วิกฤตของซาอุดิอาระเบียจะแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อมีการกระจายความมั่งคั่งและการต่อสู้กับการทุจริต การยุติสงครามและการแทรกแซงต่างๆ ที่ไร้สาระต่อรัฐอาหรับอื่นๆ และปฏิบัติตามแนวทางการเจรจาในระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขจัดข้อพิพาทต่างๆ เพียงเท่านั้น และนี่เป็นเพียงทางเดียวที่ซาอุดีอาระเบียจะออกจากวิกฤตการณ์ที่เรื้อรังในปัจจุบัน
หนังสือพิมพ์อัล-บะดีล (Al-Badil) ตีพิมพ์ในอียิปต์ได้เขียนในบทความหนึ่งว่า "เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มีข่าวเกี่ยวกับการความสัมพันธ์ทางลับระหว่างราชวงศ์ซะอูดกับบรรดาเจ้าหน้าที่ไซออนิสต์ ซึ่งล่าสุดกำลังจะกลายเป็นสิ่งที่เปิดเผยต่อสาธารณะและกำลังพยายามสร้างพื้นฐานเพื่อการยอมรับความสัมพันธ์นี้ต่อความคิดเห็นของประชาชนชาวซาอุดีอาระเบีย"
ข้ออ้างในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดต่อระบอบไซออนิสต์นี้ ก็คือการเผชิญหน้ากับอันตรายของชีอะฮ์อิหร่าน แต่เหตุผลสองประการที่สำคัญกว่านั้น ก็คือความล้มเหลวต่างๆ ของริยาดในซีเรีย เยเมน กาตาร์และเลบานอน และอีกประการหนึ่งคือการได้เห็นนโยบายของทรัมป์ที่จะไม่ใช่การแทรกแซงในการต่อสู้ต่างๆ โดยใช้อาวุธในนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินทางด้านยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ได้เผยให้เห็นว่าทรัมป์ตระหนักดีว่าชาวอเมริกันที่สนับสนุนเขานั้นต่อต้านการใช้อาวุธและกองกำลังทหารของสหรัฐฯ สำหรับการปกป้องให้กับประเทศซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากชาวอเมริกันเชื่อว่าแหล่งที่มาหลักของเหตุเหตุการณ์ 9/11 นั้นคือชาวซาอุดิอาระเบีย ด้วยเหตุนี้เองที่จะส่งผลให้การหยุดบทบาทความเป็นตำรวจของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง ซาอุดีอาระเบียจะสูญเสียหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญที่สุดของการรักษาความปลอดภัยของตนไป
ในจินตนาการของมุฮัมมัด บินซัลมาน เขาคิดว่าด้วยกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเทลอาวีฟ เขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากกองกำลังทหารของระบอบไซออนิสต์ในการจัดการกับเหล่าศัตรูของตนได้ เนื่องจากศัตรูเหล่านั้นก็เป็นศัตรูของอิสราเอลด้วยเช่นกัน มงกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียคาดคิดว่า โดยการบีบให้อัลหะรีรีลาออก จะสามารถทำลายความชอบธรรมของฮิซบุลลอฮ์ลดลงได้ และจะทำให้ภารกิจของเทลอาวีฟในการทำลายล้างฮิซบุลลอฮ์จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ตามรายงานของอินติค๊อบ (Entekhab) ในบทความของหนังสือพิมพ์อัล-บะดีล (Al-Badil) ของอียิปต์ยังได้กล่าวว่า : ความปราชัยของมกูฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียในเยเมน กาตาร์ ซีเรียและเลบานอน ประสบกับสภาวะการขาดเงินทุนได้บีบบังคับให้ซาอุดีอาระเบียหันมาจับกุมบรรดาเจ้าชายต่างๆ กลุ่มสือหนังสือพิมพ์อเมริกันเชื่อว่า การกระทำของมุฮัมมัด บินซัลมาน เป็นการเข้าสู่สงครามหลายด้าน ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การเผชิญหน้ากับบรรดาเจ้าชายและศูนย์กลางของอิทธิพลในราชวงศ์ผู้ปกครองของซาอุดิอาระเบียและการเผชิญหน้ากับสถาบันทางศาสนาที่มีแนวคิดแบบดั้งเดิมของประเทศนี้ ทำให้บางคนคาดการณ์ว่า ชะตากรรมของมุฮัมมัด บินซัลมาน จะมีความคล้ายคลึงกับชะตากรรมของกษัตริย์ชาฮ์แห่งอิหร่าน
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ซาอุดิอาระเบียคือศพอุ่น (ศพที่เพิ่งเสียชีวิตซึ่งร่างกายยังไม่เย็นลง) ที่กำลังรอการถูกฝังศพ และการฝังศพนี้จะเกิดขึ้นด้วยมือของ มุฮัมมัด บินซัลมาน ในความเป็นจริงแล้ว วิกฤตของซาอุดิอาระเบียจะแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อมีการกระจายความมั่งคั่งและการต่อสู้กับการทุจริต การยุติสงครามและการแทรกแซงต่างๆ ที่ไร้สาระต่อรัฐอาหรับอื่นๆ และปฏิบัติตามแนวทางการเจรจาในระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขจัดข้อพิพาทต่างๆ เพียงเท่านั้น และนี่เป็นเพียงทางเดียวที่ซาอุดีอาระเบียจะออกจากวิกฤตการณ์ที่เรื้อรังในปัจจุบันได้
ที่มา : อินติค๊อบ
แปลและเรียบเรียง : ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม