ดุอาอฺ อาวุธของผู้ศรัทธา
อัล-กุรอาน กล่าวว่า
وَ إِذَا سَأَلَکَ عِبَادِي عَنِّي فَإِنِّي قَرِيبٌ أُجِيبُ دَعْوَةَ الدَّاعِ إِذَا دَعَانِ فَلْيَسْتَجِيبُوا لِي وَ لْيُؤْمِنُوا بِي لَعَلَّهُمْ يَرْشُدُونَ
เมื่อปวงบ่าวของฉันถามเจ้าเกี่ยวกับฉัน (จงตอบเถิดว่า) แท้จริงฉันอยู่ใกล้ชิดฉันตอบรับคำวิงวอนขอของผู้วิงวอนเมื่อเขาวิงวอนต่อฉัน ดังนั้น ให้เขาตอบรับคำเชิญชวนของฉัน และศรัทธาต่อฉัน เพื่อพวกเขาจะได้อยู่ในหนทางที่ถูก (ไปถึงยังจุดหมาย) [อัลบะกอเราะห์ โองการ 186]
สาเหตุแห่งการประทานลงมา
มีผู้ถามท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ว่า พระเจ้าทรง อยู่ใกล้ชิดกับเราหรือ พวกเราจะได้กระซิบคำวิงวอนของพวกเราด้วยเสียงแผ่วเบาหรือว่าพระองค์ทรงอยู่ห่างไกลจากพวกเราพวกเราจะได้วิงวอนด้วยเสียงดัง ?
โองการข้างต้นจึงได้ประทานลงมาเพื่อตอบแก่พวกเขาว่า พระเจ้าทรงอยู่ใกล้ชิดกับปวงบ่าวทั้งหลาย
คำอธิบาย
โองการข้างต้นกล่าวกับท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ความพิเศษของโองการอยู่ที่ว่า โองการกล่าวถึงอาตมันบริสุทธิ์ของพระองค์ถึง 7 ครั้ง และทั้งเจ็ดครั้งพระองค์ทรงเชิญชวนให้มนุษย์สร้างตนเองด้วยความสัมพันธ์สุดท้าย ความใกล้ชิดและความรักที่มีต่อพระองค์ อับดุลลอฮฺ บุตรของ ซินานกล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่าจงกล่าวดุอาอฺให้มาก เนื่องจากดุอาอฺคือการประทานของพระเจ้า และเป็นสื่อนำไปถึงยังทุก ๆ ความปรารถนาของตนความโปรดปรานและความเมตตา ณ พระผู้อภิบาลไม่อาจเข้าถึงได้ นอกจากการดุอาอฺและจงพึงสังวรไว้เถิดว่าทุก ๆ ประตูที่วิงวอนจะส่งผลถึงบั้นปลายสุดท้ายแห่งชีวิต
ประเด็นสำคัญ
ปรัชญาของดุอาอฺและคำวิงวอน
บรรดาผู้ที่ไม่รู้จักแก่นแท้และวิญญาณของดุอาอฺ ตลอดจนผลของการอบรมสั่งสอนและจิตวิทยา มักจะมีข้อท้วงติงเกี่ยวกับดุอาอฺเสมอ บางครั้งพวกเขากล่าวว่าดุอาอฺคือปัจจัยที่ทำให้ล้าหลังและทำให้มนุษย์เกียจคร้าน เนื่องจากประชาชนแทนที่จะขวนขวาย และพยายามในหน้าที่การงานของตน หรือใช้เครื่องมือที่มีความก้าวหน้า เพื่อให้ประสพความสำเร็จ แต่กลับยกมือขอดุอาอฺอย่างเดียว
บางครั้งกล่าวว่า การดุอาอฺเป็นการก้าวก่ายภารกิจของพระเจ้า เนื่องจากพระองค์ทรงทราบดีว่า สมควรจะทำอย่างไร พระองค์ทรงรักปวงบ่าว ฉะนั้นพระองค์ทรงทราบดีว่าสิ่งใดสมควร และสิ่งใดไม่สมควรสำหรับมนุษย์ ดังนั้น เป็นเพราะเหตุอันใด ที่เราต้องดุอาอฺทุก ๆชั่วโมงเพื่อทูลขอในสิ่งที่เราปรารถนาบางครั้งพูดว่า การดุอาอฺไม่ขัดแย้งกับตำแหน่งของการนอบน้อม และความพึงพอใจต่อหน้าความประสงค์ของพระองค์ดอกหรือพวกเขากล่าวท้วงติงต่าง ๆ นานา ทั้งที่พวกเขาลืมเลือนผลทางด้านจิตวิทยา สังคมและการอบรมสั่งสอนด้านจิตวิญญาณ เนื่องจากเมื่อมนุษย์ต้องการสร้างเป้าหมายให้แข็งแกร่ง และขจัดความต้องการของตนจำเป็นต้องมีที่อิงอาศัย ดุอาอฺเปรียบเสมือนประทีปที่สว่างไสวในตัวมนุษย์
นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งกล่าวว่าหากปราศจากคำวิงวอนของประชาชาติหนึ่ง ก็เท่ากับความล่มจมของประชาชาตินั้น สังคมมีความต้องการในคำวิงวอนแต่สิ่งนั้นตนได้ทำลายจนหมดสิ้น ซึ่งปกติแล้วสังคมเช่นนี้จะไม่มีวันบริสุทธิ์จากความเสื่อมทรามและความหายนะอย่างเด็ดขาดบรรดาผู้ที่เชื่อว่าดุอาอฺเป็นสิ่งทำให้มึนงง นั่นเป็นเพราะว่าไม่เข้าใจความหมายของดุอาอฺ เนื่องจากดุอาอฺไม่ได้หมายความว่าให้มนุษย์ถอดถอนตัวเองออกจากสื่อ หรือสาเหตุที่เป็นธรรมชาติและแทนที่สิ่งเหล่านั้นด้วยดุอาอฺแต่จุดประสงค์หมายถึง หลังจากพยายามถึงที่สุด และใช้สื่อทุกอย่างที่มีแต่ไม่ประสพความสำเร็จ หรือเราเข้าไปไม่ถึงเป้าหมายหรือพบกับทางตัน ดังนั้น วิธีสุดท้ายเราจึงดุอาอฺกับพระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้พระองค์ทรงช่วยเหลือเราในความสำเร็จ ซึ่งการพึ่งพิงพระเจ้าเป็นสาเหตุทำให้จิตวิญญาณ และความหวังของเรามีชีวิต และมีการขับเคลื่อนและจากการช่วยเหลือที่ไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์ เราจึงดุอาอฺกับพระองค์เพื่อคาดหวังกับพระองค์ ดังนั้น ดุอาอฺคือเครื่องมือเฉพาะเจาะจงเมื่อมนุษย์พบกับทางตัน มิใช่ปัจจัยที่มาแทนที่ปัจจัยทางธรรมชาติ
อีกนัยหนึ่ง ดุอาอฺเป็นสื่อสร้างสรรค์ทำให้มนุษย์ได้สัมผัสกับความเมตตา และความดีงามของพระองค์มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าการขวนขวายพยายามเพื่อความสมบูรณ์หรือการค้นหาความดีงามมากขึ้นก็คือการยอมจำนนต่อกฎเกณฑ์แห่งการสร้างสรรค์ของพระองค์ มิใช่สิ่งที่ขัดแย้ง ดุอาอฺเป็นการแสดงความเคารพภักดีและการนอบน้อมของปวงบ่าว ซึ่งดุอาอฺนั่นเองทำให้มนุษย์มุ่งมั่นต่ออาตมันบริสุทธิ์ของพระองค์มากยิ่งขึ้น และเหมือนกับการแสดงความเคารพภักดีอื่น ๆ ที่ส่งผลด้านการอบรมสั่งสอน ดุอาอฺก็ให้ผลดังกล่าวเช่นกันดุอาอฺมิได้เป็นการก้าวก่ายกิจการงานของพระเจ้าแต่อย่างใด
อิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า ณ พระผู้อภิบาลมีตำแหน่งมากมายถ้าปราศจากดุอาอฺจะไม่มีวันไปถึงยังตำแหน่งเหล่านั้นได้ [อูศูล อัลกาฟีย์ เล่ม 2 หน้า338]
ความหมายที่แท้จริงของดุอาอฺ
ดุอาอฺคือ การวิงวอนให้สาเหตุและปัจจัยต่าง ๆที่อยู่นอกอำนาจของมนุษย์ จากผู้ที่อำนาจของพระองค์ไม่มีทีสิ้นสุด และทุกการงานสำหรับพระองค์คือความง่ายดายแต่การวิงวอนเหล่านี้ต้องไม่ออกมาจากปากเพียงอย่างเดียว แต่ต้องออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย ลิ้นเป็นเพียงตัวแทนที่ถ่ายทอดความต้องการ และความรู้สึกต่าง ๆ จากส่วนที่เล็กที่สุดของมนุษย์และอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ดุอาอฺทำให้หัวใจและจิตวิญญาณของมนุษย์เข้าใกล้กับพระเจ้า อีกนัยหนึ่ง ความหมายของดุอาอฺก็คือการพิจารณาไปยังแก่นแท้ของทุกสรรพสิ่งซึ่งสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ของธรรมชาติล้วนมาจากพระองค์ ในความเป็นจริงดุอาอฺคือความหยั่งรู้ประเภทหนึ่ง เป็นการตื่นของจิตใจความคิด และการผูกสัมพันธ์กับพลังที่เร้นลับแห่งพระผู้ทรงสร้างสรรค์ ความดีงามและความจำเริญทั้งหลาย ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า พระเจ้าไม่ทรงตอบรับดุอาอฺของผู้ลืมเลือน
เงื่อนไขการตอบรับดุอาอฺ
รายงานจากท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และอิมามผู้บริสุทธิ์ กล่าวถึงเงื่อนไขของการตอบรับดุอาอฺว่า
1.ก่อนการกระทำทุกสิ่ง ต้องพยายามทำความสะอาดหัวใจและจิตวิญญาณ ต้องลุแก่โทษในความผิด ต้องปรับปรุงแก้ไขตนเอง และต้องเชื่อฟังบรรดาผู้นำแห่งพระเจ้า
อิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า พวกท่านต้องไม่วิงวอนขอต่อพระเจ้า เว้นเสียแต่ว่าต้องสรรเสริญ ยกย่องพระองค์เสียก่อนประสาทพรแก่ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ)และทายาทผู้บริสุทธิ์ ต้องลุแก่โทษในความผิดหลังจากนั้นจึงดุอาอฺ
2.ต้องหลีกเลี่ยงจากทรัพย์สินต้องห้ามการกดขี่ และการเอาเปรียบผู้อื่น ต้องไม่บริโภคอาหารที่ต้องห้าม ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) กล่าวว่า บุคคลที่ต้องการให้ดุอาอฺของตนถูกยอมรับ อาหารและปัจจัยที่หามาได้ต้องสะอาด
3.ต้องไม่หลีกเลี่ยงการต่อสู้กับความเสื่อมทราม หรือการเชิญชวนไปสู่สัจธรรม เนื่องจากถ้ากระทำเช่นนั้น เท่ากับเป็นการละเว้นการเชิญชวนไปสู่ความดีและการห้ามปรามความชั่วร้าย แน่นอนดุอาอฺของเขาจะไม่ถูกตอบรับ ท่านศาสดา(ซ็อล ฯ) กล่าวว่า ต้องเชิญชวนไปสู่ความดีงามและห้ามปรามความชั่วร้าย ถ้าไม่เช่นนั้นพึงสังวรไว้เถิดว่า ความดีงามของสูเจ้าจะถูกควบคุมและไม่ว่าจะดุอาอฺอย่างใดก็จะไม่ถูกตอบรับการปฏิบัติตามสัญญาของพระเจ้าการศรัทธา การปฏิบัติคุณงามความดี และความซื่อสัตย์คือ เงื่อนไขสำคัญของการตอบรับดุอาอฺ เนื่องจากบุคคลที่ไม่รักษาคำมั่นสัญญา อย่าได้คาดหวังการตอบรับดุอาอฺจากพระผู้อภิบาลมีผู้มาหาท่านอิมามอะลี (อ.) เพื่อรายงานดุอาอฺของตนที่ไม่ถูกตอบรับ และกล่าวว่า ทั้งๆ ที่พระเจ้าตรัสว่า พวกเจ้าจงวิงวอนต่อฉันและฉันจะตอบรับคำวิงวอนของเจ้าแต่ทำไมเมื่อพวกเราดุอาอฺแล้ว พระองค์จึงไม่ทรงตอบรับ ท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า หัวใจและความคิดของเจ้าทรยศต่อพระองค์ใน 8ประการ ด้วยเหตุนี้ ดุอาอฺจึงไม่ถูกตอบรับ ซึ่ง8 ประการดังกล่าวได้แก่
1.เจ้ารู้จักพระเจ้า แต่เจ้าไม่ยอมปฏิบัติตามสิทธิของพระองค์ ด้วยเหตุนี้การรู้จักของเจ้าจึงไม่ก่อประโยชน์
2.เจ้าศรัทธาศาสนทูตของพระองค์แต่เจ้าแสดงตนฝ่าฝืนต่อแบบฉบับของท่าน ดังนั้นร่องรอยความศรัทธาของเจ้าอยู่ ณ แห่งหนใด
3.เจ้าอ่านคัมภีร์ของพระองค์ แต่เจ้าไม่ปฏิบัติตาม เจ้าพูดว่า พวกเราได้ยินและปฏิบัติตามแล้ว หลังจากนั้นพวกเจ้าฝ่าฝืน
4.พวกเจ้ากล่าวว่า พวกเราเกรงกลัวการลงโทษของพระเจ้า แต่พวกเจ้ากลับปฏิบัติตัวให้ใกล้ชิดกับการลงโทษของพระองค์
5.พวกเจ้ากล่าวว่า พวกเรามุ่งหวังรางวัลตอบแทนของพระองค์ แต่พวกเจ้ากลับทำตนให้ห่างไกลจากรางวัลเหล่านั้น
6.พวกเจ้าบริโภคความโปรดปรานต่าง ๆของพระองค์ แต่พวกเจ้าอกตัญญูไม่ขอบคุณพระองค์
7.พระองค์กำชับว่าพวกเจ้าว่าอย่าตามรอยเท้าของมารร้าย แต่พวกเจ้ากลับวางแผนเพื่อเป็นมิตรกับมาร พวกเจ้าอ้างว่าพวกเจ้าเป็นศัตรูกับมาร แต่ในทางปฏิบัติกลับมิได้แสดงการเป็นปฏิปักษ์กับมัน
8.พวกเจ้าเปิดเผยความบกพร่องและข้อตำหนิของคนอื่น ส่วนของตนเองปิดบังอย่างมิดชิด การกระทำเหล่านี้พวกเจ้ายังคาดหวังการตอบรับดุอาอฺจากพระองค์อีกกระนั้นหรือ ขณะที่พวกเจ้าเป็นผู้ปิดประตูด้วยมือของตนเอง ดังนั้นพวกเจ้าจงสำรวมตนต่อพระเจ้าเถิดจงปรับปรุงแก้ไขการกระทำของตนเองและจงกำชับความดีและห้ามปรามความชั่วเถิดเพื่อว่าดุอาอฺของพวกเจ้าจะได้รับการตอบรับฉะนั้น พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะตอบรับดุอาอฺของปวงบ่าว เป็นคำสัญญาที่มีเงื่อนไข มิใช่คำสัญญาทั่วไป ซึ่งเงื่อนไขคือ ให้มนุษย์ปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ให้ไว้แก่พระองค์และยกเลิกข้อตกลงที่ไร้สาระ เมื่อนั้นดุอาอฺจะถูกตอบรับซึ่งในความเป็นจริงดุอาอฺต้องอยู่คู่กับความพยายาม
ท่านอิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า ผู้ขอดุอาอฺโดยปราศจากความเพียรพยายามประหนึ่งลูกศรที่ยิงออกไปอย่างไร้จุดหมาย [นะฮฺญุล บะลาเฆาะฮฺ ฮิกมะฮฺที่ 337]