สุนทรพจน์ของท่านหญิงซัยหนับ(อ)ในพระราชวังของยะซีด
สุนทรพจน์ของท่านหญิงซัยหนับที่กล่าวในท้องพระโรงของยะซีดที่ดามัสกัสครั้งนี้ จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดไป ซึ่งนับเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมยอดที่ท่านได้ปฏิบัติ มันเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนถึงความกล้าหาญที่ท่านได้กระทำ ไม่เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจเลย เพราะว่าท่านคือบุตรสาวของราชสีห์แห่งพระเจ้า (อิมามอะลี) และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ซะฮ์รอ ในอีกด้านหนึ่งท่านก็คือเลือดของศาสดาและความเป็นอิมาม
ท่านหญิงได้กล่าวสุนทรพจน์นี้ในพระราชวังของยะซีด ในขณะที่เห็นเขาใช้ไม้เขี่ยที่ริมฝีปากของอิมามฮูเซน
“การสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ ผู้ค้ำจุนและพิทักษ์สากลโลก โปรดประทานพรให้กับท่านตาของฉันศาสนทูตของพระองค์ โองการจากอัล กุรอานมีว่า ‘จุบจบของความชั่วช้าเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว และผู้ที่คัดค้านสัญญาณของพระองค์และเย้ยหยันโองการของพระองค์ ก็จะได้รับโทษเช่นเดียวกัน’
โอ้ ยะซีด! เจ้าคิดว่าเจ้าทำให้ชีวิตของพวกเราต้องทุกข์ทรมานและไม่อาจทนมีชีวิตอยู่ได้ เจ้าทำกับพวกเราเยี่ยงนักโทษ เจ้ามีความยินดีที่พวกเราถูกนำตัวมาที่นี่ เจ้าคิดว่าพวกเราจะได้รับการดูหมิ่นและไม่ได้รับเกียรติจากพระผู้เป็นเจ้า ในขณะที่เจ้าจะได้รับเกียรติและเป็นที่ชื่นชมยินดีของพระองค์กระนั้นหรือ?
เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ชัยชนะของเจ้านั้นเนื่องมาจากอำนาจอันล้นเหลือของเจ้า ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เจ้าลำพองและพอใจในความสูญเสียของพวกเรา เจ้ารู้สึกราวกับว่าเจ้าได้ครอบครองโลกทั้งโลกไว้
และเจ้าสามารถควบคุมอำนาจนั้นไว้ได้ เวลาเท่านั้นที่จะสอนบทเรียนที่ขมขื่นให้กับเจ้า โองการอัลกุรอานต่อไปนี้ได้บอกไว้ว่า คนอย่างเจ้าจะต้องถูกลงโทษด้วยไฟนรก
“แท้จริง บรรดาผู้ที่ซื้อการทรยศ (กุฟร์) ด้วยความศรัทธา (อีหม่าน) นั้นพวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่อัลลอฮ์ได้ แต่อย่างใดเลย แต่สำหรับพวกเขานั้น คือการลงโทษอันยิ่งใหญ่ (อัล กุรอานบทที่ ๓ โองการที่ ๑๗๗)
โอ้ เจ้าลูกทาสที่ได้รับการปลดปล่อย! เป็นการยุติธรรมแล้วหรือที่ผู้หญิงในครอบครัวของเจ้ายังคงมีผ้าคลุมศีรษะ ในขณะที่เราครอบครัวของท่านศาสดาต้องถูกนำมาในสภาพเช่นนี้ เจ้าดูหมิ่นเกียรติของพวกเรา ใบหน้าของเราไม่มีผ้าคลุม โดยทหารที่ชั่วช้าเจ้าพาเราเดินไปในที่สาธารณะและตลอดทางผู้คนเฝ้ามองดูพวกเรา โดยที่เราไม่มีผู้ชายของเราคอยปกป้องคุ้มครอง
โอ้ ยะซีด! การกระทำที่ชั่วช้าของเจ้า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการทรยศต่อพระผู้เป็นเจ้าและคำสั่งสอนของศาสดาที่นำมาให้แก่ประชาชาติ และมันก็พิสูจน์อย่างชัดเจนไร้ข้อสงสัยว่า เจ้าไม่ได้ให้
เกียรติต่อศาสดาที่ถูกส่งลงมาโดยพระเจ้าการกระทำของเจ้าไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจ เพราะบรรพบุรุษของเจ้าได้เคยเคี้ยวตับของท่านฮัมซะฮ์อิบนิ อับดุลมุฏฏอลิบ ลุงของท่านศาสดามาแล้ว ฮินด์เมียของอบูซุฟยาน ได้ผ่าท้องของท่านฮัมซะฮ์และควักตับออกมาเคี้ยวกินเพื่อดับความกระหายแห่งความแค้นในสงครามอุฮุด เจ้าเป็นคนในตระกูลนี้ที่ซึ่งจะเป็นปฏิปักษ์กับศาสดาตลอดเวลา ลูกหลานของสัตว์พวกนี้เป็นศัตรูกับพระเจ้าและศาสดาของพระองค์ ลักษณะธรรมชาติของพวกเจ้าก็คือ ความไม่มีเมตตาธรรม ร้ายกาจ ชอบความรุนแรง
จงจำไว้! การกระทำที่น่ารังเกียจของพวกเจ้า เป็นผลมาจากสันดานของความเกลียดชัง ความมุ่งร้าย ซึ่งมีผลต่อนิสัยที่ชั่วช้าของเจ้า การแก้แคนครั้งนี้เนื่องมาจากธรรมชาติอันนี้ และเจ้าเป็นผู้ที่มี
สำนึกแห่งการแก้แคนฝังลึกอยู่ในจิตใจตลอดมานับตั้งแต่สงครามบะดัรซึ่งในครั้งนั้นบรรพบุรุษของเจ้าได้ถูกสังหารเพราะเป็นปฏิปักษ์และทำการสู้รบกับศาสดา
ใครก็ตามที่เฝ้ามองเราอย่างจงเกลียดจงชัง มุ่งร้ายและจ้องจะล้างแค้น ย่อมเป็นศัตรูอย่างชัดแจ้งของครอบครัวแห่งศาสดา ใครก็ตามพึงพอใจกับการเยาะเย้ยถากถางพวกเรา ก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นพวกนอกศาสนา นอกจากนี้เจ้ายังพึงพอใจในการที่ได้สังหารหลานของศาสดาและจับครอบครัวของท่านเป็นเชลย เจ้าไม่เคยคิดเลยว่า นี่คือบาปที่ยิ่งใหญ่มหันต์! ตรงกันข้ามเจ้ากลับพูดว่า ‘ถ้าบรรพบุรุษของฉันได้เห็นการกระทำของฉัน พวกเขาจะต้องพึงพอใจ และจะต้องพูดว่า
โอ้ยะซีด เจ้าได้ล้างแค้นให้กับพวกเรา
ขอให้มือของเจ้าอย่าได้เจ็บปวดด้วยโรคร้ายเลย’
โอ้ ยะซีด! เจ้ามีความสุขกับการดูหมิ่นและไม่ให้เกียรติกับศีรษะของ อบาอับดิลลาฮ์ ฮูเซน โดยการใช้ไม้เขี่ยที่ริมฝีปากของท่าน เจ้าไม่รู้หรือว่าริมฝีปากนี้ ท่านศาสดาแห่งพระเจ้าได้เคยจุมพิตในโอกาสต่างๆ
เจ้าได้กรีดแผลลึกลงบนจิตใจและวิญญาณของเรา ด้วยการหลั่งเลือดหัวหน้าของชายหนุ่มแห่งสวนสวรรค์ ลูกของ อะลี บิน อบีฏอลิบ
โอ้ ยะซีด! ถ้าเจ้ามีจิตใจที่จะสะสมการกระทำที่ต่ำช้า เจ้าจงมั่นใจได้เลยว่า มือของเจ้าจะเป็นอัมพาตอย่างรุนแรงตั้งแต่ข้อศอก และเจ้าจะต้องรองอุทธรณ์ว่า ‘แม่ไม่น่าให้ฉันเกิดมาเลย!’
เจ้าจงรู้ไว้เลยว่า พระเจ้าจะกริ้วโกรธและศาสดาจะเป็นศัตรูกับเจ้า
โอ้ พระผู้เป็นเจ้า ! โปรดนำสิทธิอันชอบธรรมของเรากลับคืนมาด้วยเถิด โปรดตอบแทนผู้ซึ่งกดขี่เรา และโปรดส่งการลงโทษของพระองค์ลงมายังผู้ซึ่งทำลายสัญญาของพวกเขา ฆ่าสังหารเด็กๆ และญาติสนิทและผู้ช่วยเหลือของเรา ทำให้เราต้องอัปยศอดสู
โอ้ ยะซีด! เจ้าได้ทำในสิ่งที่เจ้าอยากทำ แต่จงจำไว้เถิดว่า เจ้าจะต้องตายและถูกตัดเป็นชิ้นๆ แล้วเจ้าจะถูกนำไปยังท่านศาสดา ซึ่งเจ้าจะต้องแบกบาปกรรมของเจ้าจากการที่เจ้าได้หลั่งเลือดทายาทของศาสดา ดูหมิ่นและไม่ให้เกียรติต่อครอบครัวของท่าน
เจ้าจะถูกนำไปยังที่ๆ ท่านศาสดาและสมาชิกในครอบครัวของท่านอยู่กันพร้อม เจ้าจะได้รับการลงโทษที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งเจ้าและผู้คนของเจ้าไม่อาจหนีรอดไปได้เลย
โอ้ ยะซีด! เจ้าอย่าได้ลำพองใจในการที่เจ้าได้สังหารทายาทของท่านศาสดา เจ้าไม่รู้หรือว่า อัลกุรอานอันศักดิ์สิทธิ์ได้กล่าวเกี่ยวกับผู้ซึ่งถูกฆ่าในหนทางของอัลลอฮ์ว่า
‘เจ้าจงอย่าคิดเป็นอันขาดว่า ผู้ที่ถูกฆ่าในหนทางของอัลลอฮ์นั้นตาย มิได้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ณ พระเจ้าของพวกเขา ในสภาพที่ได้รับปัจจัยยังชีพ’ (อัล กุรอานบทที่๓ โองการที่๑๖๙)
มีแต่ความเงียบงันในท้องพระโรงของยะซีด เมื่อท่านหญิงซัยนับจบคำสุนทรพจน์อันเร้าใจของท่าน ยะซีดหน้าซีดเผือด และไม่ปริปากพูดเลยแม้แต่น้อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาจะต้องประสาทเสีย เพราะคำพูดเหล่านั้น เพราะในท้องพระโรงเต็มไปด้วยผู้คน บรรดาบุคคลชั้นนำของวงศ์อุมัยยะฮ์ แม่ทัพนายกองของเขา พวกยิวและคริสเตียน และประชาชนจากทุกสารทิศต่างมาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นั้น เพื่อมาดูบรรดาเชลยที่ถูกนำตัวมา ซึ่งพวกเขาไม่เคยรู้เลยว่า พวกท่านคือสมาชิกในครอบครัวของศาสดา
สุนทรพจน์ได้พิสูจน์ให้ผู้คนได้ทราบแล้วว่า ครอบครัวของศาสดาถูกกระทำอย่างป่าเถื่อนโหดร้ายทารุณ
ท่านยกย่องฐานะของครอบครัวแห่งศาสดาและแสดงให้เห็นถึงการกระทำอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้บริสุทธิ์ และหยิบยกมาให้เห็นถึงความทรยศของอบูซุฟยานและมุอาวิยะฮ์ ผู้เป็นพ่อและปู่ของยะซีด รวมทั้งความไม่เป็นธรรมของยะซีดในเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีต