ไทยแลนด์
Tuesday 5th of November 2024
0
نفر 0

สถานภาพการเมือง การปกครองของอิมามฮะซัน อัลอัสกะรีย์

จากการศึกษาในชีวประวัติบรรดาอิมาม เริ่มตั้งแต่ ยุคสมัยของอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก จนกระทั่งสมัยของอิมามอะลี อัลฮาดี มีการบีบคั้น และกดดันทางเมืองของผู้ปกครองทั้งหลาย จากวงศ์วานของอับบาสียะฮ์ เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม ซึ่งการบีบคั้นและจำกัดขอบเขตต่อบรรดาอิมามที่เรียกได้ว่า เป็นขั้นตอนที่รุนแรงและสูงสุด กล่าวได้ว่า ในยุคสมัยของอิมามทั้งสาม กล่าวคือ อิมามมุ
สถานภาพการเมือง การปกครองของอิมามฮะซัน อัลอัสกะรีย์

จากการศึกษาในชีวประวัติบรรดาอิมาม เริ่มตั้งแต่ ยุคสมัยของอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก จนกระทั่งสมัยของอิมามอะลี อัลฮาดี มีการบีบคั้น และกดดันทางเมืองของผู้ปกครองทั้งหลาย จากวงศ์วานของอับบาสียะฮ์ เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม
ซึ่งการบีบคั้นและจำกัดขอบเขตต่อบรรดาอิมามที่เรียกได้ว่า เป็นขั้นตอนที่รุนแรงและสูงสุด กล่าวได้ว่า ในยุคสมัยของอิมามทั้งสาม กล่าวคือ อิมามมุฮัมมัด อัตตะกีย์ อัลญะวาด , อิมามอะลี อันนะกีย์ อัลฮาดี และอิมามฮะซัน อัลอัสกะรีย์

ความรุนแรงดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้บรรดาอิมามทั้งสาม ในการใช้ชีวิตของพวกท่านนั้น มีระยะสั้นมากทีเดียว
โดยที่อิมามญะวาด มีอายุแค่ 25 ปี เท่านั้น , อิมามฮาดีย์ ก็มีอายุมากที่สุด นั่นก็คือ ท่านมีอายุ 41 ปี ด้วยกัน
ในขณะที่ท่านอิมามอัสกะรีย์ มีอายุ 28 ปี หากว่านำเอามารวมกันได้ 92 ปี
 
สาเหตุที่ทำให้เกิด สถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ มีด้วยกัน สอง เหตุผลหลัก ดังนี้

1.ยุคสมัยของท่านอิมามอัสกะรี เป็นยุคสมัยที่ บรรดาชีอะฮ์ หมายถึง ผู้ที่ปฏิบัติท่านอิมามมีลักษณะที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ และเป็นผู้ที่ต่อต้านผู้ปกครองโดยไม่ถือว่า เป็นสิทธิอันชอบธรรมของพวกเขา ในขณะที่ความเป็นจริงนั้น เป็นสิทธิที่ถูกต้องของบรรดาลูกหลานของอะลี (อ) และในช่วงสมัยนี้ บุคคลที่มีลักษณะเด่นชัดที่สุดในวงศ์วานนี้ ก็คือ ท่านอิมามฮะซัน อัสกะรีย์  ประจักษ์พยานที่บ่งบอกถึงพลังอำนาจของบรรดาชีอะฮ์ ก็คือ อุบัยดิลลาฮ์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของคอลีฟะฮ์ มุอ์ตะมิด อับบาสีย์  เขาได้ยอมรับในบทบาทที่ยิ่งใหญ่ของบรรดาชีอะฮ์  โดยรายงานว่า หลังจากการเป็นชะฮีดของอิมามฮะซันอัสกะรีย์ พี่ชายของท่านอิมาม ที่ชื่อว่า ญะอ์ฟัร ได้เข้าไปหาอุบัยดิลลาฮ์ และ กล่าวว่า จงมอบตำแหน่ง (ผู้นำหรืออิมาม) ของน้องชายของฉันให้กับฉัน และในทุกปี ฉันจะให้ 20000 ดีนาร กับท่าน

เมื่ออุบัยดิลลาฮ์ได้ยินเช่นนั้น ก็เกิดอาการโมโหอย่างมาก และกล่าวตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า ท่าน ช่างโง่เขลาอะไรเช่นนี้  ผู้ปกครอง (คอลีฟะฮ์ ได้ชักมีดดาบสังหารบรรดากลุ่มชนที่ยอมรับบิดาและน้องชายของท่าน เป็นอิมาม (ผู้นำ) เพื่อให้พวกเขาหันหลังกลับจากความศรัทธานี้  แต่ก็ไม่สามารถกระทำได้ ทั้งหมดที่เขากระทำไปนั้น ไม่เคยประสพความสำเร็จสักครั้งเดียว ในเวลานี้ ถ้าหากว่า พวกเขายอมรับท่านว่า เป็นอิมาม ดังนั้น ท่านก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงบุคคลอื่น ในการสถาปนาตนเองเป็นอิมาม  แต่หากว่า ในทัศนะของพวกเขา ท่านไม่มีตำแหน่งอันใด ฉะนั้น ความเพียรพยายามของพวกเราก็ไม่มีผลอย่างแน่นอน

2.บรรดาผู้ปกครอง จากวงศ์วานบะนีอับบาส มีความหวาดกลัว ว่า อิมามมะฮ์ดี ผู้ที่มีคำรายงานจากท่านศาสดาว่า เขาคือ ผู้นำยุคสุดท้ายที่จะมาปกครองมนุษยชาติด้วยกับความชอบธรรมและดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม  เพราะตามรายงานกล่าวไว้ว่า เขา คือ บุตรของอิมามฮะซันอัลอัสกะรีย์  ด้วยเหตุนี้ พวกเขาต้องคอยระมัดระวังและจับสายตาดูท่านอิมามอย่างประชั้นชิด มิให้คลาดสายตาพวกเขา เพื่อที่จะจับและสังหารบุตรของท่านอิมาม เหมือนกับที่กษัตริย์ฟาโรห์ต้องการสังหารมูซา แต่ด้วยพระประสงค์แห่งพระผู้เป็นเจ้าทรงคุ้มครองและเก็บรักษาบุคคลากรแห่งพระองค์ จนกว่า จะถึงเวลาที่พระองค์ ทรงกำหนด ให้ผู้ที่โลกรอคอยได้ปรากฏ

เขียนโดย อิบนุมุฮัมมัด


source : alhassanain
0
0% (نفر 0)
 
نظر شما در مورد این مطلب ؟
 
امتیاز شما به این مطلب ؟
اشتراک گذاری در شبکه های اجتماعی:

latest article

...
...
ท่านหญิงมะอ์ศูมะฮ์ ...
เราะห์มัต (ความเมตตา) ...
...
สถานภาพการเมือง ...
ทำไมต้องห้าม “หมู” ?
...
...
บทบาทของพระเยซูคริสต์ ...

 
user comment