ไทยแลนด์
Saturday 20th of April 2024
0
نفر 0

ความจริงที่มัสยิดนะบะวี ตอนที่ 1

ความจริงที่มัสยิดนะบะวี ตอนที่ 1 ในปีนี้(ฮัจญ์ ฮ.ศ.1437) มีพี่น้องมุสลิมไทยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์กันพอสมควร และด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ ทำให้การติดต่อกันทั้งภาพและเสียงเป็นไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน มีพี่น้องฮุจญาจที่กำลังเยี่ยมเยียนมัสยิดนะบะวีย์ อันเป็นสถานที่ฝังร่างอันมีเกียรติของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้ส่งภาพถ่ายซึ่งเป็
ความจริงที่มัสยิดนะบะวี ตอนที่ 1

ความจริงที่มัสยิดนะบะวี ตอนที่ 1

 

ในปีนี้(ฮัจญ์ ฮ.ศ.1437) มีพี่น้องมุสลิมไทยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์กันพอสมควร และด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ ทำให้การติดต่อกันทั้งภาพและเสียงเป็นไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน มีพี่น้องฮุจญาจที่กำลังเยี่ยมเยียนมัสยิดนะบะวีย์ อันเป็นสถานที่ฝังร่างอันมีเกียรติของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้ส่งภาพถ่ายซึ่งเป็นแบนเนอร์วงกลม เป็นชื่อของบรรดาอิมาม (ผู้นำ) จากครอบครัวของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ซึ่งปรากฏในเฟสบุคของคุณนพดล พิณประดิษฐ์ที่นำออกเผยแพร่แล้ว นอกจากนี้ยังมีชื่ออิมามทั้งสี่มัซฮับและซอฮาบะฮ์ผู้ทรงเกียรติหลายท่าน

 

       

อาคารมัสยิดส่วนที่ปรากฏรายนามของบรรดาอิมามของทั้งสองสำนักคิดของอิสลามและบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่านศาสดานั้น สร้างมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรอุศมานียะฮ์ ประมาณเกินกว่า 300 ปีที่ผ่านมา เป้าหมายของการทำรายนามเหล่านี้ไว้ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงเอกภาพของอิสลาม และให้เกียรติแก่ทุกมัซฮับหรือสำนักคิดของอิสลาม และโดยความจริงแล้วอาณาจักรอุศมานียะฮ์มีความโน้มเอียงไปในแนวทางซูฟีฏอรีเกาะฮ์ ซึ่งให้ความเคารพในฐานันดรที่สูงส่งของครอบครัวท่านศาสดา (ซ็อลฯ) อยู่แล้ว

      

ดังจะเห็นได้ว่ามัสยิดในตุรกีเกือบทุกแห่งนอกจากจะมีพระนามของอัลลอฮ์ (ซบ.) นามของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) คอลีฟะฮ์ทั้งสี่ท่านแล้ว ยังมีนามของอิมามฮาซันและอิมามฮูเซ็น (อ.) ปรากฏอยู่ด้วยเสมอ เป็นการประกาศอย่างมีนัยยะว่า หลังจากอิมามอะลี (อ.) แล้ว อิมามฮาซันและอิมามฮูเซน (อ.) คือคอลีฟะฮ์ท่านที่ 5 และ 6 ของอิสลาม หาใช่ใครอื่นที่มาแย่งชิงเอาไปไม่!!

       

สำหรับรายนามของอิมามทั้ง 12 ท่าน (อ.) จากครอบครัวของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ที่ปรากฏอยู่ที่มัสยิดนะบะวีย์นั้นมิใช่เฉพาะชื่อ แต่ผู้สร้างได้ใส่สร้อยท้ายนามของทุกท่านลงไปด้วย เป็นการยอมรับในเกียรติของบรรดาอิมามเหล่านั้น ดังนี้

   อะลี อัลมุรตะฎอ
    ฮาซัน อัซซิบฎ์
    ฮูเซ็น อัซซิบฎ์
    อะลี ซัยนุลอาบิดีน
    มุฮัมมัด อัลบากิร
    ญะอ์ฟัร อัซซอดิก
    มูซา อัลกาซิม
    อะลี อัรริฎอ
    มุฮัมมัด อัตตะกี
    อะลี อันนะกี
    ฮาซัน อัลอัสการี
    มุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี

 

การเปลี่ยนแปลงบางประการที่นาม มุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี (อ.)

     

เมื่ออังกฤษสนับสนุนให้ตระกูลอัลสะอู๊ดขึ้นเป็นผู้ปกครองคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งรวมแผ่นดินฮิญาซ อันเป็นสถานที่ตั้งของฮะรอมอัชชะรีฟทั้งสอง คือมักกะฮ์และมะดีนะฮ์ โดยตั้งชื่อประเทศใหม่ว่า المملكة العربية السعودية หรือ “ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย” ซึ่งมีความหมายว่า อาณาจักรของพระราชาชาวอาหรับจากตระกูลอัลสะอู๊ด อันบ่งบอกถึงความเป็นกษัตริย์แบบสมบูรณาญาสิทธิราช ตระกูลนิยมและเผ่าพันธุ์นิยม ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีอยู่ในสารบบแนวคิดของอิสลาม และเป็นประเทศเดียวในโลกที่ตั้งชื่อตามตระกูลและเผ่าพันธุ์ของผู้ปกครอง

      

เมื่อสถาปนาการปกครองของตนแล้ว กษัตริย์แห่งราชวงศ์อัลสะอู๊ดก็ได้ขยายและซ่อมแซมมัสยิดอัลฮะรอมและมัสยิดนะบะวีย์ ที่มัสยิดนะบะวีส่วนที่เป็นอาคารเก่าที่สร้างในสมัยอาณาจักรอุศมานียะฮ์ มีรายนามของอิมามทั้ง 12 ท่าน จากครอบครัวของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ซึ่งจะเอาออกก็ไม่ได้ เพราะตุรกีซึ่งก็คืออาณาจักรอุศมานียะฮ์เดิม ไม่ยอมให้รื้อทำลายสถาปัตยกรรมของพวกเขา

      

ในรายนามของอิมามทั้ง 12 ท่าน ชื่อของอิมามมุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี (ท่านที่ 12) เป็นที่ขัดหูขัดตาราชวงศ์อัลสะอู๊ดมากที่สุด เพราะลักษณะการเขียนได้นำอักษร “ยา” ตัวสุดท้ายมาเขียนติดกับอักษร “ฮา” เป็นการเขียนฝากไว้ เพื่อให้อ่านได้ว่า “อัลมะฮ์ดีฮัยยุน” المحدي حي ซึ่งมีความหมายว่า อัลมะฮ์ดีผู้มีชีวิตอยู่ตรงตามแนวคิดของฝ่ายชีอะฮ์

 

การที่อัลมะฮ์ดีมีชีวิตอยู่ มีนัยยะสำคัญอย่างไร?

       

นัยยะสำคัญก็คือ เมื่ออัลมะฮ์ดีมีชีวิตอยู่ อำนาจการปกครองทั้งหลายจะต้องเป็นของท่าน ตำแหน่งกษัตริย์ที่ราชวงศ์อัลสะอู๊ดสวมอยู่ก็เป็นโมฆะ

       

พวกเขาจึงดำเนินการแยกอักษร “ยา” ออกจากอักษร “ฮา” เพื่อให้คำว่า “ฮัยยุน” ที่แปลว่ามีชีวิตอยู่หายไป อิมามอัลมะฮ์ดีก็จะอันตรธานไป เพราะไม่มีชีวิตแล้ว ยังไม่เกิด พวกเขาจะได้ครองอำนาจเป็นกษัตริย์กันอย่างสบายใจเฉิบ นึกจะฮุกุ่มใครเป็นกาฟิรก็ได้ ใครมาทำฮัจญ์ต้องทำอย่างที่ฉันเชื่อ ถ้าฝ่าฝืนก็จะถูกลงโทษหรือขับไล่ใสส่ง วันดีคืนดีนึกจะสร้างกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงไปไล่ฆ่าชาวโลกเขาก็ทำได้ นึกจะส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดถล่มเพื่อนบ้านก็ทำได้ ไม่เว้นแม้แต่เดือนรอมาฎอนหรือเดือนฮัจญ์ ในขณะที่อิสราเอลไล่สังหารพี่น้องปาเลสไตน์อย่างเมามัน พวกเขาก็นั่งมองดูตาแป๋วโดยไม่ทำอะไร มิหนำซ้ำยังแอบติดต่อสัมพันธ์ทางลับกับอิสราเอลอีกด้วย

 

ประเทศนี่แหละครับที่อิมามมะฮ์ดี (อ.) จะจัดการก่อนใครทั้งหมด!!!

 


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

...
รอมฎอนคือเดือนแห่งอัลกุรอาน
...
ความสำคัญของบิสมิลลาฮ์ ...
...
ท่านหญิงฟาติมะฮ์ ...
...
...
...
ซากีนะฮ์(อ.) ...

 
user comment