ดังที่เคยถูกพยากรณ์ไว้แล้วว่าไฟก่อการร้ายแห่งตะวันออกกลางจะหวนกลับไปเผาผลาญเหล่าบรรดาผู้ที่จุดมันขึ้นมา เหมือนดังที่ “บะชาร อะซัด” ประธานาธิบดีของซีเรียได้กล่าวขึ้นหลังจากทราบเหตุการณ์ในปารีส ว่า : “ฝรั่งเศษได้เผชิญกับสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญกับมันมาเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว !” ซึ่ง “บะชาร ญะอ์ฟะรี” ตัวแทนของซีเรียในสหประชาชาติได้พูดออกมาอย่างชัดเจนถึงจุดประสงค์ของบะชารจากคำพูดดังกล่าวว่า “การก่อการร้ายได้กระชากคอเสื้อของบรรดาผู้สนับสนุนมันแล้ว”
ก่อนหน้าที่จะเกิดปฏิบัติการณ์ก่อการร้ายของไอเอซในใจกลางของยุโรป เหล่านักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเคยพยากรณ์ถึงสิ่งเหล่านี้ไว้แล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือท่านผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ” ซัยยิดอะลี คาเมเนอี ” เคยกล่าวเตือนไว้ในขณะพบปะกับอะมีรคูเวตว่า : ” บางประเทศในภูมิภาค ยังคงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือกลุ่มตักฟีรี (มุสลิมหัวรุนแรง) ในการสร้างอาชญากรรมและการสังหารผู้คน ทั้งในประเทศซีเรียและประเทศอื่นๆ แต่ทว่าในอนาคตอันใกล้นี้ กลุ่มเหล่านี้จะหวนกลับมา และนำความหายนะมาสู่ชีวิตของประเทศ ที่ให้การสนับสนุนพวกเขาอยู่และสุดท้ายพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องทุ่มทุนอย่างมหาศาลในการกำจัดกลุ่มเหล่านี้ ”
ฝรั่งเศษเป็นหนึ่งจากพันธมิตรผู้ใกล้ชิดของสหรัฐฯ ในเหตุการณ์ซีเรียและเป็นเหมือนดังประเทศนี้ที่ให้การสนับสนุนด้านอาวุธ การเมือง ทุนทรัพย์ และสื่อกับเหล่าผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงในซีเรีย อีกทั้งยังเป็นเจ้าภาพของการประชุมของเหล่าผู้ก่อการร้าย และบรรดาฝ่ายค้านรัฐบาลดามัสกัส ในปารีสหลายวาระด้วยกัน จะต้องไม่ลืมว่า ” ไอเอซ ” ก่อตัวขึ้นมาภายใต้การดูแลขององค์กรลับและหน่วยข่าวกรองทั้งหลายของฝรั่งเศษ , Mossad , MI6 , และ CIA และกองกำลังเหล่านี้ได้รับการฝึกอยู่ในจอร์แดน และตุรกี เมื่อปี 2011 ถึงกลางปี 2013 และในปัจจุบันยังคงได้รับการสนับสนุนในทุกด้านจากประเทศมหาอำนาจเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกันยังมีปฏิกิริยาจากสังคมโลกมากมายที่ชี้ถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างฝรั่งเศษและกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงทั้งหลาย ” รอมฎอน คูดาเยฟ ” ประธานาธิบดีเชชเนีย เผยว่า : ไอเอส ถูกผลิตมาจากสหรัฐฯ และตะวันตก ( อย่างเช่นฝรั่งเศษ ) ” ลิยากัต บุลูจ ” เลขาธิการพรรคญะมาอัต อิสลามแห่งปากีสถานเผยว่า : ไอเอซจะไม่สามารถหายใจอยู่ได้ หากปราศจากการสนับสนุนของตะวันตก
ฉะนั้นหากประชาชนฝรั่งเศษมีเจตนารมณ์ที่จะแก้แค้น ก่อนสิ่งอื่นใดเลยพวกเขาจะต้องสอบสวนบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศตนก่อน เพราะทุกคนทราบดี และเห็นอยู่ทุกวันว่า ปารีสได้ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีย์โดยผ่านทางรัฐเถื่อนไซออนิสต์และกรุงริยาด และมีส่วนในการฆ่าสังหารประชาชนเยเมน ซีเรีย ปาเลสไตน์และเลบานอน และการมีส่วนร่วมในอาชกรรมภูมิภาคนี้ จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างใด มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่า ตลอดสงครามแปดปีแห่งการต่อต้านอิหร่าน ฝรั่งเศษได้ส่งอาวุธ และเรือรบชนิดใดบ้างให้กับซัดดัม จอมเผด็จการผู้รุกรานของอิรัก ดังนั้น เห็นได้ว่า ฝรั่งเศษมีอดีตของการร่วมมือและใกล้ชิดกับเหล่าเผด็จการจอมดุร้ายที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าไอเอซเลย
แต่อีกการวิเคราะห์หนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือเหตุการณ์นี้ช่างคล้ายคลึงกับวินาศกรรม 11 กันยายน การโจมตีตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่สร้างสถานการณ์โดยองค์กรหลับของฝรั่งเศษและตะวันตก ที่ผลของมันคือการถล่มอัฟกานิสถานโดยสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เหตุระเบิดและการกราดยิงในปารีสที่เกิดขึ้นอย่างง่ายดายโดยกลุ่มไอเอสนั้น อาจทำให้ตะวันตกออกมาประกาศว่า หลังจากนี้จะต่อสู้กับกลุ่มไอเอสอย่างจริงจัง แต่เป้าหมายของพวกเขาไม่ได้มีสิ่งใดนอกเหนือไปจากการแพร่ขยายสงครามต่อต้านรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายของบะชาร อะซัดเท่านั้น.
