ลัยละตุลก็อดรฺ (รัตติกาลแห่งอานุภาพ) ตอนที่ 6
ปาฐกถาพิเศษโดยท่านฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี
ในบริบทของ...
فزت ورب الکعبة
“วันนี้ ข้าประสบความสำเร็จแล้ว โอ้พระผู้อภิบาลแห่งกะอบะฮฺ”
اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم
คำฟัตวาของท่านอยาตุลลอฮฺ ซิสตานี
ด้วยหนึ่งฟัตวาของอุลามาอฺที่แท้จริง โดยไม่เกรงกลัวสิ่งใดๆในโลก การฟัตวาของอยาตุลลอฮ์ซิสตานี เป็นฟัตวาที่ทำให้แผนการทั้งหมดของศัตรูอิสลามต้องสะดุด
ถ้าไม่มีฟัตวาของอยาตุลลอฮ์ซิสตานีนั้น ณ ห้วงเวลานี้ อิรักเป็นประเทศดาอิชไปแล้ว จะไม่มีฮะรัมของบรรดาอิมามหลงเหลืออยู่ แม้แต่ฮะรัมของอิมามฮูเซน(อ)
ฮะรัมของอิมามอาลีที่นาญัฟ รวมทั้งฮะรัมที่กาซิมัยน์
สิ่งหนึ่งที่ศัตรูคาดไม่ถึงว่า วันหนึ่งชีอะห์คนหนึ่งที่เก็บตัวมาโดยตลอด ได้แสดงความกล้าหาญ ซึ่งเสี่ยงเป็นอย่างมาก ที่เสี่ยงเป็นอย่างมากเพราะการประกาศนี้ทั้งชีอะห์ทั้งซุนนี หากเกิดว่าไม่ถูกตอบรับ ท่านอยาตุลลอฮ์ซิสตานีต้องหนีออกนอกประเทศและต้องเข้ามาอยู่ที่อิหร่านอย่างแน่นอน แต่อัลฮัมดุลิลละฮ์ เมื่อมาจากความกล้าหาญ พร้อมที่จะฟัตวาออกไป อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่เกี่ยว เมื่อถึงบริบทนี้แล้ว ท่านอยาตุลลอฮ์ซิสตานี จึงฟัตวาญิฮาด ซึ่งความจริงแล้ว เป็นการฟัตวาญิฮาดครึ่งใบด้วย
'ญิฮาดครึ่งใบ' คือ ยังเป็นญิฮาด ‘ดิฟาอีย์’ อยู่ เป็นการให้ออกมาปกป้อง และท่านบอกด้วยว่าเป็นญิฮาด 'ดิฟาอีย์'และ 'กีฟาอีย์' ด้วย หมายความว่า ถ้าไปครบแล้วคนอื่นก็ไม่ต้องไป คนก็ออกมาอย่างมากมาย
นี่คือ บารากัตของความกล้าหาญในการแก้ไขปัญหา
ทุกที่ ทุกระดับ เมื่อมวลมุสลิมมีความกล้าหาญ สามารถแก้ไขและทำอะไรได้อย่างมากมาย
อัลฮัมดุลิลละฮ์ การฟัตวาที่ชาญฉลาดและกล้าหาญของอยาตุลลอฮฺซิสตานี สามารถหยุดดาอิชและแผนการทั้งหมดสะดุด ด้วยหนึ่งฟัตวาของอาเล็มอุลามาอฺชีอะห์ ที่สืบเนื่องมาจากความกล้าหาญในศาสนา มาจากสำนักคิด มาจากสานุศิษย์ของอาลี อิบนิ อาบีฏอลิบเพียงเท่านั้นที่จะทำได้
ตักบีร! อัลลอฮุอักบัรๆ
ท่านอยาตุลลอฮฺ คาเมเนอี ประกาศสาส์น
เหตุการณ์ในฉนวนกาซ่า ท่านอยาตุลลอฮฺ คาเมเนอี ได้ออกมายืนยันอีกครั้งหนึ่ง และประกาศอย่างชัดแจ้ง ว่า
" เราจะสนับสนุนทุกวิถีทางในการต่อสู้กับรัฐเถื่อนอิสราเอล ไม่ว่าแผ่นดินใดในโลก ไม่ว่ากลุ่มชนใดในโลกที่ต่อสู้กับรัฐนี้ ที่ต่อสู้กับขบวนการไซออนิสต์ เราจะช่วยเหลือทุกวิถีทาง เราช่วยปาเลสไตน์มาแล้วสามสิบห้าปีและเราจะช่วยเหลือต่อไป"
นี่คือ นโยบายหนึ่ง ที่เราไม่ปกปิดใดๆต่อชาวโลก เราช่วยมาแล้วสามสิบห้าปี หลังการปฏิวัติ เรา คือ ผู้อยู่เบื้องหลังปาเลสไตน์และช่วยเหลือทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยการส่งขีปนาวุธไปอย่างเปิดเผย
เหตุผลหนึ่ง ที่อิสราเอลต้องวิ่งลนลานไปหาอียิปต์ ก็เพื่อให้ช่วยหย่าศึก ช่วยเจรจาให้หยุดก่อนเพราะยังไม่รู้ว่า ขีปนาวุธตัวจริงจะเป็นเช่นไร นี่เป็นแค่เพียงตัวหลอก เป็นเพียงตัวทดลองเท่านั้น เพื่อข่มขวัญให้ศัตรูดูว่า ที่ยิงไปนั้น แม่นยำสักขนาดไหน
หลังจากนั้น ท่านซัยยิดฮาซันนัศรุลลอฮ์ ก็ออกมาประกาศอย่างกล้าหาญ
เราะฮ์บัรท่านอิมาคามาเนอี ก็ออกมาประกาศอย่างกล้าหาญ
แม่ทัพ นายกอง ต่างก็ประกาศออกมาอย่างกล้าหาญ
เมื่อศัตรูขู่มาแบบหนึ่ง เขาก็ตอบโต้ไปแบบหนึ่ง บางครั้งเพียงแสดงความกล้าหาญให้ดู ก็สร้างความเกรงกลัวให้แก่บรรดาศัตรูของศาสนาแล้ว
ดังนั้น ด้วยมักตับนี้ ด้วยแนวคิดนี้ สำนักนี้เท่านั้น ที่สอนให้คนให้มีความกล้าหาญ ทุกปัญหาในชีวิตจะต้องแก้ด้วยความกล้าหาญด้วย
ในช่วงวิกฤติต่างๆเหล่านี้อิสราเอลขู่ว่า จะส่งกองทัพอากาศมาถล่มอิหร่าน
เมื่อสัมภาษณ์ท่านนายพล กอซิม สุไลมานี ถ้าเกิดอิสราเอลส่งฝูงบินที่ทันสมัยมาถล่มอิหร่าน ท่านจะทำอย่างไร?? ท่านจะเอาอะไรไปตอบโต้อิสราเอล
ท่านนายพล กอซิม สุไลมานี ได้ตอบไปว่า...
“ไม่ต้องถามว่า จะยิงอย่างไร จะสอยเครื่องบินของพวกเขาอย่างไร ?”
แต่จงรู้ไว้ว่า “ถ้าเครื่องบินของอิสราเอลได้เข้าโจมตีอิหร่านเมื่อไหร่
เมื่อบินกลับไป จะไม่มีแผ่นดินอิสราเอลให้มันลงอีกต่อไป”
ตักบีร อัลลอฮุอักบัรๆ !
วาทะกรรมต่างๆเหล่านี้ เกิดขึ้นได้ จากชีอะห์ของอาลี อิบนิอาบีฏอลิบ เท่านั้น
อิมามโคมัยนี(รฎ) ได้นำสิ่งนี้กลับมา เมื่อสมัยที่อิมามยังตำรงตำแหน่งผู้นำ สมัยนั้นอเมริกาได้ขู่หลายครั้งว่า เราจะนำกองทัพเรืออันยิ่งใหญ่เข้าอ่าวเปอร์เซีย
อิมามโคมัยนี(รฎ) ก็ได้ประกาศว่า
“ เราจะจมเรือของอเมริกาทุกลำ ที่เข้ามาในอ่าวมาเปอร์เซียและเราจะทำให้อ่าวเปอร์เซียกลายเป็นทะเลเพลิง”
ในสมัยที่อิมามโคมัยนี(รฎ)มีชีวิตอยู่นั้น อเมริกาคิดอยู่หลายปี แต่ในที่สุด ก็ไม่กล้าส่งกองทัพเรือเข้ามา
ดังนั้น ความประเสริฐของอะฮลุลบัยต์(อ)เหนือบรรดาศาสดานั้น มีทุกเรื่อง แต่การที่อิมามอาลี(อ) เลือกมาแต่ละเรื่องนั้น คือ เป้าหมายที่จะส่งสาส์น ให้แก่พวกเราว่า
- ชีอะห์ คือ ผู้ที่ยึดความสันโดษในชีวิต
- ชีอะห์ คือ ผู้ที่มีความอดทนสูงสุด
- ชีอะห์ จะต้องพัฒนาศาสนาของตัวเองไปจนถึงขั้นยากีน
ชีอะห์ จะต้องมีความกล้าหาญเหมือนดั่งฉันที่รุดหน้าไป
“ฉันสันโดษกว่าอาดัม ฉันซอบัรกว่านุฮ์ ฉันมีความยากีนมากกว่าอิบรอฮีม ฉันกล้าหาญมากกว่ามูซา”
แนวทางนี้เท่านั้นที่จะพิชิตโลกทั้งผอง
แนวทางนี้เท่านั้นที่จะดึงดูดมนุษยชาติเข้ามา
จะต้องเป็นสานุศิษย์ในสำนักคิดของอะลี อิบนิ อะบีฏอลิบ อย่างแท้จริงเท่านั้น ที่จะพิชิตศัตรูอิสลามทั้งผองได้ เพราะท่านเป็นแบบอย่าง เป็นผู้ที่มีอุดมการณ์ที่เด็ดเดี่ยว ที่มั่นคง ที่แน่วแน่ ท่านพูดคำเหล่านี้ในขณะที่อยู่บนเตียงในขณะที่เลือดอาบเต็มตัว
ขอขอบคุณเพจมหา'ลัย คมความคิด
source : alhassanain
