สังเขปชีวประวัติอุมมุลบะนีน
ฟาฏิมะฮ์ บินติ ฮัซซาม ภรรยาคนที่สองของอิมามอลี, บิดาชื่อ ฮัซซาม บิน คอลิด จากเผ่าบนีกิลาบ
กล่าวกันว่าภายหลังจากที่ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ บุตรีศาสดาเสียชีวิตในปี ฮ.ศ.11 อิมามอลีได้ปรึกษาอะกีล น้องชายของท่านซึ่งมีความรอบรู้เกี่ยวกับสาแหรกเชื้อสายของชาวอรับ เพื่อให้เฟ้นหาสตรีผู้มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวในสายเลือด อะกีลได้แนะนำฟาฏิมะฮ์ บุตรี ฮัซซาม บุตร คอลิดให้ท่าน พร้อมกล่าวว่า "ในหมู่ชาวอรับไม่มีชนใดจะกล้าหาญไปกว่าชาวกิลาบอีกแล้ว"
ในที่สุด อิมามอลีก็ได้สมรสกับเธอ เธอให้กำเนิดบุตรชาย4คน ชื่อ อับบาส,อับดุลลอฮ์,ญะฟัร,อุษมาน โดยทั้งสี่คนนี้เป็นที่กล่าวขานกันถึงความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญทุกคน จากการที่ฟาฏิมะฮ์ บุตรี ฮัซซาม มีบุตรชายกล้าแกร่งถึงสี่คน จึงได้รับการขนานนามว่า "อุมมุล บะนีน" อันแปลว่ามารดาแห่งเหล่าบุตรชาย
บุตรชายของนางทั้งสี่ได้รับการเป็นชะฮีดในโศกนาฏกรรมกัรบะลาเพื่อปกป้องผู้นำและพี่ชายของพวกเขา อิมามฮุเซน บิน อลี (อ.)
อุมมุลบะนีนมิได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์กัรบะลา แต่เมื่อคาราวานแห่งลูกหลานศาสดาเดินทางกลับจากกัรบะลาสู่เมืองมะดีนะฮ์ มีผู้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของบุตรชายทั้งสี่แก่นาง แต่นางกลับถามถึงอิมามฮุเซนเท่านั้น ต่อเมื่อทราบว่าบุตรชายทั้งสี่ได้เสียชีวิตเพื่อปกป้องอิมามฮุเซน นางกล่าวรำพันว่า "ฉันใคร่จะเห็นลูกๆทุกคนของฉันและทุกสิ่งทุกอย่างบนผืนปฐพีสลายไปเพื่อพลีปกป้องฮุเซน แต่ขอให้ฮุเซนปลอดภัย" คำพูดดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความรักอันสุดซึ้งที่นางมีให้วงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิมามฮุเซน
เรื่องราวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงสถานภาพอีมานและตักวาของนางได้เป็นอย่างดี จากวันนั้นเป็นต้นมา นางจะจูงหลานชายชื่ออุบัยดุลลอฮ์ (บุตรท่านอับบาส)มายังสุสานอัลบะกีอ์ พร้อมกับอ่านบทกวีที่ประพันธ์ไว้เพื่อไว้อาลัยและร่ำไห้อย่างโศกสลด ชาวมะดีนะฮ์ต่างห้อมล้อมนางและร่วมร่ำไห้เพื่อไว้อาลัยเช่นกัน กล่าวกันว่าบทกวีของนางมีอานุภาพสร้างความโศกสลดกระทั่งศัตรูของอะฮฺลุลบัยต์บางคนยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
source : alhassanain