ความประเสริฐของรอมฎอน
คำว่า รอมฎอน มาจากรากศัพท์คำว่า “เราะ มะ ฎะ” คำว่า “รอมฎุน” หมายถึง ความร้อนระอุของหิน เนื่องจากแสงแดดที่ร้อนจัด หรือหมายถึง ฝนตกตอนต้นฤดูใบไม้ร่วง ชำระล้างอากาศให้สะอาดจากฝุ่นละออง ที่ตกค้างมาจากฤดูร้อน [1]
หรือหมายถึงความร้อนอย่างรุนแรง[2]
ส่วนสาเหตุที่ตั้งชื่อเดือนนี้ว่า รอมฎอน เนื่องจากวัฒนธรรมโบราณมักตั้งชื่อเดือนต่างๆ ไปตามกาลเวลาของปี และในช่วงที่ตั้งชื่อเดือนนี้ว่า รอมฎอน นั้นเป็นช่วงที่อากาศร้อนระอุมากที่สุด[3]
ท่านซะมัคชะรียฺ (เสียชีวิตเมื่อ ฮ.ศ. 528) กล่าวว่า เนื่องจากศีลอดเดือนรอมฎอน
เป็นอิบาดะฮฺที่ยาวนาน และอาหรับได้ตั้งชื่อนี้ ตรงกับช่วงที่มีอากาศร้อนระอุมาก ความหิวโหยที่เกิดจากความร้อน และการลิ้มรสความยากลำบากของเดือนนี้
ขณะเดียวกันรายงานจำนวนมากมาย กล่าวถึงสาเหตุของการตั้งชื่อเดือนว่า รอมฎอน เนื่องจากเดือนรอมฎอนเป็นเดือนชำระล้างทำความสะอาดจิตวิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์ จากความสกปรกโสมมและบาปกรรม ชำระขัดเกลาสนิมใจที่เกิดจากข้อผิดพลาดให้สะอาด
ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า
« إنّما سُمِّیَ رَمَضانُ؛ لِأَ نَّهُ یُرمِضُ الذُّنوبَ »
อันที่จริงการตั้งชื่อเดือนนี้ว่า รอมฎอน เนื่องจากบาปกรรมจะถูกเผาผลาญสิ้น”
ฉะนั้น การถือศีลอดเดือนรอมฎอน จึงเป็นเสมือนการเผาผลาญความผิดต่างๆ ที่ตนได้กระทำไว้ เมื่อสิ้นเดือนรอมฎอนจึงเหมือนกับคนใหม่ ที่มีความสะอาดบริสุทธิ์
รอมฏอน เป็นเดือนเดียวที่อัลกุรอานกล่าวนามไว้ในอัลกุรอาน ดังที่กล่าวว่า..
شَهْرُ رَمَضانَ الَّذی أُنْزِلَ فیهِ الْقُرْآنُ هُدًی لِلنّاسِ
“เดือนรอมฏอนเป็นเดือนที่อัล-กรุอานได้ถูกประทานลงมา เพื่อเป็นทางนำสำหรับมนุษยชาติ” [4]
รอมฎอนตรงกับเดือนที่ 9 ของปีจันทรคติ ซึ่งในเดือนนี้การถือศีลอดเป็นวาญิบ (ข้อบังคับ) สำหรับมุสลิมทุกคน[5]
นอกจากนี้ตามคำสอนของอิสลามและอัลกุรอาน ยังถือว่าเดือนรอมฏอน เป็นเดือนที่มีความจำเริญ เนื่องจากอัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาในเดือนนี้ ดังโองการที่กล่าวแล้วข้างต้น และบรรดามุสลิมทั้งหลายต่างมีความเชื่อว่า ลัยละตุลก็อดรฺ (ค่ำคืนอานุภาพ) ก็อยู่ในช่วงเดือนรอมฏอนอีกด้วย
รอมฏอนเป็นเดือนแห่งพระเมตตา ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า
هو شهر اوله رحمة و اوسطه مغفرة و اخره عتق من النار
“รอมฎอนคือ เดือนซึ่งต้นเดือนนั้นเป็นความเมตตา กลางเดือนคือการอภัย และปลายเดือนคือ ความอิสระจากไฟนรก” [6]
แหล่งอ้างอิง
[1] กิตาบุลอัยนฺ, เล่ม 7, หน้า 39, ตัฟซีรฟัครุรรอซียฺ, เล่ม 5 หน้า 89
[2] ลิซานุลอรับ, เล่ม 7, หน้า 160
[3] อ้างแล้วเล่มเดิม, มุอฺญิมมะยิส อัลโลเฆาะฮฺ เล่ม 2, หน้า 440, มิซบาฮุลมุนีร, หน้า 231, อันนิฮายะฮฺ, เล่ม 2, หน้า 264, มุฟรอดอต อัลฟาซ อัลกุรอาน, หน้า 366, มุอฺญิม บะฮฺรัยนฺ, เล่ม 2, หน้า 732.
[4] อัลกุรอาน บทบะเกาะเราะฮฺ, 185.
[5] โอ้ บรรดาผู้มีศรัทธา การถือศีลอดได้ถูกกำหนดแก่สูเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้ก่อนหน้าสูเจ้า เพื่อว่าสูเจ้าจะได้สำรวมตน บทบะเกาะเราะฮฺ, 183
[6] บิฮารุลอันวาร, เล่ม 93, หน้า 342.
ขอขอบคุณเว็บไซต์ตักรีบมะซาฮิบอิสลาม