อะไรคือความหมายของ “วันต่าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่” ( أَيَّامَ اللَّهِ )
วันต่าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์ ( أَيَّامَ اللَّهِ ) คือ วันที่พลพรรคของอัลลอฮ์มีชัยชนะเหนือพลพรรคของซาตาน
อัลลอฮ์ (ซบ.) ผู้ทรงปรีชาญาณยิ่ง ทรงตรัสไว้ซูเราะฮ์ อัลญาซียะฮ์ อายะฮ์ที่ 14 ว่า
قُلْ لِلَّذينَ آمَنُوا يَغْفِرُوا لِلَّذينَ لا يَرْجُونَ أَيَّامَ اللَّهِ
จงกล่าวเถิดแก่บรรดาผู้ศรัทธาให้พวกเขาอภัยแก่บรรดาผู้ที่ไม่หวังใน "วันต่างๆของอัลลอฮ์" (أَيَّامَ اللَّهِ )
ท่านอิมามญะฟัร ศอดิก (อ.) ได้อธิบาย "อัยยามุลลอฮ์" วันต่างๆของอัลลอฮ์ที่พลพรรคของอัลลอฮ์มีชัยเหนือพลพรรคของซาตาน
เป็นวันแห่งการพิพากษาให้ผู้กดขี่ทั้งหลายได้รับโทษทัณฑ์ที่พวกเขาได้ก่ออาชญากรรมไว้บนหน้าแผ่นดิน ท่านอิมาม (อ.) ได้กล่าวว่า "อัยยามุลลอฮ์" มีด้วยกัน 3 วัน ดังปรากฏในวจนะของท่านว่า
اَيَّامُ اللّهِ ثَلاثَةٌ يَوْمُ يَقُومُ القائِمُ وَيَوْمُ الکَرَّةِ وَيَوْمُ الْقِيامَةِ
“วันต่าง ๆ ของอัลลอฮ์ มี 3 วัน คือ วันแห่งการยืนหยัดขึ้นของกออิม(วันปฏิวัติโลกของอิมามมะฮ์ดี) วันแห่งการร็อจญะอะฮ์ และวันกิยามะฮ์ ”
(หนังสืออัลคิศอล หน้า 75 / มะอานิยุลอักบาร หน้า 365)
มาดูวันทั้ง 3 กันพอสังเขป
1) วันแห่งการยืนหยัดขึ้นของ อัลกออิม คือ วันที่อะฮ์ลุลบัยต์ และอิมามท่านสุดท้ายจากวงศ์วานแห่งรอซูลุลลอฮ์ ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)จะลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้เพื่อการปฏิวัติโลกที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรมให้เกิดความเป็นธรรมขึ้น
คัมภีร์อัลกุรอานได้แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับอำนาจการปกครองของปวงบ่าวผู้มีคุณธรรม และได้สัญญาถึงการบรรลุความจริงของมัน โดยกล่าวว่า
وَلَقَدْ کَتَبْنَا فِی الزَّبُورِ مِن بَعْدِ الذِّکْرِ أَنَّ الْأَرْضَ یَرِثُهَا عِبَادِیَ الصَّالِحُونَ
“และเราได้บันทึกไว้ในคัมภีร์ซะบูร หลังจากคัมภีร์เตาร๊อต แท้จริงแผ่นดินนี้ ปวงบ่าวผู้มีคุณธรรมของข้า จะทำการสืบทอดมัน” (ซูเราะฮ์ อัลอันบิยาอ์ อายะฮ์ที่ 105)
ในหนังสือตัฟซีรมัจญ์มะอุลบะยาน ในการอรรถาธิบายโองการนี้ได้อ้างริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทหนึ่งจากท่านอิมามมุฮัมมัด บากิร (อ.) ไว้ ซึ่งท่านกล่าวว่า
هُم اصحاب المهدی فی آخر الزمان
“(จุดประสงค์จากปวงผู้มีคุณธรรมนั้น) พวกเขาคือสาวกของมะฮ์ดีในยุคสุดท้าย”
ในทำนองเดียวกันนี้ ในหนังสือตัฟซีรกุมมี ก็ได้บันทึกคำอธิบายจากท่านอิมามซอดิก (อ.) ไว้ใต้โองการนี้เช่นกันว่า :
ان الارض یرثها عبادی الصالحون، قال : القائم و اصحابه
“แท้จริงแผ่นดินนี้ ปวงบ่าวผู้มีคุณธรรมของเราจะทำการสืบทอดมัน” ท่านกล่าวว่า “(จุดประสงค์ของมัน) คือกออิมและบรรดาสาวกของเขา”
2) วันแห่งการ "ร็อจญ์อะฮ์" คือวันพิพากษาเล็ก
ร็อจญ์อะฮ์ คือ วันแห่งการฟื้นคืนกลับมายังโลกดุนยาทางกายภาพอีกครั้งหนึ่งของคนบางกลุ่มภายหลังความตาย บางคนในที่นี้ หมายถึงผู้ที่มีความเชื่อที่บริสุทธิ์หรือผู้ที่ปฎิเสธที่สุด
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ในร็อจญ์อะฮ์ บรรดาผู้นำที่ยุติธรรมที่มีความเชื่อที่บริสุทธิ์สุดและบรรดาผู้นำที่อธรรมที่ปฏิเสธที่สุดเพื่อรับฟังคำพิพากษาและรับบทลงโทษในสิ่งที่พวกเขาควรจะได้รับต่ออาชญากรรมที่พวกเขาเคยก่อไว้
ดังเช่นที่พระเจ้าผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้สัตย์จริง ทรงชี้ให้เห็นในคัมภีร์ของพระองค์ถึงเรื่องร็อจญ์อะฮ์ว่า
وَيَوْمَ نَحْشُرُ مِن كُلِّ أُمَّةٍ فَوْجًا مِّمَّن يُكَذِّبُ بِآيَاتِنَا فَهُمْ يُوزَعُونَ
และ (จงรำลึกถึง) วันที่เราจะเรียกจากทุก ๆ ประชาชาติ มาชุมนุมกันเป็นหมู่คณะ จากผู้ที่ปฏิเสธโองการทั้งหลายของเราโดยที่พวกเขาจะถูกจัดเป็นกลุ่ม ๆ ”
(ซูเราะฮ์ อันนัมล์ อายะฮ์ที่ 83)
ในหนังสือตัฟซีรนูรุล ซะกอลัยน์ รายงานจาก อิบนิ อบีอะมีร รายงานจาก เฮมาด ได้รายงานจากท่านอิมามศอดิก (อ.) อะฮ์ลุลบัยต์นบี ท่านกล่าวว่า
ما یقول الناس فی هذه الآیه: (وَیَوْمَ نَحْشُرُ مِنْ کُلّ أُمَّهٍ فَوْجًا)
สิ่งใดที่ผู้คนพูดเกี่ยวกับโองการนี้
" وَیَوْمَ نَحْشُرُ مِنْ کُلّ أُمَّهٍ فَوْجًا "
قلت : یقولون إنها فی القیامة
ฉันตอบว่า “พวกเขาพูดว่ามันคือวันแห่งการพิพากษา”
قال :لیس کما یقولون إنها فی الرجعة ، یحشر الله فی القیامة من کُلّ أمّة ویدع الباقین
ท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า “มันไม่ใช่อย่างที่พวกเขาพูด แต่มันคือวันแห่งการ "ร็อจญะอะฮ์" อัลลอฮ์จะชุมนุมกลุ่มจากทุก ๆ ชาติในวันแห่งการพิพากษาและละเว้นส่วนที่เหลือหรือ ?
إنما آیة القیامة:
แต่โองการเกี่ยวกับวันแห่งการพิพากษาคือ
وَیَوْمَ نُسَیِّرُ الْجِبَالَ وَتَرَى الأَرْضَ بَارِزَهً وَحَشَرْنَاهُمْ فَلَمْ نُغَادِرْ مِنْهُمْ أَحَدًا
الکهف/۴۷
และ (จงรำลึก) วันที่เราให้เทือกเขาเคลื่อนย้ายไป และเจ้าจะเห็นแผ่นดินราบเรียบและเราจะชุมนุมพวกเขา ดังนั้น เราจะไม่ให้ผู้ใดออกไปจากพวกเขาเลย
ในบทรายงานของเชคอัศศอดูก (ขอพระองค์เมตตาเขา) รายงานว่า มะอ์มูน แห่งราชวงศ์อับบาซียะฮ์ ถามอิมามริฎอว่า
يا أبا الحسن فما تقول في الرجعة
“โอ้บิดาของฮะซัน อะไรคือสิ่งที่ท่านพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องร็อจญ์อะฮ์?”
:فقال الرضا (عليه السلام
إِنَّها لَحَقٌّ قَدْ كانَتْ في الأُمَمِ السّالِفَةِ، وَنَطَقَ بِهِ (بِها) القُرآنُ وَقَدْ قالَ رَسُولُ اللهِ (صلّى الله عليه وآله): يَكُونُ في هذِهِ الأُمَة كُلُّ ما كانَ في الأُمَمِ السّالِفَةِ حَذْوِ النَّعْلِ بِالنَّعْلِ وَالقُذَّةِ بِالقُذَّةِ. قال (عليه السلام): إذا خَرَجَ المَهْدِيُّ مِنْ وُلْدِي نَزَلَ عيسى بْنُ مَرْيَمَ (عليه السلام) فَصَلّى خَلْفَهُ. وَقالَ (عليه السلام): إِنَّ الإِسْلامَ بَدَأَ غَريباً وَسَيَعُودُ غَريباً، فَطُوبى لِلْغُرَباءِ، قيلَ: يا رَسُولَ اللهِ ثُمَّ يَكُونُ
ماذَا؟ قال: ثُمَّ يَرْجِعُ الحَقُّ إِلى أَهْلِهِ
อิมามริฎอ (อ.) “มันเป็นความจริงแน่นอน มันเกิดขึ้นแล้วในประชาชาติที่ผ่านมา อัลกุรอานได้กล่าวถึงมันและศาสดา (ศ็อลฯ) ก็ ได้พูดถึง ‘สิ่งที่เกิดขึ้นในประชาชาติในอดีตจะเกิดในประชาชาติของฉันในลักษณะที่สมบูรณ์เหมือนกัน’”
ร็อจญะอะฮ์จะเกิดขึ้นที่ไหน ? ในช่วงเวลาใด ? มนุษย์จะฟื้นคืนกลับมาพวกเขาเหล่านั้นเป็นใครบ้าง ?
ร็อจญ์อะฮ์ จะเกิดขึ้นบนโลกดุนยาภายหลังการปรากฎกายของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) เพียงเล็กน้อย และก่อนวันกิยามะฮ์
ท่านอิมามศอดิก อ. กล่าวว่า
أَوَّلُ مَنْ تَنْشَقُّ الْأَرْضُ عَنْهُ وَ یَرْجِعُ إِلَى الدُّنْیَا الْحُسَیْنُ بْنُ عَلِیٍّ وَ إِنَّ الرَّجْعَةَ لَیْسَتْ بِعَامَّةٍ بَلْ هِیَ خَاصَّةٌ، لَا یَرْجِعُ إِلَّا مَنْ مَحَضَ الْإِیمَانَ مَحْضاً أَوْ مَحَضَ الشِّرْکَ مَحْضاً
ابن مشهدی، محمد بن جعفر، المزار الکبیر، محقق و مصحح: قیومی اصفهانی، جواد، ص 663
อิมามอัศศอดิก อะลัยฮิสลาม กล่าวว่า : บุคคลแรกที่แผ่นดินจะแยกออกเพื่อเขาและกลับคืนมาสู่โลก คือ ฮูเซน บุตรของอะลีย์ อะลัยฮิสลาม ร็อจอะฮ์ไม่เหมือนทั่วไป แต่มันเฉพาะเจาะจง ไม่มีใครจะฟื้นคืนกลับมาเว้นแต่ผู้ที่มีความเชื่อที่บริสุทธิ์หรือผู้ที่ปฏิเสธที่สุด
อิมามฮุเซน อ. กล่าวว่า
أكُونُ أوَّلَ مَن يَنشَقُّ الأرضُ عَنهُ ، فَأخرُجُ خَرجَةً يُوافِقُ ذلكَ خَرجَةَ أميرِ المؤمنينَ و قيامَ قائِمِنا
البحار، ج 53، ص 62
เมื่อผืนดินแยกตัวออกจากกัน ฉันคือบุคคลแรกที่จะออกมาจากมัน ซึ่ง(การร็อจญะอะฮ์นี้ของฉัน)จะเกิดขึ้นในยุคสมัยเดียวกันที่อะมีรุลมุมินีน(อิมามอาลี)ทำการ "ร็อจญะอะฮ์" กลับมาและการปฏิวัติโลกของ "อัลกออิม" ของเรา
จากฮะดีษจากอะฮ์ลุลบัยต์นบีข้างต้น ได้ชี้จัดว่า "ร็อจญ์อะฮ์" จะเกิดขึ้นบนโลกดุนยานี้ ในยุคสมัยการปกครองของท่านอิมามมะฮ์ดี และบรรดาอิมามคือกลุ่มบุคคลแรกที่จะร็อจญ์อะฮ์กลับมา
3) วันกิยามะฮ์ คือวันแห่งการพิพากษาใหญ่
หนึ่งในรุก่นของการศรัทธา ที่ผู้ศรัทธาทุกคนจะต้องเชื่อ คือ การศรัทธาต่อวันกิยามะฮ์ ซึ่งการศรัทธาในที่นี้หมายถึง มีความเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนต้องตาย แล้วในวันหนึ่งจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ตามกำหนดการของอัลลอฮ์และจะถูกรวมตัวกันที่ทุ่ง มะฮ์ชัร เพื่อตรวจสอบทุกการกระทำ ที่พวกเขาได้ปฏิบัติ ขณะที่พวกเขามีชีวิตอยู่บนโลก
วันกิยามะฮ์ คือวันสิ้นสุดของโลกนี้ เป็นวันแห่งการเปิดบัญชีตรวจสอบความดี ความชั่วของมนุษย์ ดังที่อัลลอฮ์ ตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า
إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَالَّذِينَ هَادُوا وَالنَّصَارَى وَالصَّابِئِينَ مَنْ آمَنَ بِاللَّهِ وَالْيَوْمِ الْآخِرِ وَعَمِلَ صَالِحًا فَلَهُمْ أَجْرُهُمْ عِنْدَ رَبِّهِمْ وَلَا خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلَا هُمْ يَحْزَنُونَ
سورة البقرة
“แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธา ประกอบแต่สิ่งที่ดี แล้วพวกเขาจะได้รับผลบุญ จากพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา และไม่มีความหวาดกลัวใดๆสำหรับพวกเขา อีกทั้งจะไม่มีการเสียใจในภายหลัง สำหรับพวกเขา"
บทความโดย เอกภาพ ชัยศิริ