อิมามัต ตำแหน่งผู้นำ(1)
มาตรว่าคำอธิบายของท่านศาสดา ในการอธิบายวิชาการและวัตถุประสงค์ของอัลลอฮฺ จะบริสุทธิ์จากการบิดเบือน (ทำนองเดียวกัน อัลลอฮฺรับรองว่าจะปกป้องอัล-กุรอานให้คงอยู่ตลอดไป) และท่านศาสดาก็ได้อธิบายทุกอย่างที่เป็นความต้องการของมนุษย์จนถึงวันแห่งการอวสานของโลกไว้แล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีอิมามะฮ แต่เป็นที่เข้าใจกันแล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น กล่าวคือ ท่านศาสดาไม่ได้อธิบาย บทบัญญัติทุกอย่างที่เป็นความต้องการของมนุษย์เอาไว้จนถึงวันแห่งการอวสานของโลก และอัลลอฮฺ ก็ไม่ได้รับรองว่าจะปกป้องคำพูดของท่านศาสดา (ในรูปของรายงาน) ให้คงความบริสุทธิ์ตอลดไป
ท่านศาสดาได้ปฏิบัติหน้าที่ของท่านอยู่นาน 23 ปี ซึ่ง 13 ปีแรกท่านเผยแผ่อยู่ในมักกะฮ มีคนจำนวนเล็กน้อยที่เข้ารับอิสลามและต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก เช่น ถูกล้อมกรอบทางเศรษฐกิจอยู่นานถึงสามปี ในสภาพเช่นนั้น เป็นไปได้หรือที่ท่านศาสดา จะอธิบายทุกอย่างที่เป็นความต้องการของมนุษย์จนถึงวันแห่งการอวสานของโลก
สมมุติฐานที่หนึ่ง ท่านศาสดา ได้อธิบายทุกอย่างเอาไว้แล้วใครกันที่ขันอาสาปกป้อง บทบัญญัติเหล่านั้น คนที่ไม่มีการศึกษาและไม่มีความรู้หรือมีแต่น้อยจะสามารถปกป้องสิ่งสำคัญเหล่านี้ไว้ได้ไหม
สมมุติฐานที่ ถ้ามีความสมารถในการปกป้องบทบัญญัติ จะมีหลักประกันอะไรว่า บทบัญญัติเหล่านั้นจะบริสุทธิ์และไม่ถูกบิดเบือน จุดประสงค์ของเรามิใช่การบิดเบือนโดยเจตนาอย่างเดียว แต่มันรวมไปถุงการบิดเบือนแบบพลั้งเผลอ เช่น ท่านศาสดาทุกครั้งก่อนทำนมาซจะทำวุฎูอ์ร่วมกับประชาชน ทุกคนได้เห็นท่านศาสดาทำวุฎูอ์ว่าเริ่มราดน้ำจากตรงไหนถึงตรงไหนและราดน้ำกี่ครั้ง หรือบางคนตลอด 23 ปีได้เห็นท่านศาสดาทำวุฎูอ์ด้วยกับสายตาของตนเอง แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้นหลังจากที่ท่านศาสดาได้จากไปไม่นาน พวกเขาก็มาถกเถียงกันว่าวุฎูอ์ควรจะทำอย่างไร หรือในบางครั้งไม่มีทีท่าว่าจะบิดเบือน หมายถึงคนที่ไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยในการบิดเบือนการทำวุฎูอ์ เช่น เวลาทำต้องล้างจากด้านบนลงสู่ด้านล่าง แต่เขากลับบอกว่าต้องล้างจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เพื่อให้ได้รับความสนใจหรือได้รับคำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ และจะไปวิตกอะไรกับ บทบัญญัติที่มีผลประโยชน์มากมาย ซึ่งถ้าเขาบิดเบือนมันไปจากความเป็นจริง เขาจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล เช่น บทบัญญัติเกี่ยวกับสังคมหรือตำแหน่งผู้นำสังคม
ฉะนั้น ไม่มีหลักประกันอันมดเลยว่า บทบัญญัติและคำสอนของท่านศาสดาตลอดจนความศักดิ์สิทธิ์ของวะหยูจะได้รับการปกป้องดูแล ทั้งที่มวลมุสลิมทั้งหลายก็รับรู้ว่าซุนนะฮของท่านศาสดา (ขอพระเจ้าทรงประสาทพรแด่ท่านและครอบครัวของท่าน) ตั้งมากมายที่ถูกบิดเบือนไปจากความเป็นจริง ฉะนั้น ในสภาพเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้ที่มีความสามารถในการชี้นำทางประชาชนดอกหรือ
ถ้าอัลลอฮฺ เพิกเฉย กล่าวคือไม่ทรงแต่งตั้งตัวแทนของศาสดาเอาไว้ให้ทำหน้าที่ในการสั่งสอน และชี้นำมนุษย์ไปสู่สัจธรรมและความศักดิ์สิทธิของอัล-กุรอาน ก็จะถือว่าเป้าหมายในการแต่งตั้งศาสดาก็เพื่อชี้นำและช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากการหลงทาง ซึ่งพวกเราทราบกันดีว่าประชาชนที่ได้เข้าใจอิสลามอย่างดี เป็นเพราะคำอธิบายของท่านศาสดา มิใช่อัล-กุรอาน (แต่เพียงลำพังโดยปราศจากผู้อธิบาย) แต่คำอธิบายของท่านไม่มีหลักประกันว่าจะไม่ถูกบิดเบือน ฉะนั้น ถ้าอัลลอฮฺ ไม่แต่งตั้งใครไว้เพื่ออธิบายอัล-กุรอาน แน่นอนประชาชนต้องหลงทางอีกเป็นครั้งที่สองและการยุติการประทานศาสดาก็จะถือว่าขัดต่อสติปัญญาและความจริง
ด้วยเหตุนี้เอง สังคมอิสลามจึงต้องการอิมามเพื่อทำหน้าที่ปกป้อง บทบัญญัติอิสลามและซุนนะฮของท่านศาสดาไม่ให้บิดเบือนไปจากความเป็นจริง ทำหน้าที่ชี้นำมนุษย์ไปสู่สัจธรรมและบริหารรัฐอิสลามให้ดำรงสืบต่อไป
ขอขอบคุณเว็บไซต์อัชชีอะฮ์