สุนทรพจน์ อายะตุลลอฮฺวะฮีด คูรอซานีย์ เนื่องในวโรกาสวันวิลาดะฮฺท่านอิมามมะฮฺดีย์ (อัจญะลัลลอฮุ ฟะเราะญะฮุจชะรีฟ) ช่วงเวลานิศฟุชะอฺบาน ช่วงเวลาแห่งการสานสัมพันธ์กับท่านอิมามซะมาน
ศุกร์ที่ 6 ชะอฺบาน 29 / กรกฎาคม 2008
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณา ผู้ทรงปรานีเสมอ
หลังจากสูเราะฮฺฟาติหะฮฺ ก็ถึงอายะฮฺ :
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณา ผู้ทรงปรานีเสมอ
อลีฟ ลาม มีม คัมภีร์นี้ยิ่งใหญ่ ไม่มีข้อสงสัยในนั้น เป็นทางนำสำหรับมวลผู้สำรวมตน
บรรดาผู้ศรัทธาใน สิ่งเร้นลับ (จากประสาทสัมผัสทั้งห้า) และดำรงนมาซ และบริจาคปัจจัยที่เราประทานแก่พวกเขา
และบรรดาผู้ศรัทธาในสิ่งที่ถูกประทานแก่เจ้า และที่ถูกประทานแก่ (บรรดาศาสดา) ก่อนหน้าเจ้า และพวกเขาเชื่อมั่นต่อวันปรโลก
โองการเหล่านี้คือปฐมบทของความผาสุกทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ
ถ้าจะอรรถาธิบายโองการเหล่านี้จะได้หนังสือหนึ่งเล่มใหญ่
ความเกรียงไกรของอัลกุรฺอาน พระองค์ทรงใช้คำนามชี้ที่ไกล
คัมภีร์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งไม่มีข้อสงสัยในนั้น คัมภีร์ที่ชี้นำ เฉพาะชนชั้นหนึ่งเท่านั้น แสงสว่างที่สาดส่องมาจากต้นกำเนิด
ทว่า ผู้ที่ปราศจากดวงตาจะเห็นแสงตะวันได้อย่างไร ?
แม้มีดวงตา แต่มีกำแพงขวางกั้นจะเห็นแสงตะวันได้อย่างไร ?
ผู้ที่ปรารถนาจะ เห็นแสงตะวัน ต้องอาศัยองค์ประกอบสำคัญ 2 ประการ
หนึ่ง ดวงตาที่สามารถมองเห็น สอง ต้องขจัดม่านที่ขวางกั้น
ไร้ซึ่งดวงตา จะสามารถเห็นได้อย่างไร
มีดวงตา ถ้ามีม่านมาขวางกั้นดวงตานั้น ก็ไร้ความหมาย
ดวงตาที่จะมอง เห็นดวงตะวันจะต้องไม่มีม่านมาขวางกั้น
ดวงตะวัน สัญลักษณ์บ่งชี้ถึงการมีพระเจ้า และคัมภีร์ของพระองค์
พระองค์ทรงประทาน 2 คัมภีร์
หนึ่ง คือคัมภีร์ตัดวีนีย์ (ที่เป็นตัวอักษร) นั่นคืออัลกุรฺอานอันไพจิตร
อีกหนึ่งคือ คัมภีร์ตักวีนีย์ คือผู้ฉายภาพลักษณ์ของคัมภีร์และสารัตถะทุกอักษรของอัลกุรฺอาน
ทั้งความหมายที่ซ่อนนัยและความหมายที่ชัดแจ้ง
ทุกสารัตถะของอัลกุรฺอานรวมศูนย์อยู่ในสมองของเขา
จริยธรรมอัลกุรฺอานจะสำแดงผ่านจริยวัตรของเขา
ทุกบทบัญญัติของอัลกุรฺอานจะสะท้อนผ่านจริยธรรมของเขา
เขาคือคัมภีร์ที่พูดได้ของอัลลอฮฺคือเจ้าแห่งกาลเวลา (ผ่านอนุมัติจากพระองค์)เพื่อสานสัมพันธ์กับดวงตะวันทั้งสอง
ประการแรก ต้องอาศัยดวงตาแห่งสติที่เห็นธรรม ความคิดใคร่ครวญ
ประการที่สอง ต้องขจัดความผิดบาปที่มาปิดม่านดวงตาแห่งสติ
ผู้ที่เข้าถึงซึ่งประณีตศิลป์แห่งอัลกุรฺอานก็คู่ควรที่จะพบอิมามซะมาน
ท่านทั้งหลายอยู่ ณ ที่นี่ ประการแรก ท่านกำลังเข้าสู่ฤดูกาลชีวิต
เหตุที่ท่านไม่สำนึกถึงนิอฺมะฮฺ – ความโปรดปราน
ฤดูกาลที่ผลิบานแห่งวัยหนุ่มวัยสาว
เหมือนที่โลกนี้ก็มีฤดูใบไม้ผลิ
พันธ์พืชจะเจริญงอกงามเขียวชะอุ่มก็ในฤดูกาลนี้
เมื่อถึงฤดูหนาว ก็เข้าเวลาเก็บเกี่ยว
เพราะผันผ่านฤดูกาลที่เขียวขจี
ขณะนี้ท่านกำลังอยู่ในฤดูแห่งการรดน้ำพรวนดินอิลม์ (ความรู้) กับอมัล (วัตรปฏิบัติ) ให้เขียวชะอุ่ม
พึงตระหนักและรู้จักตักตวงนิอฺมะฮฺ (ความโปรดปราน) ให้เต็มที่
มาตรว่าท่านมีจริยวัตร มีแบบแผนชีวิต
สิ่งนั้นจะค้ำประกันสะอาดะฮฺ (ความผาสุก) ทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ
การสานสัมพันธ์กับอิมามซะมาน มิได้หมายถึงการได้พบกับท่าน(เพียงอย่างเดียว)
สิ่งต่างๆรายรอบท่านที่ท่านเห็นอยู่นี้รับแสงสว่างนับจากรุ่งอรุณกระทั่งตะวันอัสดง
ทว่า มันได้มรรคผลอันใดจากดวงตะวันบ้าง ?
แต่หุบเหวที่ลึก ล้ำนับ 70 เมตร 100 เมตร ที่อัญมณีสีสดใส ไม่เคยกระทบแสงตะวันกลับส่องประกาย วาววับดั่งเพชรน้ำเอก
พื้นดินและกรวดหินได้ประโยชน์อะไรจากมันบ้าง ?
แต่อัญมณีสีฟ้าที่ฝังตัวตามหุบเขาห่างไกลไม่เคยเห็นแสงตะวันกลับมีประกายวาววับ
มาตรว่าอุตสาหะบนวิถีทางนี้ก็จะได้รับประกายจากอิมามซะมาน
ประการแรก ต้องทำความรู้จักกับอิมามก่อน
โปรดพิจารณาให้ถ่องแท้
การได้ยินได้ฟังกับการสัมผัสความเอนกอนันต์ของสิ่งพ้นญาณวิสัยมนุษย์ ทั้งสายสุนนีย์และชีอะฮฺบันทึกวจนะที่ทำให้สมองต้องเต็มไปด้วยเครื่องหมายปรัศนีย์
รายงานที่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)บุคคลที่อัลลอฮฺทรงรับประกันว่า
وَمَا يَنْطِقُ عَنْ الْهَوَى “เขาจะ ไม่พูดจากอารมณ์”
إِنْ هُوَ إِلاَّ وَحْيٌ يُوحَى “นอกจากสิ่งนั้นจะเป็นวิวรณ์”
หะดีษที่ว่านี้ สายสุนนีย์ก็บันทึก
المهدي طاووس أهل الجنة“อัลมะฮฺดีย์ คือเครื่องประดับของชาวสวรรค์
แค่พูดนั้นมันง่าย
แต่ทำความเข้าใจสิยาก
สวรรค์สถานพำนักที่สวยงาม
ณ ที่นั่น ดวงหน้ายูสุฟ ศิดดีก เปล่งปลั่งดุจดั่งจันทร์วันเพ็ญ พร้อมพรั่งด้วย มูซา บุตรอิมรอน อีซา บุตรมัรฺยัม อิบรอฮีม สหายแห่งผู้ทรงเมตตา
ท่ามกลางผู้ทรงเกียรติเหล่านั้น เครื่องประดับแห่งสวรรค์กลับเป็นอิมามซะมานมีรหัสยนัยอะไรซ่อนอยู่ ?
เราต่างติดตามหาอิมามซะมานตลอดชั่วอายุขัย
ทว่า เราจะรู้จักท่านได้อย่างไร ?
มีประเด็นสำคัญที่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ) วจนะไว้
عليه جلابيب النور อาภรณ์ที่ประดับด้วยรัศมีที่เขา
หุจญะติบนิลหะสัน (อิมามซะมาน) สวมใส่อาภรณ์ที่เต็มไปด้วยรัศมี
อาภรณ์ที่เปล่งประกายเจิดจ้า
รัศมีจากเอกองค์ผู้ทรงบริสุทธิ์ส่องแสงระยิบระยับ
กล่าวโดยสรุป อิมามซะมานคือรัศมี คือแสงสว่างที่สัมพันธ์กับ اللَّهُ نُورُ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ อัลลอฮฺ (ปฐม) รัศมีแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน
مَثَلُ نُورِهِ كَمِشْكَاةٍ فِيهَا مِصْبَاحٌ อุปมารัศมีของพระองค์ อุปมัยดั่งเตียงตั่งที่ประดับด้วยดวงประทีป
الْمِصْبَاحُ فِي زُجَاجَةٍ ดวงประทีปที่ครอบด้วยโคมแก้ว
الزُّجَاجَةُ كَأَنَّهَا كَوْكَبٌ دُرِّيٌّ โคมแก้วที่มีประกายแสงดุจดั่งดวงดารา
يُوقَدُ مِنْ شَجَرَةٍ مُبَارَكَةٍ زَيْتُونِةٍ ที่จุดจากต้นมะกอก พันธ์พฤกษาที่มีศิริมงคล
لاَ شَرْقِيَّةٍ وَلاَ غَرْبِيَّةٍ ที่มิใช่ทั้งตะวันออก และมิใช่ทั้งตะวันตก
يَكَادُ زَيْتُهَا يُضِيءُ وَلَوْ لَمْ تَمْسَسْهُ نَارٌ น้ำมันเปล่งประกายแสง ทั้ง ๆ ที่ไฟมิได้ไปกระทบมัน
نَارٌ نُورٌ عَلَى نُورٍ รัศมีซ้อนรัศมี แสงสว่างซ้อนแสงสว่าง
อิมามซะมานประสูติเมื่อ 5 เดือนชะอฺบาน เป็นวันที่อัญมณีทอแสง
ช่างโชคดีเสียนี่กระไร
ผู้ที่ค้นพบทางและสำรวมตน
เขาจะได้รับความการุณย์จากองค์ผู้ทรงกรุณา
ลำดับแรก ท่านต้องเริ่ม ฝึกฝนนมาซตอนต้นเวลา จงยึดให้เป็นสรณะชีวิต
ประการต่อมา จงละทิ้งสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งห้าม – หะรอม
และอย่าลืมตะวัสสุล – สานสัมพันธ์ผ่านอิมามซะมานทุก ๆ วัน
อิมามผู้ได้รับประกายเจิดจ้า ที่ท่านศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ) วจนะว่า พลังดวงจิตของเขาจะเปล่งประกายเจิดจ้าในหัวใจของพวกท่าน เมื่อนั้น มันจะกลายเป็นน้ำทิพย์ชะโลมใจ
เรื่องราวต่อไป นี้ถือว่าเพียงพอที่จะทำให้ท่านมั่นใจ :-
หุสัยน์ บินรูหฺ ตัวแทนอิมามซะมาน หมายถึงอิมามซะมานได้สานสัมพันธ์กับเขา
ข้าพเจ้าจะเล่าเรื่องราวต่อไปนี้
ชัยค์เศาะดูก หัวหน้าของบรรดาผู้บันทึกหะดีษ บันทึกจากมุหัมมัด บินหะสัน ศ็อยเราะฟีย์ ชาวเมืองบะลัคว่า :
ชีอะฮฺชาวบะลัค ได้รวบรวมทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของอิมามซะมานให้เขานำไปยังแบกแดดเพื่อมอบให้กับตัวแทนอิมามซะมาน
เขากล่าวว่า “ส่วนที่เป็นโลหะ ฉันได้นำมันมาหล่อหลอม”ให้เป็นทองคำแท่งและเงินแท่ง เพื่อสะดวกที่จะนำจากบะลัคไปยังแบกแดด
ในยุคนั้ ต้องใช้เวลาเดินทางระหว่างบะลัคกับแบกแดดนานแค่ไหน ?
เขาเล่าว่า เมื่อถึงเมืองสะรัคส์ ฉันได้กางกระโจม ค่ายพักที่เนินทราย
ปรากฎว่าทองแท่งที่เป็นกรรมสิทธิ์ของอิมามซะมานได้หายที่ค่ายพักนั้นชิ้นหนึ่ง
เขาเล่าต่อว่า “เมื่อถึงฮะมะดอน”ฉันคิดว่าถึงอย่างไรก็ตาม จะต้องนำอมานะฮฺ (ของฝากที่ต้องรับผิดชอบ) นี้ไปมอบแก่อิมามซะมานอย่างครบถ้วน
ฉันจึงนำทรัพย์สินส่วนตัวมาหล่อหลอมเป็นทองคำเพื่อชดเชยให้เท่ากับน้ำหนักทองแท่งที่ฉันทำสูญหายที่ค่ายพักเมืองสะรัคส์
หลังจากนั้น ฉันได้จัดเตรียมสัมภาระรีบมุ่งหน้าสู่แบกแดด
ณ ที่นั่น ฉันได้พบกับหุสัยน์ บินรูหฺ
เมื่อฉันวางเงินกับทองแท่งเบื้องหน้าอบุลกอสิม หุสัยน์ บินรูหฺ
หลังจากตรวจตราทีละแท่ง
เขาจึงทักว่า “แท่งนี้มิใช่กรรมสิทธิ์ของเรา”
เขาหยิบแท่งที่ฉันหลอมที่ฮะมะดอนขึ้นมา
แล้วบอกว่า“แท่งนี้เป็นของท่าน !”
ท่านหลอมมันมาทดแทนแท่งโน้น แท่งที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราได้สูญหายที่เนินทรายตรงกระโจมที่ท่านกาง ณ เมืองสะรัคส์ !
เขาได้รับความรู้ในสิ่งพ้นญาณวิสัยนั้นมาจากไหน ?
มีญาณวิเศษอะไร ?
หัวใจเขาถูกหล่อหลอมและบรรจุด้วยอะไร ?
เขาล่วงรู้ได้อย่างไร ?
เขาแนะนำว่าเมื่อกลับจากเมืองนี้จงไปที่กระโจมที่ท่านกาง
แล้วค้นหา ท่านจะพบว่ามันตกอยู่ที่นั่น !
เมื่อพบแล้ว จงนำมันมามอบแก่เราที่แบกแดดในปีต่อไป
แต่เมื่อถึงเวลานั้น ท่านจะไม่พบฉันอีกแล้ว !
จงมอบทองแท่งนั้นแก่ตัวแทนคนต่อไปของอิมามซะมาน !
นี่คือผู้รับใช้อิมามซะมาน !
นี่คือหุสัยน์ บินรูหฺ
ผู้ได้รับพรพิเศษจากท่านวลียุลอัศรฺ (จ้าวแห่งกาลเวลา)
เมื่อรัศมีอิมามซะมานสาดส่อง หัวใจของเขาจึงเปี่ยมด้วยญาณวิเศษที่สามารถมองจากแบกแดดทะลุบะลัค !
พบพรพิเศษอันเอนกอนันต์
นี่คือรหัสยะ นี่คือสารัตถะแห่งอิมามซะมานที่เขาค้นพบและสามารถสัมผัสกับรหัสยะนั้น
เพียงท่านทั้งหลายเริ่มฝึกฝนนมาซต้นเวลาและยืนหยัดบนวิถีสัจธรรม
หลีกห่างจากความผิดบาป
ปฏิบัติวาญิบาต (คำสั่งใช้)
หัตถาแห่งความเมตตาก็จะยื่นมาลูบศีรษะของท่าน
เมื่อนั้น ท่านจะอุทานออกมาว่า “ช่างวิเศษจริงๆ !”
เพียงแต่ต้องก้าวไปตามวิถี
แล้วจะรู้ว่าเรากำลังจะก้าวไปสู่เป้าหมายทุกขณะ
เมื่อไม่เริ่มก้าว แล้วจะถึงเป้าหมายได้อย่างไร ?
แสนเสียดาย อายุขัยที่ล่วงเลยไป !
เสียดายที่เราไม่รู้จักคุณค่า
บรรดาผู้ที่มีวัตรปฏิบัติในยุคสมัยที่ท่านอิมามฆ็อยบัต (หายไปจากการมองเห็น)จะได้รับฐานันดรนี้
ใครที่ได้รับพรพิเศษนี้
จงอย่าปล่อยให้หลุดลอยไปจากมือ
หะดีษที่รายงานจากหุจญะตุลลอฮฺ (ผู้เป็นหลักฐานและข้อพิสูจน์ของอัลลอฮฺ) สัยยิดุสสาญิดีน อิมามซัยนุลอาบิดีน ที่บันทึกจากชัยค์เศาะดูกว่า :-
“บุคคลใดดำรงรักษาศาสนาตามแนวทางนี้ในยุคสมัยที่อิมามซะมานฆ็อยบัต
และไม่ปล่อยให้ศรัทธาหลุดลอยไปจากหัวใจ
เขาจะได้รับมรรคผลเท่ากับหนึ่งพันชะฮีด
เป็นชะฮีด เป็นชุฮะดาอ์จากสมรภูมิบะดัรและอุหุด
ลองตรึกตรองดูฐานะภาพของท่านซิว่า สูงส่งขนาดไหน ?
หนทางที่ว่านั้นคืออะไร ? คือหนทางที่นับตั้งแต่วันนี้ท่านจะต้องเชิดชูนมาซให้เหนือกว่าภารกิจใด ๆ
นี่คือพันธสัญญาแรก
รักษาสายสัมพันธระหว่างท่านกับพระองค์ให้คงมั่น
จงอย่านำนมาซไปเปรียบเทียบกับสิ่งใดทั้งสิ้น นี่คือ เงื่อนไขข้อแรก
หลังนมาซศุบห์ทุกเช้า เปิดมะฟาตีหุลญินานหน้าท้าย ๆ
อ่านดุอาอ์อะฮฺด์ (พันธสัญญากับอิมามซะมาน)
ปกปิดสายตาจากการมองเพศตรงข้ามที่ต้องห้าม
พิทักษ์ท้องจากสิ่งหะรอม
ปฏิบัติวาญิบาต – ตามคำสั่งใช้ของพระองค์
นามชื่อของท่านจะถูกบันทึกในบัญชี อยู่ในอันดับต้นๆของรายชื่อ
เฉกเช่นชื่อของ ท่านหะบีบ อิบนุมะซอฮิรฺ หรือท่านหุรฺ อิบนุยะซีด ริยาฮีย์
นี่คือวิถีที่ปลอดภัยดังที่พระองค์ทรงดำรัส
คัมภีร์นี้ยิ่งใหญ่ ไม่มีข้อสงสัยในนั้น เป็นทางนำสำหรับมวลผู้สำรวมตน
บรรดาผู้ศรัทธาในสิ่งเร้นลับ (จากประสาทสัมผัสทั้งห้า)
สิ่งเร้นลับที่โองการนี้กล่าวถึงคือ
หุจญะติบนิลหะสัน
มัจญ์ลิสของเราเปิดปฐมฤกษ์ด้วยนามชื่ออันจำเริญของท่านอิมามซะมาน
ปัจฉิมวาจาจึงควรจะจบลงด้วยนามชื่อของท่านเช่นกัน
ใกล้เวลาซุฮฺริแล้ว
ด้วยพรพิเศษผ่านท่านอิมามซะมาน หวังว่าทุกท่านจะได้กลับคืนสู่มาตุภูมิ
ทุก ๆ วันจงพยายามอ่านกุรฺอานอย่างน้อย 50 อายะฮฺ โดยไม่มีเงื่อนไข
มาตรว่าปรารถนาจะได้รับความจำเริญสิบประการทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ
จงเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ด้วยการอ่านสูเราะฮฺยาซีนทุกวัน
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับท่านอิมามซะมาน
จงอ่านสูเราะฮฺยาซีน ฮะดียะฮฺ (อุทิศส่วนกุศล) แด่ท่านอิมามซะมาน
อินชาอัลลอฮฺ ด้วยวัตรปฏิบัติดังกล่าวท่านจะประสบกับ ความผาสุกทั้งโลกนี้และปรโลก
โอ้อัลลอฮฺ ขอให้พระองค์ทรงดำรงสถานะผู้เปี่ยมไมตรีจิต ผู้ปกปักษ์ ผู้ชี้นำ ผู้ช่วยเหลือ ผู้ชี้นำทาง ผู้ดูแล ต่อกัลยาณมิตรของพระองค์ หุจญะติบนิลฮะซัน (ขอพรจากพระองค์จงประสพแด่ท่านและบรรดาบรรพชนของท่าน) ทั้งในขณะนี้และทุก ๆเวลา
เพื่อพระองค์จะให้เขาดำรงเหนือพื้นพิภพอย่างได้รับการภักดี และให้เขาได้รับความสะดวกโยธิน ณ แผ่นดินอย่างยาวนาน
اللهم كن لوليك الحجة بن الحسن صلواتك عليه و علي آبائه في هذه الساعة و في كل ساعة وليا و حافظا و قائدا و ناصرا و دليلا و عينا حتي تسكنه أرضك طوعا و تمتعه فيها طويلا
..............
หมายเหตุ :
1 อิมามซะมาน หรืออิมามมะฮฺดีย์ คือผู้นำหรืออิมามแห่งยุคสมัย
2 วลียุลอัศรฺ คือเจ้าแห่งกาลเวลา หมายถึงอิมามมะฮฺดีย์ เป็นเจ้าแห่งกาลเวลาภายใต้ความอนุเคราะห์จากพระองค์
3 หุจญะติบนิลหะสัน เป็นฉายานามหนึ่งของท่านอิมามมะฮฺดีย์
เรียบเรียงโดย
อะลีฮาดีย์
กุม มุก็อดดัส
13 ชะอฺบาน 1431 / 25 กรกฎาคม 2010