จากการที่ซาอุดิอาระเบีโจมตีเยเมนอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงพยาบาลและสถานพยาบาลในประเทศจำนวนมากเสียหายอย่างหนัก และทำให้ประเทศเยเมนก้าวสู่วิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มตัว
หลังจากที่เครื่องบินรบซาอุฯโจมตีเยเมนเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้ขณะนี้ทางโรงพยาบาลต้องพบกับปัญหาการขาดเลือดสำรองและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์จำนวนมาก ทำให้ห้องไอซียู และแผนกฉุกเฉิน ไม่สามารถเปิดให้บริการตามปรกติ ด้วยเหตุนี้พลเมืองเยเมนจำนน 400,000 ครอบครัวต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์กรุงซานาในเยเมน กำลังประสบกับสถานการณ์ที่ลำบากอย่างหนักจากการโจมตีของซาอุดิอาระเบีย และต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนยาและอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ ทำให้ผู้ป่วยโรคไต 6,000,000 คน และผู้ป่วยโรคมะเร็งอีก 250,000 คน กำลังเสี่ยงอยู่ในภาวะอันตราย
อับดุลลาติฟ อบูตอลิบ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วไป อัลเษาเราะฮ์ เยเมน เตือนว่า สิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญในทุกด้าน กลายเป็นศูนย์แล้ว รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือในห้องปฏิบัติการ และยารักษาโรคที่จัดอยู่ในประเภทที่หาง่ายที่สุด เมื่อผู้ป่วยฉุกเฉินมาถึงสามารถช่วยชีวิตของพวกเขาได้ แต่เนื่องจากในขณะนี้แม้แต่ในคลังยาก็ไม่มีเข็มฉีดยาสักอัน อุปกรณ์ผ่าตัดก็เป็นศูนย์ และชนิดผ้าพันแผลและน้ำยาฆ่าเชื้อก็หมดสิ้นทุกอย่าง
โรงพยาบาลทั่วไปอัลเษาเราะฮ์ เยเมน สามารถรองรับผู้ป่วยวันละ 2000 -2500 คน และเมื่อสามวันก่อนได้ประกาศเชิญชวนพี่น้องมาบริจาคเลือดเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย และประชาชนเยเมนก็ตอบรับเป็นอย่างดีในการมาบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนนมนุษย์ให้รอดพ้นจากความตาย
กระทรวงสาธารณสุขเยเมน เผยว่า ได้เขียนจดหมายถึงสหประชาชาติแล้ว ให้ซาอุดิอาระเบียหยุดการโจมตีเยเมน พร้อมกับเปิดช่องทางเพื่อสามารถนำเวชภัณฑ์เข้ามา ตามสถิติล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขเยเมน เผยว่า ขณะนี้ มี 393,558 ครอบครัว และ ผู้ลี้ภัยจำนวน 2,460,761 คน ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โรงพยาบาลกำลังขาดเวชภัณฑ์หลักและอุปกรณ์ในการรักษา ยิ่งเพิ่มความทุกข์ใจและความเจ็บปวดให้กับคนไข้ ซึ่งจากกจุดนี้เองจะทำให้เยเมนก้าวสู่วิกฤติด้านมนุษย์ธรรมอย่างเต็มรูปแบบ
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์