อะห์มัด อัฏฏ็อยยิบ กล่าวว่า มัสยิดอัลอักซอมีความสำคัญต่อชาวมุสลิมเท่ากับมัสยิดิลฮะรอม (ในมักกะฮ์) และมัสยิดินนะบี (ในมะดีนะฮ์)
อัฟการ์นิวส์รายงานว่า อะห์มัด อัฏฏ็อยยิบ เชคแห่งอัลอัซฮัซได้กล่าวย้ำว่า มัสยิดอัลอักซอมีความสำคัญต่อชาวมุสลิมเท่ากับ "อัลฮะรอมัยน์ อัชชะรีฟัยน์" (มัสยิดิลฮะรอมในนครมักกะฮ์และมัสยิดินนะบีในนครมะดีนะฮ์) แม้แต่หินเพียงก้อนเดียวของชาวยิวก็ไม่มีอยู่ในอัลกุดส์ (เยรูซาเล็ม) ที่จะแสดงให้เห็นว่า เคยมีวิหาร (โบสถ์ของชาวยิว) อยู่ในสถานที่แห่งนั้น
เชคอัลอัซฮัรแห่งอียิปต์ได้ชี้ในคำพูดหนึ่งของตนถึงฮะดีษ (วจนะของศาสดา) และโองการต่างๆ ของคัมภีร์อัลกุรอาน เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ (และความสำคัญ) ของมัสยิดอัลอักซอที่มีต่อชาวมุสลิม และได้ย้ำถึงประเด็นที่ว่า ก่อนหน้าการมาของศาสนาอิสลามชาวอาหรับก็ได้พำนักอาศัยในสถานที่แห่งนี้อยู่ ก่อนแล้ว พร้อมกับกล่าวว่า : ตัวบทต่างๆ ที่ชาวยิวได้อ้างถึงในพันธสัญญาเดิม (โตราห์) เกี่ยวกับมัสยิดอัลอักซอนั้น เป็นเรื่องเท็จและไม่มีมูลฐาน
ก่อนหน้านี้ อิสมาอีล ฮะนียะฮ์ หัวหน้าสำนักงานด้านการเมืองของฮามาส ในการพูดคุยทางโทรศัพท์กับเชคอัลอัซฮัร ก็ได้กล่าวขอบคุณและยกย่อง ชื่นชมต่อจุดยืนของท่าน และนักวิชาการศาสนาผู้มีเกียรติทั้งหมดของอัลอัซฮัร ในการคัดค้านการตัดสินใจล่าสุดของโดนัลด์ ทรัมป์ ในกรณีการประกาศให้เยรูซาเล็ม (อัลกุดส์) เป็นเมืองหลวงของระบอบไซออนิสต์ และการตอกย้ำของอัลอัซฮัรถึงความสำคัญของอัลกุดส์ที่มีต่ออิสลาม
นอกจากนี้ ฮะนียะฮ์ ยังได้ขอบคุณจุดยืนของเชคอัลอัซฮัร ต่อกรณีที่ปฏิเสธการเข้าพบของรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นการแสดงการประท้วงคัดค้านการดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐฯ