ไทยแลนด์
Saturday 23rd of November 2024
0
نفر 0

กามารมณ์เสรี ทางออกหรือปัญหา?

ทฤษฏีเกลือจิ้มเกลือของชาวตะวันตก นักวิชาการตะวันตกบางคนเชื่อว่า การปิดกั้นระหว่างชายและหญิงจะเพิ่มความอยากและความทุรนทุราย จากหลักที่ว่า"มนุษย์มักจะต้องการในสิ่งต้องห้าม" ทำให้เราเห็นว่าการห้ามหรือการปิดกั้นนั้นจะยิ่งเพิ่มความต้องการทางเพศให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การกักขังความรู้สึกทางเพศย่อมนำมาซึ่งความปรวนแปรทางกายและจิตใจ
กามารมณ์เสรี ทางออกหรือปัญหา?

ทฤษฏีเกลือจิ้มเกลือของชาวตะวันตก
นักวิชาการตะวันตกบางคนเชื่อว่า การปิดกั้นระหว่างชายและหญิงจะเพิ่มความอยากและความทุรนทุราย จากหลักที่ว่า"มนุษย์มักจะต้องการในสิ่งต้องห้าม" ทำให้เราเห็นว่าการห้ามหรือการปิดกั้นนั้นจะยิ่งเพิ่มความต้องการทางเพศให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การกักขังความรู้สึกทางเพศย่อมนำมาซึ่งความปรวนแปรทางกายและจิตใจ

ซิกมันด์ ฟร็อยด์ กล่าวว่า ความไม่ประสบความสำเร็จต่างๆของมนุษย์เกิดจากข้อจำกัดต่างๆทางสังคม แนะนำว่าให้ปลดโซ่ตรวนต่างๆเหล่านี้ให้กามารมณ์ได้เป็นอิสระ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียทางสังคมที่จะตามมา

เบอร์ทรานด์ รัสเซิลล์ กล่าวว่า หากปฏิทินหรือโปสเตอร์ที่มีรูปโป๊เปลือยได้รับการตีพิมพ์และแจกจ่ายอย่างเสรีแล้วล่ะก็ ปฏิทินเหล่านี้อาจจะปลุกเร้าอารมณ์ของผู้คนได้อย่างมากก็เพียงปีหรือสองปี แต่หลังจากนั้นผู้คนก็จะเบื่อหน่ายและจะไม่มีใครชำเลืองมองปฏิทินหรือโปสเตอร์เหล่านั้นอีกต่อไป

ข้อโต้แย้งจากโลกอิสลาม
ท่านชะฮีด มุรตะฏอ มุเฎาะฮะรี กล่าวแย้งข้อคิดเห็นของนักวิชาการตะวันตกว่า
การที่รัสเซิลล์กล่าวว่า หากภาพโป๊เปลือยเผยแพร่อย่างเสรี อีกสักประเดี๋ยวผู้คนก็จะเบื่อไปเองและจะไม่ชำเลืองมองนั้น คำพูดนี้อาจจะเป็นไปได้ในกรณีของภาพๆหนึ่ง หรือกิเลสตัณหาประเภทหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม วิธีเช่นนี้ไม่มีวันจะดับกิเลสตัณหาทั้งหมดของมนุษย์ได้อย่างแน่นอน กล่าวคือ เป็นไปได้ที่เขาอาจจะเบื่อหน่ายกับการบำเรอตัณหาบางวิธี แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหันมาสนใจการรักนวลสงวนตัว ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ตัณหาราคะในจิตใจของเขาจะยิ่งลุกโชน และจะเรียกร้องการบำเรอตัณหาราคะด้วยวิธีอื่นๆที่แปลกและพิสดารยิ่งขึ้นไปอีก และทุกคนก็ทราบดีว่า ตัณหาเหล่านี้จะเรียกร้องอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด

ต้องพิจารณาเสมอว่าการเปิดกว้างในเรื่องกามารมณ์นั้น จะยิ่งเพิ่มเชื้อไฟแห่งตัณหาในรูปแห่งการปรารถนาที่จะไขว่คว้ามาครอบครองให้ได้ ความปรารถนาประเภทเดียวกับความปรารถนาของเหล่ากษัตริย์แห่งเปอร์เซียและโรมันที่มีฮาเร็มของตนเองโดยเฉพาะ(เขตหวงห้ามอันเป็นที่พำนักของนางสนมจำนวนมากของกษัตริย์)

ประเภทกามารมณ์
กามารณ์มีสองประเภทด้วยกัน กามารมณ์ในเชิงกายภาพ และกามารมณ์ในเชิงจิตใจ กามารมณ์ในเชิงกายภาพนั้นมีข้อจำกัด เพราะเพียงสตรีเพียงคนเดียวหรือสองคนก็เพียงพอแล้วสำหรับบุรุษเพศสักคนหนึ่ง แต่ในเชิงจิตใจ หรือความต้องการความแปลกใหม่ไม่จำเจที่อาจจะเกิดขึ้นในความรู้สึกของมนุษย์นั้น แตกต่างจากข้อจำกัดทางกายภาพอย่างสิ้นเชิง เพราะความต้องการดังกล่าว (ซึ่งบางครั้งเรียกว่าตัณหา) นั้น ไม่มีข้อจำกัดและไม่มีที่สิ้นสุด หากชายคนใดตกในหุบเหวแห่งความต้องการดังกล่าวแล้ว ต่อให้เขามีฮาเร็มที่เต็มไปด้วยสาวงามจากทั่วทุกมุมโลกมากมาย หากได้ยินว่ามีสาวงามอีกคนที่อยู่ ณ ดินแดนอันไกลโพ้น เขาก็ยังปรารถนาจะได้ตัวนางมาเชยชม

สำหรับคนประเภทนี้ จะไม่มีคำว่า"พอแล้วล่ะ ฉันเบื่อหน่ายแล้ว " คนเหล่านี้มีลักษณะคล้ายนรกญะฮันนัมที่พร่ำขอให้โยนคนบาปลงไปอย่างไม่มีวันเพียงพอ ดังที่กุรอานกล่าวว่า

" یوم نقول لجهنم هل امتلأت و نقول هل من مزید"
วันที่เราจะปรารภต่อขุมนรกญะฮันนัมว่า เต็มความจุของเจ้าหรือยัง และมันตอบว่า ยังมีเพิ่มอีกหรือไม่?

ดวงตาของมนุษย์สามารถจ้องมองใบหน้าที่สวยงามได้อย่างไม่รู้เบื่อ และจิตใจก็จะถูกนำพาให้คล้อยตามดวงตาไป ความรู้สึกนี้จะไม่มีวันอิ่มและเพียงพอ ดังที่เปลวไฟไม่มีวันอิ่มจากการลุกไหม้ไม้ฟืน

หากจะกล่าวโดยรวมแล้ว กิเลสหรือความต้องการของมนุษย์ไม่ว่าจะในเรื่องใด หากพิจารณาในแง่อารมณ์แล้ว ต่างก็ไร้ขีดจำกัดเสมอเหมือนกันทั้งสิ้น
โดยแก่นแท้แล้ว มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อให้ปรารถนาอย่างไร้ขีดจำกัด หากเขากุมบังเหียนความต้องการอันไร้ขีดจำกัดนี้ให้มุ่งสู่ทิศทางของชื่อเสียง,ทรัพย์สินเงินทองและกามารมณ์ มันก็จะเรียกหาสิ่งเหล่านี้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด และหากเราสนองความต้องการเหล่านั้นในระดับหนึ่ง มันก็จะเรียกร้องให้สนองตอบในระดับที่สูงกว่าอยู่ร่ำไป โดยไม่มีที่สิ้นสุด

ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวไปทั้งหมด แนวคิดที่ว่าการระเบิดของตัณหากามารมณ์เกิดจากข้อจำกัดทางศีลธรรมและจารีตของสังคม เป็นแนวคิดที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ ความผิดพลาดในทฤษฏีของฟร็อยด์ และคนอื่นๆก็คือ พวกเขาคิดว่าวิธีการควบคุมความคึกคะนองของกามารมณ์คือการป้อนอาหารให้มันอย่างเต็มที่ พวกเขาจ้องแต่เพียงจะปลดข้อจำกัดและข้อห้ามต่างๆเพียงเพราะต้องการจะทำให้อารมณ์มนุษย์อ่อนท่าทีและสงบลง

วิธีควบคุมที่ถูกต้อง
ในมุมมองของอิสลาม การที่เราจะคืนความสงบแก่อารมณ์และความต้องการของเรานั้น ต้องพึ่งพาสองปัจจัยดังนี้
1. การสนองความต้องการทางกามารมณ์ในระดับปกติ
2. ไม่ยั่วเย้ากามาารมณ์ให้ตื่นเตลิด

ความต้องการของมนุษย์คล้ายกับบ่อน้ำมันที่อัดแน่นด้วยก๊าซธรรมชาติใต้ดิน ซึ่งหากไม่ปล่อยแก๊ซเหล่านั้นออกมา อาจจะเกิดอันตรายได้ จึงต้องปล่อยก๊าซให้ไฟปากปล่องเผาไหม้ไปเรื่อยๆ ไฟปากปล่องก๊าซจะเผาไหม้ตามที่ก๊าซพวยพุ่งขึ้นตามท่อ และแน่นอนว่าไฟปากปล่องจะไม่มีวันดับเพราะก๊าซที่ปล่อยออกมามหาศาล แต่จะยิ่งลุกโชนอย่างอันตรายตามก๊าซที่ปล่อยออกมา

สังคมมนุษย์ต้องคำนึงว่า การที่มีการป้อนสิ่งเย้ายวนให้กับเยาวชนคนหนุ่มสาวด้วยสื่อทุกประเภทอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ย่อมจะทำให้อารมณ์ความต้องการของพวกเขาลุกโชนขึ้น หากคิดจะทำให้อารมณ์ของพวกเขาสงบลงด้วยการบำเรอด้วยความสำส่อนแล้วล่ะก็ ย่อมเป็นไปไม่ได้และไม่ต่างอะไรกับการราดน้ำมันใส่กองเพลิง

กามารมณ์หากปล่อยอิสระและมิได้ถูกควบคุมโดยปัญญาและความศรัทธา ย่อมไม่มีวันจะสงบลงได้อย่างเด็ดขาด ความสงบจะคืนสู่อารมณ์ประเภทนี้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนองบนพื้นฐานของหลักการและกฎเกณฑ์ที่ถูกต้องเท่านั้น





source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

เตาฮีด ...
ชื่อและสายตระกูลของซุฟยานี
มุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ...
ซากีนะฮ์(อ.) ...
ความสำคัญของเพื่อนบ้าน
...
ที่มาของตัฟซีรอัลกุรอานของ ...
...
...
ฆอดีรคุม ...

 
user comment