้น ลึกเป็นอย่างมาก

ในริวายัตได้บอกว่า เลือดได้ไหลลงมา ย้อมเคราอันขาวโพลนของท่าน กลายเป็นสีแดงทั้งหมด

เหมือนกับที่ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)ได้บอกไว้ล่วงหน้า ว่า...

“โอ้อะลี เคราของเจ้านั้น จะถูกย้อมไปด้วยเลือดจนเป็นสีแดงทั้งหมด”

 

ซึ่งในวันนั้นท่านอิมามอะลี(อ) ได้ถามท่านรอซูลุลลอฮ(ศ็อลฯ)แล้วยิ้ม พร้อมกล่าวว่า...

ยา รอซูลุลลอฮ(ศ็อลฯ)ในขณะที่เหตุการณ์เกิดนั้น

 “ฮัล ซาลามะตุ ดีนี” (ศาสนาของฉันยังปลอดภัยไหม???)

รอซูลุลลอฮ(ศ็อลฯ)บอกว่า “นะอัม” ใช่! ศาสนายังปลอดภัยอยู่

อิมามอาลี(อ)ยิ้ม !

อิมามอะลี(อ)ไม่ได้บอกว่าท่านเจ็บแค่ไหน? แบบไหน? อะไร? อย่างไร ?

อิมามอาลี(อ)ไม่ได้ถาม... เขาจะฟันฉันทำไม?

เมื่อได้ยินว่า เจ้าจะถูกฟันศีรษะ จนเลือดไหลมาย้อมเครา จนเป็นสีแดง

ท่านมิได้สนใจต่อเลือดโทรมกายของท่าน แต่ท่านตั้งคำถามว่า...

“ฮัล ซาลามะตุ ดีนี”

(ศาสนาของฉันซะลามัตไหม... ยารอซูลุลลอฮ์)

 

และในวันนี้ท่านอยู่ในอ้อมกอดของท่านอิมามฮะซัน(อ)ในขณะที่เลือดนั้น ได้ย้อมเคราของท่านจนเป็นสีแดงทั้งหมด อิมามฮะซัน(อ)ได้ร้องไห้เป็นอย่างมาก ในริวายัตบอกว่า ด้วยความเจ็บปวดของบาดแผล ท่านอิมามอะลี(อ)ได้หลับตาของท่าน แต่เมื่อน้ำตาหยดหนึ่งของท่านอิมามฮะซัน(อ)ได้หยดไปที่ใบหน้าของท่าน

อิมามอะลี(อ)ได้ลืมตาอีกครั้งหนึ่งบอกว่า...

โอ้ฮะซัน ! ลูกรัก ไม่ต้องร้องไห้ เจ้าต้องอดทนสิลูก

 

ความซอบัร คือ แนวทางของเรา เจ้าจงอดทน ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจะร้องไห้ทำไม?

เจ้าจงรู้เถิด ตอนนี้ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ)นั่งอยู่ข้างๆฉันแล้ว

เจ้าจะร้องไห้ทำไม...ตอนนี้แม่ของเจ้า ‘ฟาฏิมะตุซซะรออ์’ นั่งอยู่ข้างฉันแล้ว

หลังจากนั้น ท่านอิมามอะลี(อ)ได้สั่งให้อิมามฮะซัน(อ)นำนมาซให้เสร็จ เพราะท่านอิมามอะลี(อ)นั้นไม่สามารถนมาซให้เสร็จได้ และท่านได้นมาซร่วมกับอิมามฮะซัน(อ)อยู่ด้านหลังในสภาพที่บาดแผลเป็นเช่นนั้น

 

ในริวายัตได้กล่าวว่า ในขณะละหมาดนั้น ท่านได้เซ จะล้มไม่ล้มอยู่ จนกระทั่งละหมาดเสร็จ ท่านได้ถูกนำกลับไปยังบ้าน อิมามฮุเซน(อ) อิมามฮะซัน(อ)ได้พยุงร่างของอิมามอะลี(อ) เหมือนกับท่านถูกแบกปีกสองข้างไป เพราะท่านเดินไม่ไหว บาดแผลนั้นลึกเป็นอย่างมาก ท่านถูกฟันจนกระโหลกเปิดออกมา

 

อิมามฮาซัน(อ)อิมามฮูเซน(อ)ประคองอิมามอาลี(อ)ทั้งซ้าย-ขวา

 

เมื่อใกล้ถึงบ้านอิมามอะลี(อ)บอกว่าปล่อยฉัน ปล่อยฉัน

อิมามฮะซัน(อ) อิมามฮุเซน (อ) บอกว่าปล่อยได้อย่างไร พ่อไม่สามารถเดินด้วยตนเองได้

อิมามอะลี(อ) บอก ปล่อยฉัน ปล่อยฉัน ฉันจะเดินเอง ลูกทั้งสองบอกพ่อเดินด้วยตนเองไม่ได้

อิมามอะลี(อ)บอก ปล่อยฉัน ปล่อยฉัน ฉันจะเดินด้วยตนเอง

บุตรที่รักทั้งสองถามว่า ทำไมพ่อถึงจะเดินด้วยตนเอง

อิมามอะลี(อ) บอกว่าดูซิ ! โน้น ! ใครยืนรออยู่ที่หน้าบ้าน

เมื่ออิมามฮะซัน(อ) และ อิมามฮุเซน(อ)หันไปมอง เห็นท่านหญิงซัยหนับ(อ)กำลัง ยืนมองพ่ออยู่ที่หน้าบ้าน

อิมามอะลี(อ)จึงได้บอกแก่อิมามฮะซัน(อ)และอิมามฮุเซน(อ)ว่า อย่าให้ซัยหนับเห็นพ่อในลักษณะถูกหามกลับบ้านเลย

ฉันขอเดิน!

อิมามอะลี(อ)ได้บอกกับอิมามฮะซัน(อ)และอิมามฮุเซน(อ)ว่า ซัยหนับจะเห็นอะไรอีกมากมาย อย่าให้ซัยหนับเห็นภาพนี้เลย

และเมื่อร่างของอิมามอะลี(อ) ถึงบ้าน อิมามได้สั่งว่าให้ฉันไปอยู่ในห้องละหมาดประจำตัวของฉัน เมื่อท่านถึงห้องละหมาดได้นอนพัก สักพัก อิมามฮุเซน(อ)ได้เข้าไปสวมกอดท่าน

 

ในริวายัตได้บอกว่า ท่านอิมามฮุเซน(อ) ร่ำไห้จนตาบวมทั้งสองข้าง เมื่ออิมามอะลี(อ) ลืมตาขึ้นมา จึงกล่าวว่า...

โอ้ฮูเซน ! ลูกรัก อย่าร้องไห้ เจ้าจะต้องอดทนให้มากกว่านี้

โอ้ฮูเซน ! อย่าร้องไห้ต่อหน้าซัยหนับ อย่าร้องไห้ต่อหน้าอุมมุลกุลซูม

ความซอบัร ความอดทน คือ สิ่งหนึ่งที่เจ้าจะต้องมี

หลังจากท่านอิมามฮุเซน(อ)เดินออกจากห้อง ก็ถึงเวลาของบุตรสาวของ อุลี อิบนิ อะบีฏอลิบ ที่จะเข้าเยี่ยมบิดาของพวกเขา

 

ในริวายัตบอกว่า ท่านหญิงซัยหนับและท่านหญิงอุมมุลกุลซูมได้มานั่งเคียงข้างบิดา และท่านหญิงทั้งสองเมื่อเห็นสภาพของบิดาเป็นเช่นนั้น ได้ร้องไห้เป็นอย่างมาก

 

ในริวายัตได้กล่าวว่า ท่านอิมามอะลี(อ)ได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และพยายามที่จะลุกขึ้นนั้น เมื่อเห็นบุตรสาวทั้งสองนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ แต่ในครั้งนี้อิมามอะลี(อ) ไม่ได้ห้ามเหมือนกับที่ห้ามอิมามฮะซัน(อ)และอิมามฮุเซน(อ) กลับกันท่านได้ร่วมร้องไห้กับพวกนางทั้งสองด้วย ที่อิมามอะลี(อ)ร่วมร้องไห้นั้น เพราะผู้เป็นบิดานั้นไม่สามารถที่จะเห็นน้ำตาของบุตรสาวได้

 

โอ้  อะมีรุลมอฺมินีน ในวันที่ท่านถูกฟัน ท่านไม่สามารถที่จะเห็นน้ำตาลูกสาว

ถ้าท่านอยู่ที่กัรบาลาอฺและเห็นน้ำตาของซัยหนับ อะไรจะเกิดขึ้นกับท่านบ้าง?

 

อิมามฮะซัน(อ)ร่ำไห้ท่านห้าม อิมามฮุเซน(อ)ร่ำไห้ท่านห้าม แต่น้ำตาของท่านหญิงซัยหนับ(อ) ท่านไม่ห้าม ท่านกลับหลั่งน้ำตาร่วมกับซัยหนับ(อ) เพราะท่านไม่สามารถที่จะเห็นน้ำตาของบุตรสาว

 

ถ้าท่านอยู่ที่กัรบาลาอฺ ได้เห็นซัยหนับวิ่งไปวิ่งมา ได้เห็นซัยหนับร้องไห้แล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับท่าน

 

มีริวายัตบทหนึ่ง ได้กล่าวว่า ตอนที่ดาบอัปยศได้ฟันไปที่ศีรษะของท่านอิมามอะลี(อ) เป็นริวายัตที่ศอเฮียะและมุอฺตะบัรที่สุด บอกว่า...

 

“ชาวกูฟะฮ์ทั้งหมดได้ยินเสียงร้อง ที่ดังจากฟากฟ้า"

“ฮุดดิมัต อัรกานุลฮุดา วัลลอฮ์”

“เสาหลักแห่งฮิดายัตได้ถูกโค่นลงแล้ว”

“กอตะละ อะลียุลมุรตะฎอ”

“อะลียุลมุรตะฎอได้ถูกฆ่าแล้ว”

 

ด้วยเสียงร้องที่ดังมาจากฟากฟ้า ทำให้ชาวกูฟะฮ์ตื่นขึ้นมาทั้งเมือง และทุกคนเข้าใจความหมาย เพราะประโยคที่สอง คือ

“กอตะละ อาลียุลมุรตะฏอ”

 “อาลียุลมุรตะฎอได้ถูกฆ่าแล้ว”

ในริวายัตบอกว่า เสียงร้องไห้ของชาวกูฟะฮ์นั้น ดังไปทั้งเมือง เหมือนกับวันที่ท่านรอซูลุลลอฮ์

(ศ็อลฯ)ได้จากโลกนี้ไปที่มะดีนะฮ์ หน้าบ้านของท่านอิมามอะลี อิบนิ อะบีฏอลิบนั้น เต็มไปด้วยประชาชนที่ร้องไห้

 

‘อบูฮัมซะฮ์ ษุมาลี’ได้เข้าไปเยี่ยมท่านอิมามอะลี (อ) ในวาระสุดท้ายอีกเช่นกัน บอกว่า เมื่อเข้าถึงตรงนี้แล้ว ด้วยทั้งเสียงร้องของคนในบ้าน ทั้งเสียงร้องของชาวเมือง

อิมามอะลี(อ)ได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและบอกกับ ‘อาบูฮัมซะฮ์ ’ว่า บอกเขาอย่าร้องเถิด ถ้าเขาเห็นเหมือนกับที่ฉันเห็น จะไม่มีใครร้องในค่ำคืนนี้

 

ในค่ำคืนนี้ 'อาบูฮัมซะฮ์ ษุมาลี' ได้ถามอิมามอะลี (อ) ว่า แล้วท่านเห็นอะไร?

อิมามอะลี(อ)บอก เจ้าไม่เห็นดอกหรือ...‘ อาบูฮัมซะฮ์ ษุมาลี ’

มาลาอิกะฮ์กำลังลงมาเป็นทิวแถว สลามให้กับฉันอยู่

เจ้าไม่เห็นดอกหรือ?

บรรดารอซูลและบรรดานบีกำลังลงมาเป็นทิวแถวให้สลามกับฉันอยู่

พวกเขากำลังเตรียมการต้อนรับฉัน

 

เจ้าไม่เห็นดอกหรือ ?

ท่านรอซูลุลลอฮ(ศ็อลฯ)กำลังนั่งอยู่เคียงข้างฉัน แล้วบอกว่า ยาอาลี รีบมา รีบมา

เจ้าไม่เห็นดอกหรือ?

ฟาฏิมะตุซซะรออ์ ก็มารอรับฉันอยู่

 

 

لا حول و لا قوة الا باالله العلی العظیم

ขอขอบคุณเพจมหา'ลัย คมความคิด


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

มารู้จักอิมามมะฮฺดีย์
สาเหตุการกล่าวคำปฏิญาณในอิสลาม
...
ฟาฎิมะฮ์มิไช่หรือ?
มุอ์มิน (ผู้ศรัทธา) คือใคร?
เอกภาพในความแตกต่าง
อะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดา (ศ็อล ...
...
หน้าที่ของอิมาม
...

 
user comment