ความประเสริฐของท่านอะลี (อ.)ในอัลกุรอาน
บางตอนของสุนทรพจน์ฆ่อดีรฺคุม ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวถึงความประเสริฐของท่านอิมามอะลี (อ.) ดังที่อัล-กุรอานได้กล่าวถึงเช่นกัน ท่านศาสดา กล่าวว่า
مَعَاشِرَ النَّاسِ أنَّ فَضَائِلَ علي بن ابى طالب عِنْدَ اللَّه عزّ و جّل فَقَدْ اَنْزَلَهَا فىِ القُرْآن اَكْثَرُ مِنْ اُحْصِيَهَا فىِ مَقَامٍ وَاحِدٍ فَمَنْ أَنْبَاَكُمْ بِهَا وَ عَرَّفَهَا فَصَدِّقُوْهُ
“โอ้ประชาชนเอ๋ย แท้จริงแล้วความประเสริฐของอะลี บิน อบีฏอลิบที่อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงตรัสไว้ในอัล-กุรอานนั้นมีมากกว่าสิ่งที่ฉันจะพูดให้พวกท่านฟังเพียงหนึ่งการชุมนุม ดังนั้น บุคคลใดก็ตามที่แจ้งความประเสริฐเหล่านั้นให้ท่านทราบ และทำให้ท่านเข้าใจ ท่านจงยอมรับเถิด”เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม
จะขอหยิบยกโองการที่กล่าวถึงความประเสริฐของท่านอะลี (อ.) โดยไม่อ้างอิงริวายะฮฺประกอบแต่จะกล่าวเฉพาะหนังสืออ้างอิงเท่านั้น
๔๗โองการที่ประทานให้ท่านอะลี (อ.)
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ أَطِيعُواْ اللّهَ وَأَطِيعُواْ الرَّسُولَ وَأُوْلِي الأَمْرِ مِنكُمْ
๑.ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังร่อซูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้าด้วย[๑]
إِنَّا عَرَضْنَا الْأَمَانَةَ عَلَى السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ وَالْجِبَالِ فَأَبَيْنَ أَن يَحْمِلْنَهَا وَأَشْفَقْنَ مِنْهَا
๒. แท้จริงเราได้เสนอการอะมานะฮฺ แก่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และขุนเขาทั้งหลาย แต่พวกมันปฏิเสธจะแบกรับมันและกลัวมัน (คือภาระอันหนักอึ้ง)[๒]
فَإِذَا فَرَغْتَ فَانصَبْ وَإِلَى رَبِّكَ فَارْغَبْ
๓.ดังนั้นเมื่อเจ้าเสร็จสิ้น (จากงานหนึ่งแล้ว) ก็จงลำบากต่อไปและยังพระเจ้าของเจ้าเท่านั้นก็จงมุ่งปรารถนาเถิด[๓]
إِنَّ اللّهَ يَأْمُرُكُمْ أَن تُؤدُّواْ الأَمَانَاتِ إِلَى أَهْلِهَا وَإِذَا حَكَمْتُم بَيْنَ النَّاسِ أَن تَحْكُمُواْ بِالْعَدْلِ
๔.แท้จริงอัลลอฮฺทรงใช้พวกเจ้าให้มอบคืนบรรดาของฝากแก่เจ้าของของมัน และเมื่อพวกเจ้าตัดสินระหว่างผู้คน พวกเจ้าก็จะต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม[๔]
وَالَّذِينَ آمَنُوا وَاتَّبَعَتْهُمْ ذُرِّيَّتُهُم بِإِيمَانٍ أَلْحَقْنَا بِهِمْ ذُرِّيَّتَهُمْ وَمَا أَلَتْنَاهُم مِّنْ عَمَلِهِم مِّن شَيْءٍ
๕.และบรรดาผู้ศรัทธา บรรดาลูกหลานของพวกเขาจะดำเนินตามพวกเขาด้วยการศรัทธา เราจะให้ลูกหลานของพวกเขาอยู่ร่วมกับพวกเขา และเราจะไม่ให้การงานของพวกเขาลดหย่อนลงจากพวกเขาแต่อย่างใด[๕]
أَلَمْ تَرَ إِلَى الَّذِينَ بَدَّلُواْ نِعْمَةَ اللّهِ كُفْرًا وَأَحَلُّواْ قَوْمَهُمْ دَارَ الْبَوَارِ
๖.เจ้าไม่เห็นดอกหรือ บรรดาผู้เปลี่ยนความโปรดปรานของอัลลอฮ เป็นการปฏิเสธศรัทธาและได้นำกลุ่มชนของพวกเขาลงสู่ที่พำนักอันหายนะ[๖]
إِنَّ فِي ذَلِكَ لآيَاتٍ لِّلْمُتَوَسِّمِينَ وَإِنَّهَا لَبِسَبِيلٍ مُّقيمٍ
๗.แท้จริงในการนั้น แน่นอนเป็นสัญญาณแก่บรรดาผู้พินิจพิเคราะห์ และมัน(สถานที่นั้น)ยังคงเป็นสถานที่พักอาศัยอย่างแน่นอน[๗]
وَقُلِ اعْمَلُواْ فَسَيَرَى اللّهُ عَمَلَكُمْ وَرَسُولُهُ وَالْمُؤْمِنُونَ
๘. จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงทำงานเถิดอัลลอฮฺทรงเห็นการงานของพวกท่าน และร่อซูลของพระองค์และบรรดามุอ์มิน[๘]
وَأَنْ لَوِ اسْتَقَامُوا عَلَى الطَّرِيقَةِ لَأَسْقَيْنَاهُم مَّاء غَدَقًا
๙.และหากพวกเขาธำรงมั่นอยู่บนแนวทางที่เที่ยงธรรม แน่นอนเราก็จะให้พวกเขามีริซกีกว้างขวาง[๙]
وَمَا يَعْلَمُ تَأْوِيلَهُ إِلاَّ اللّهُ وَالرَّاسِخُونَ فِي الْعِلْمِ
๑๐. แลไม่มีใครรู้ในการตีความโองการนั้นได้นอกจากอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่มั่นคงในความรู้เท่านั้น[๑๐]
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ اتَّقُواْ اللّهَ وَكُونُواْ مَعَ الصَّادِقِينَ
๑๑.โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย พึงยำเกรงอัลลอฮ์เถิด และจงอยู่อยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่พูดจริง[๑๑]
عَمَّ يَتَسَاءَلُونَ عَنِ النَّبَإِ الْعَظِيمِ
๑๒. พวกเขาต่างถามกันถึงเรื่องอะไร ถึงข่าวอันยิ่งใหญ่สำคัญ[๑๒]
وَمَا تُغْنِي الآيَاتُ وَالنُّذُرُ عَن قَوْمٍ لاَّ يُؤْمِنُونَ
๑๓. และสัญญาณทั้งหลาย และการตักเตือนทั้งหลาย จะไม่อำนวยผลแก่กลุ่มชนที่ไม่ศรัทธา[๑๓]
أَمْ يَحْسُدُونَ النَّاسَ عَلَى مَا آتَاهُمُ اللّهُ مِن فَضْلِهِ فَقَدْ آتَيْنَآ آلَ إِبْرَاهِيمَ الْكِتَابَ وَالْحِكْمَةَ وَآتَيْنَاهُم مُّلْكًا عَظِيمًا
๑๔. หรือว่าพวกเขาอิจฉาคนอื่น ในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานให้แก่พวกเขา จากความกรุณาของพระองค์ แท้จริงพระองค์ได้ประทานให้แก่วงศ์วานของอิบรอฮีมมาแล้วซึ่งคัมภีร์และความรู้เกี่ยวกับศาสนา และได้ทรงให้แก่พวกเขาซึ่งอำนาจอันยิ่งใหญ่[๑๔]
وَاتَّبَعُواْ النُّورَ الَّذِيَ أُنزِلَ مَعَهُ أُوْلَئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ
๑๕. และปฏิบัติตามแสงสว่าง (นูรฺ) ที่ถูกประทานลงมายังเขา ชนเหล่านี้แหละคือบรรดาผู้ที่สำเร็จ[๑๕]
إِنَّمَا أَنتَ مُنذِرٌ وَلِكُلِّ قَوْمٍ هَادٍ
๑๖. แท้จริงเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น และสำหรับทุกๆ หมู่ชนย่อมมีผู้นำ[๑๖]
أَفَمَن كَانَ عَلَى بَيِّنَةٍ مِّن رَّبِّهِ وَيَتْلُوهُ شَاهِدٌ مِّنْهُ
๑๗. ดังนั้น ผู้ที่อยู่บนหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของเขา และผู้เป็นพยาน พระองค์จะสาธยายมัน[๑๗]
إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ أُوْلَئِكَ هُمْ خَيْرُ الْبَرِيَّةِ
๑๘. แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีทั้งหลาย ชนเหล่านั้น พวกเขาเป็นมนุษย์ที่ดียิ่ง[๑๘]
وَاعْتَصِمُواْ بِحَبْلِ اللّهِ جَمِيعًا وَلاَ تَفَرَّقُواْ
๑๙.และพวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮฺโดยพร้อมกันทั้งหมดและจงอย่าแตกแยกกัน[๑๙]
فَمَنْ يَكْفُرْ بِالطَّاغُوتِ وَيُؤْمِن بِاللّهِ فَقَدِ اسْتَمْسَكَ بِالْعُرْوَةِ الْوُثْقَىَ
๒๐. ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่อฎอฆูต และศรัทธาต่ออัลลอฮฺ แน่นอนเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว[๒๐]
نَزَلَ بِهِ الرُّوحُ الْأَمِينُ عَلَى قَلْبِكَ لِتَكُونَ مِنَ الْمُنذِرِينَ
๒๑.อัรรูห์ ผู้ซื่อสัตย์ได้นำมันลงมา ยังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง[๒๑]
بَلْ تُؤْثِرُونَ الْحَيَاةَ الدُّنْيَا وَالْآخِرَةُ خَيْرٌ وَأَبْقَى إِنَّ هَذَا لَفِي الصُّحُفِ الْأُولَى صُحُفِ إِبْرَاهِيمَ وَمُوسَى
๒๒. หามิได้ แต่พวกเจ้าเลือกเอาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่างหากทั้ง ๆ ที่ปรโลกนั้นดีกว่าและจีรังกว่. แท้จริง (ข้อตักเตือนสติ) นี้มีอยู่ในคัมภีร์ก่อนหน้านั้นคือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา[๒๒]
قُلْ إِنَّمَا أَعِظُكُم بِوَاحِدَةٍ
๒๓. จงบอกเถิดว่า แท้จริงฉันขอเตือนพวกท่านสักประการหนึ่ง[๒๓]
فَاسْتَمْسِكْ بِالَّذِي أُوحِيَ إِلَيْكَ إِنَّكَ عَلَى صِرَاطٍ مُّسْتَقِيمٍ
๒๔. ดังนั้นจงยึดมั่นตามที่ได้ถูกวะฮียฺแก่เจ้า แท้จริงเจ้านั้นอยู่บนแนวทางอันเที่ยงตรง[๒๔]
وَبَشِّرِ الَّذِينَ آمَنُواْ أَنَّ لَهُمْ قَدَمَ صِدْقٍ عِندَ رَبِّهِمْ
๒๕. แจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่าแท้จริงพวกเขา จะได้รับตำแหน่งอันสูง ณ ที่พระผู้อภิบาลของพวกเขา[๒๕]
هُنَالِكَ الْوَلَايَةُ لِلَّهِ الْحَقِّ هُوَ خَيْرٌ ثَوَابًا وَخَيْرٌ عُقْبًا
๒๖. ด้วยเหตุนั้น การคุ้มครองเป็นของอัลลอฮฺอย่างแท้จริง และพระองค์ทรงดียิ่งในการตอบแทน และทรงดียิ่งในบั้นปลาย[๒๖]
هَذَانِ خَصْمَانِ اخْتَصَمُوا فِي رَبِّهِمْ فَالَّذِينَ كَفَرُوا قُطِّعَتْ لَهُمْ ثِيَابٌ مِّن نَّارٍ
๒๗.ผู้โต้เถียงทั้งสองฝ่ายนี้ต่างก็โต้เถียงกันเกี่ยวกับพระเจ้าของพวกเขา(*1*) สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น มีอาภรณ์ที่ทำด้วยไฟถูกตัดไว้สำหรับพวกเขา[๒๗]
يَعْرِفُونَ نِعْمَتَ اللّهِ ثُمَّ يُنكِرُونَهَا
๒๘.พวกเขาตระหนักดีในความโปรดปรานของอัลลอฮฺ แต่แล้วพวกเขาปฏิเสธมัน[๒๘]
بَلَى مَن كَسَبَ سَيِّئَةً وَأَحَاطَتْ بِهِ خَطِيئَتُهُ فَأُوْلَئِكَ أَصْحَابُ النَّارِ هُمْ فِيهَا خَالِدُونَ
๒๙. หาใช่เช่นนั้นไม่ ผู้ใดที่แสดวงหาความชั่วและความผิดของเขาได้ล้อมเขาไว้นั้น(*1*) ชนเหล่านี้คือชาวรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอกกาล[๒๙]
وَأَوْفُواْ بِعَهْدِي أُوفِ بِعَهْدِكُمْ
๓๐. และจงรักษาข้อสัญญาของฉันให้ครบถ้วน ฉันก็จะรักษาสัญญาของพวกเจ้าให้ครบถ้วน[๓๐]
إِنَّ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ سَيَجْعَلُ لَهُمُ الرَّحْمَنُ وُدًّا
๓๑. แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบคุณงามความดีทั้งหลาย พระองค์ทรงประทานความเมตตาและความรักแก่พวกเขา[๓๑]
يُرِيدُونَ لِيُطْفِئُوا نُورَ اللَّهِ بِأَفْوَاهِهِمْ وَاللَّهُ مُتِمُّ نُورِهِ وَلَوْ كَرِهَ الْكَافِرُونَ
๓๒. พวกเขาปรารถนาที่จะดับรัศมีของอัลลอฮฺด้วยปากของพวกเขา แต่อัลลอฮฺเป็นผู้ทำให้รัศมีของพระองค์สมบูรณ์ แม้ว่าพวกปฏิเสธจะเกลียดชังก็ตาม[๓๒]
وَمَنْ أَعْرَضَ عَن ذِكْرِي فَإِنَّ لَهُ مَعِيشَةً ضَنكًا وَنَحْشُرُهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ أَعْمَى
๓๓. และผู้ใดผินหลังจากการรำลึกถึงฉัน สำหรับเขาคือ การมีชีวิตอยู่อย่างคับแค้น และเราจะให้เขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์ในสภาพของคนตาบอด[๓๓]
وَمَن يُرِدْ فِيهِ بِإِلْحَادٍ بِظُلْمٍ نُذِقْهُ مِنْ عَذَابٍ أَلِيمٍ
๓๔. ถ้าผู้ใดปรารถนาที่จะออกนอกทางด้วยความอธรรมเราก็จะให้เขาลิ้มรสการลงโทษอย่างเจ็บปวด[๓๔]
وَقِفُوهُمْ إِنَّهُم مَّسْئُولُونَ
๓๕. และจงยับยั้งพวกเขาไว้ เพราะพวกเขาจะต้องถูกสอบสวน[๓๕]
إِنَّ الْمُتَّقِينَ فِي جَنَّاتٍ وَنَهَرٍ فِي مَقْعَدِ صِدْقٍ عِندَ مَلِيكٍ مُّقْتَدِرٍ
๓๖.แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงอยู่ในสวนสวรรค์หลากหลาย และแม่น้ำหลายสายในสถานที่อันทรงเกียรติ ณ ที่พระเจ้าผู้ทรงอานุภาพ[๓๖]
وَالسَّابِقُونَ السَّابِقُونَ أُوْلَئِكَ الْمُقَرَّبُونَ فِي جَنَّاتِ النَّعِيمِ
๓๗.และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้าเขาเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิดพำนักในสวนสวรรค์อันบรมสุข[๓๗]
مِنَ الْمُؤْمِنِينَ رِجَالٌ صَدَقُوا مَا عَاهَدُوا اللَّهَ عَلَيْهِ فَمِنْهُم مَّن قَضَى نَحْبَهُ وَمِنْهُم مَّن يَنتَظِرُ وَمَا بَدَّلُوا تَبْدِيلًا
๓๘. ในหมู่ผู้ศรัทธามีบุรุษผู้มีสัจจะต่อสิ่งที่พวกเขาได้สัญญาต่ออัลลอฮฺเอาไว้ ) ดังนั้นในหมู่พวกเขามีผู้ปฏิบัติตามสัญญาของเขา และในหมู่พวกเขามีผู้รอคอย และพวกเขามิได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด[๓๘]
الزَّكَوةَ وَارْكَعُواْ مَعَ الرَّاكِعِينَ
๓๙.และจงก้มโค้งร่วมกับผู้บรรดผู้ก้มโค้งทั้งหลาย[๓๙]
وَاجْعَل لِّي لِسَانَ صِدْقٍ فِي الْآخِرِينَ
๔๐. และทรงทำให้ฉันได้รับการรำลึกอย่างดีในหมู่ชนรุ่นต่อ ๆ ไป[๔๐]
مَن جَاء بِالْحَسَنَةِ فَلَهُ عَشْرُ أَمْثَالِهَا
๔๑. ผู้ใดที่นำความดีมา เขาก็จะได้รับสิบเท่าของความดีนั้น[๔๑]
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ اسْتَجِيبُواْ لِلّهِ وَلِلرَّسُولِ إِذَا دَعَاكُم لِمَا يُحْيِيكُمْ
๔๒. จงตอบรับอัลลอฮฺ และร่อซูลเถิด เมื่อได้เชิญชวนพวกเจ้าสู่สิ่งที่ทำให้พวกเจ้ามีชีวิตชีวา[๔๒]
فَالَّذِينَ هَاجَرُواْ وَأُخْرِجُواْ مِن دِيَارِهِمْ وَأُوذُواْ فِي سَبِيلِي وَقَاتَلُواْ وَقُتِلُواْ لأُكَفِّرَنَّ عَنْهُمْ سَيِّئَاتِهِمْ وَلأُدْخِلَنَّهُمْ جَنَّاتٍ تَجْرِي مِن تَحْتِهَا الأَنْهَارُ ثَوَابًا مِّن عِندِ اللّهِ وَاللّهُ عِندَهُ حُسْنُ الثَّوَابِ
๔๓. บรรดาผู้ทีอพยพ และที่ถูกขับไล่ให้ออกจากบ้านของพวกเขา และได้รับความเดือดร้อนในทางของฉันได้ต่อสู้และถูกฆ่าตาย แน่นอนฉันจะลบล้างความผิดบาปทั้งหลายของพวกเขา และฉันจะให้พวกเขาเข้าสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลอยู่เบื้องล่าง ทั้งนี้เป็นรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ และ ณ อัลลอฮฺนั้นคือ การตอบแทนอันดีงาม[๔๓]
وَقُلِ الْحَقُّ مِن رَّبِّكُمْ فَمَن شَاءَ فَلْيُؤْمِن وَمَن شَاءَ فَلْيَكْفُرْ إِنَّا أَعْتَدْنَا لِلظَّالِمِينَ نَارًا أَحَاطَ بِهِمْ سُرَادِقُهَا
๔๔. และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัด สัจธรรมนั้นมาจากพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า ดังนั้น ผู้ใดปรารถนาศรัทธา จงศรัทธา และผู้ใดปรารถนาที่จะปฏิเสธจงปฏิเสธ แท้จริง เราได้เตรียมไฟนรกไว้สำหรับพวกอธรรมทั้งหลาย ซึ่งกำแพงของมันล้อมรอบพวกเขา [๔๔]
وَأَوْفُواْ بِعَهْدِ اللّهِ إِذَا عَاهَدتُّمْ وَلاَ تَنقُضُواْ الأَيْمَانَ بَعْدَ تَوْكِيدِهَا وَقَدْ جَعَلْتُمُ اللّهَ عَلَيْكُمْ كَفِيلاً
๔๖.และพวกเจ้าจงปฏิบัติให้ครบตามพันธสัญญาของอัลลอฮ เมื่อพวกเจ้าได้ให้สัญญาไว้ และพวกเจ้าอย่าได้ทำลายคำสาบานหลังจากได้ยืนยันมัน และแน่นอน พวกเจ้าได้มอบให้อัลลอฮฺเป็นพยานแก่พวกเจ้า[๔๕]
قُلْ كَفَى بِاللّهِ شَهِيدًا بَيْنِي وَبَيْنَكُمْ وَمَنْ عِندَهُ عِلْمُ الْكِتَابِ
๔๖. เพียงพอแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และผู้ที่เขามีความรู้ในคัมภีร์[๔๖]
سَلَامٌ عَلَى آلْ يَاسِينَ
๔๗. ศานติจงมีแด่วงศ์วานของยาซีน[๔๗]
อ้างอิง
[๑] นิซาอ์/๕๙, อุศูลุลกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๘๖๒
[๒] อะหฺซาบ/๗๒, อิษบาตุลฮุดา เล่มที่ ๓ หนี้ที่ ๒๙๓
[๓] ชัรฺห์/๗-๘, อุศูลุดกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๙๓
[๔] นิซอ์/๕๘, อ้างแล้ว หน้าที่ ๕๘
[๕] ฏูร/๒๑,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๗๕
[๖] อิบรอฮีม/๒๘,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๑๗
[๗] หิจร์/๗๕-๗๖,อ้างแล้วเล่มเดิม
[๘] เตาบะฮฺ/๑๐๕,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๑๙
[๙] ญิน/๑๖, อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๒
[๑๐] อาลิอิมรอน/๗, อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๑๓
[๑๑] เตาบะฮฺ/๑๒๐,กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๙
[๑๒] นะบะฮฺ /๑-๒,อุศูลกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๑๖
[๑๓] ยูนุส/๑๐๑,อ้างแล้ว หน้าที่ ๒๐๗
[๑๔] นิซาอ์ / ๕๔, ตัฟซีรฺกุมมี เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๔๐
[๑๕] อะอ์รอฟ / ๑๕๗, อุศูลกาฟีย์ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๙๔
[๑๖] เราะอ์ดุ / ๗,อ้างแล้วเล่มเดิม หน้าที่ ๑๙๒
[๑๗] ฮูด / ๑๗, อ้างแล้วเล่มเดิม หน้าที่ ๑๙๐
[๑๘] บัยยินะฮฺ / ๗,อัดดุรุนมันษูรฺ เล่มที่ ๖ หน้าที่ ๓๗๙
[๑๙] อาลิอิมรอน / ๑๐๓, ฆอยะตุลมะรอม หน้าที่ ๒๔๓ บาบที่ ๓๖ หะดีษที่ ๔
[๒๐] บะก่อเราะฮฺ / ๒๕๖, นูรุษษะก่อลัยนฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่๒๖๓
[๒๑] ชุอ์อะรอ / ๒๕๖, ตัฟซีรฺกุมมี เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๒๔
[๒๒] อะอ์ลา / ๑๖-๑๙, ตัฟซีรฺบุรฮาน เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๔๕๑
[๒๓] สะบะอ์ / ๔๖, ตัฟซีรฺกุมมี เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๒๐๔
[๒๔] ซุครุฟ / ๔๓, ตัฟซีรฺบุรฮาน เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๑๔๕
[๒๕] ยูนุส / ๒, อ้างแล้ว เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๑๗๗
[๒๖] อัล-กะฮฺฟิ / ๔๔, อ้างแล้ว หน้าที่ ๔๖๙
[๒๗] หัจญ์ / ๑๙, อ้างแล้วเล่มที่ ๓ หน้าที่ ๘๐
[๒๘] นะห์ลิ / ๘๓ อ้างแล้ว เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๓๗๘
[๒๙] บะก่อเราะฮฺ /๘๑, อ้างแล้ว เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๒
[๓๐] บะก่อเราะฮฺ / ๔๐, อ้างแล้วหน้าที่ ๙
[๓๑] มัรยัม / ๙๖,อ้างแล้วเล่ม ๒ หน้าที่ ๓๐๒
[๓๒] ศ็อฟ / ๘ อ้างแล้วเล่มที่ ๔ หน้าที่ ๓๒๙
[๓๓] ฏอฮา / ๑๒๔, อ้างแล้ว เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๔๕
[๓๔] หัจญ์ / ๒๕, อ้างแล้วหน้าที่ ๘๔
[๓๕] ศอฟาต / ๒๔, กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๑
[๓๖] ก่อมัรฺ / ๕๕,อ้างแล้วเล่มเดิม
[๓๗] วากิอะฮฺ /๑๐-๑๒, อ้างแล้วเล่มเดิม
[๓๘] อหฺซาบ / ๒๓,เล่มเดิมหน้าที่ ๔๒๕
[๓๙] บะก่อเราะฮฺ / ๔๓,เล่มเดิมหน้าที่ ๔๒๗
[๔๐] ชุอ์อะรอ / ๘๔, กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๓หน้าที่ ๔๓๘
[๔๑] อันอาม / ๑๖๐,อ้างแล้วเล่มเดิม เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๔๐
[๔๒] อันฟาล / ๒๔,อ้างแล้วเล่มเดิม
[๔๓] อาลิอิมรอน / ๑๙๕, ตัฟซีรฺนูรุษษะก่อลัยนฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๕
[๔๔] กะฮฺฟิ / ๒๙,ตัฟซีรฺ อะลีบิน อิบรอฮีม เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๓๕
[๔๕] นะห์ลิ / ๙๑, ตัฟซีรฺอะลีบินอิบรอฮีม เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๓๘๙
[๔๖] อัรฺเราะอ์ดุ / ๔๓,กัชฟุลฆอมมะฮฺ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๔๒๙
[๔๗] ศอฟาต / ๑๓๐, เล่มเดิม หน้าที่ ๔๓๐
ขอขอบคุณเว็บไซต์อัชชีอะฮ์
source : alhassanain