ชีวประวัติท่านหญิง มะอ์ศูมะฮ์
เสียงของทารกน้อยส่งเสียงร้องดังไปทั่วเมืองมะดีนะฮ์ จากครอบครัวที่เรียบง่ายและสมถะของท่านอิมาม มูซา อัลกาซิม (อ) แสงรัศมีอันงดงามได้พวยพุ่งสู่ฟากฟ้า ทำให้เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยันั้นต้องหยุดลง เมื่อเวลารอคอยของผู้เป็นบิดาได้มาถึง เวลาที่ทารกน้อยได้ถือกำเนิด คือในวันที่ 1 ของเดือนซิลเกาะดะฮ์ ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 173 ณ เมืองมะดีนะฮ์ ทารกน้อยมีนามว่า ฟาฏิมะฮ์ อัลกุบรอ ซึ่งรู้จักกันในนามของมะอ์ศูมะฮ์ นั่นคือ ท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ นั่นเองเว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม
มารดาของท่านหญิงเป็นสตรีที่ประเสริฐที่สุดในยุคสมัยของนางที่มีนามว่า ท่านหญิงนัจญ์มะฮ์ คอตูน ด้วยกับความบริสุทธิ์ของนาง ซึ่งได้ฉายานามว่า ฏอฮิเราะฮ์ บิดาของท่านหญิง คือ ท่านอิมามมูซา อัลกาซิม (อ) ผู้เป็นอิมามท่านที่เจ็ดแห่งวงศ์วานอาลิมุฮัมมัด
ฉายานามของท่านหญิง คือ มะฮ์ศูมะฮ์ ,กะรีมะตุอะฮ์ลิลบัยต์,ฏอฮิเราะฮ์ ,ฮะมีดะฮ์ ,รอฎียะฮ์,ตะกียะฮ์,มัรฎียะฮ์,รอชิดะฮ์ และอุคตุรริฎอ
ก่อนการประสูติของท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ ท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก ได้แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับการถือกำเนิดของท่านหญิงให้กับท่านอิมามมูซา อัลกาซิม (อ) ซึ่งครอบครัวแห่งวิลายะฮ์ได้เฝ้ารอคอยการถือกำเนิดของบุตรีนี้นานมากถึง 45 ปี เพราะว่า ท่านอิมามริฏอได้ประสูติก่อนท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ เป็นเวลา 25 ปี หมายความว่า ท่านอิมามริฏอ มีอายุมากกว่าท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ 25 ปี
เวลาที่ท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ประสูติเป็นช่วงระยะเวลาสุดท้ายแห่งการดำรงตำแหน่งอิมามัตของท่านอิมาม มูซา อัลกาซิม (อ) คือ ปีฮิจเราะฮ์ที่ 148 ซึ่งท่านอิมามดำรงตำแหน่งอิมามัต เพียง 35 ปี และอยู่ในยุคของการปกครองของราชวงศ์อับบาสียะฮ์ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ยุคนี้ เป็นยุคที่สร้างความยากลำบากให้กับบรรดาอิมาม ผู้บริสุทธิ์ และมวลศรัทธาชนชีอะฮ์ ผู้ปฏิบัติบรรดาอิมามทั้งหลาย แม้กระทั่งนามของท่านอิมามก็มิสามารถกล่าวขานได้ เพราะในสมัยนั้นเป็นยุคของการปกครองโดย คอลีฟะฮ์ฮารูน อัรรอชีด บางครั้งท่านอิมามถูกจับกุมและขังในคุก และบางครั้งก็ปล่อยให้เป็นอิสระ ซึ่งเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดระยะเวลากว่า 14 ปี และเป็นช่วงเวลาที่ท่านหญิงประสูติพอดี
ท่านอิมาม มูซา อัลกาซิม เป็นชะฮาดะฮ์ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 183 ในขณะที่ท่านหญิงมีอายุได้เพียง 10 ปี และพี่ชายของท่านหญิงคือ ท่านอิมามอะลี อัรริฎอ มีอายุ 35 ปี ได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งอิมามัตต่อจากบิดาของท่าน
ท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ มีชื่อเดียวกันกับผู้เป็นบุตรีแห่งศาสนทูตของอัลลอฮ์ ก็คือ ท่านฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (ซ) สถานภาพของท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์มิได้เหมือนกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ แต่ด้วยกับนามของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ที่สามารถทำให้บรรดาชีอะฮ์ทั้งหลายที่มีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์ได้เข้าสู่สรวงสวรรค์ ดั่งวจนะหนึ่งจากท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก ได้กล่าวไว้ว่า
“พวกท่านจงรู้ไว้เถิดว่า สรวงสวรรค์นั้นมีเจ็ดบานประตู และประตูสามบานนั้นเปิดสู่เมืองกุม ซึ่ง ณ สถานที่แห่งนั้น มีสถานที่ฝังวีรสตรี ที่นางนั้นเป็นบุตรหลานของฉัน และนามของนางนั้นมีนามว่า ฟาฏิมะฮ์ บุตรี มูซา และด้วยกับการชะฟาอะฮ์ (อนุเคราะห์) ของนางที่จะทำให้บรรดาชีอะฮ์ของนางเข้าสู่สวรรค์
ท่านอิมามอะลี อิบนุ มูซา อัรริฏอได้กล่าวถึงท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ว่า
قال علي بن موسي الرضا (عليهالسلام)
مَنْ زَارَ الْمَعصُومَةَ بِقُمْ كَمَنْ زَارَنى
“บุคคลใดก็ตามที่ได้มาซิยาเราะฮ์ (เยี่ยมเยียน)มะอ์ศูมะฮ์ ณ เมืองกุม เปรียบเสมือนกับเขาได้มาเยี่ยมเยียนฉัน”
สถานภาพความรู้ของท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ (อ)
สถานที่ๆท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ มะอ์ศูมะฮ์ ได้รับการสั่งสอน คือ ครอบครัวของนาง ซึ่งเป็นครอบครัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้และความประเสริฐ ท่านหญิงได้รับการเรียนรู้มาจากบิดาของนาง และพี่ชายคือ ท่านอิมาม มูซา อัลกาซิม และท่านอิมามอะลี อัรริฎอ นี่คือ ความประเสริฐของท่านหญิงทางด้านความรู้ที่อยู่ในระดับขั้นที่สูงสุด อีกทั้งท่านหญิงยังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อปัญหาและข้อสงสัยต่างๆ ท่านหญิงมีความสามารถโต้ตอบได้ทุกเรื่อง ทุกปัญหา ดั่งรายงานหนึ่งเล่าว่า
ในวันหนึ่งได้มีบรรดาผู้ศรัทธาชีอะฮ์ได้เดินทางมายังเมืองมะดีนะฮ์ เพื่อต้องการทาทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเขาก็ได้ไปยังบ้านของท่านอิมาม มูซา อัลกาซิม (อ) เมื่อพวกเขามาถึงยังบ้านของท่านอิมาม ปรากฏว่า ท่านอิมามอยู่ในช่วงการเดินทาง จากดินแดนที่ห่างไกล และพวกเขาก็ไม่พบกับท่านอิมาม แต่ได้พบกับบุตรีของท่านอิมาม นางได้ถามขึ้นว่า พวกท่านมีปัญหาหรือคำถามใดก็ถามมาเถิด เพื่อว่าฉันจะตอบและแก้ปัญหาของพวกท่านได้บ้าง
พวกเขาก็ได้เขียนปัญหาของพวกเขา และท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ก็ได้เขียนตอบทุกคำถาม และเมื่อพวกเขาได้รับคำตอบ พวกเขาก็ดีใจและหายเหนื่อยจากการเดินทาง และในระหว่างทางพวกเขาได้พบกับท่านอิมาม มูซา อัลกาซิม (อ) ก็ได้เล่าปัญหาของพวกเขาให้ท่านอิมามรับฟังพร้อมทั้งหยิบยื่นคำตอบที่ท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ให้กับท่านอิมาม เมื่อท่านอิมามได้เปิดดูก็กล่าวว่า “ขอความสันติจงมีแด่บิดาของนาง”
และเมื่อท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ได้รับข่าวการเดินทางอันไม่มีวันกลับของพี่ชายของนาง คือ ท่านอิมามอะลี อัรริฎอ ท่านหญิงก็ตัดสินใจที่จะเดินทางไปพบพี่ชายของนางยังแคว้นโครอซาน หรือ เปอร์เซีย ท่านหญิงพร้อมกับคนรับใช้และคณะติดตามก็เดินทางออกจากเมืองมะดีนะฮ์ สู่โครอซาน เมื่อกองคาราวานของท่านหญิงมาถึงยังเมืองซาเวฮ์ (เมืองหนึ่งในอิหร่าน) ท่านหญิงก็ล้มป่วยเนื่องมาจากการที่ต้องหลบหนีบรรดาศัตรูจากราชวงศ์อับบาสียะฮ์ และท่านหญิงได้สั่งให้พานางมายังเมืองกุม และในวันที่ 23 ของเดือนรอบีอุลเอาวัล ปีฮิจเราะฮ์ศักราช ที่ 201 ท่านหญิงก็เดินทางมาสู่เมืองกุม และหลังจากนั้นเพียง 17 วัน ท่านหญิงก็ถึงแก่การวะฟาต ซึ่งรวมอายุของท่านหญิง ท่านมีอายุ 28 ปี และร่างของท่านหญิงถูกนำมาฝังยังสถานที่มีชื่อว่า สวนบาบิลาน ซึ่งปัจจุบัน คือ ฮะรอมของท่านหญิงที่บรรดาผู้ศรัทธาได้มาซิยาเราะฮ์ จากทั่วทุกมุมโลก
โดย อิบนุ มุฮัมมัด