บทเรียนอูศูลุดดีน (รากฐานของศาสนา)
เตาฮีด (ความเป็นเอกะของพระผู้เป็นเจ้า) ตอนที่ 32
เตาฮีดตัชรีอีและฮากีมียะห์ (ความเป็นเอกะในการวางบทบัญญัติและการปกครอง
ความเป็นเอกภาพในการวางบทบัญญัติข้อกฎหมาย เป็นสาขาหนึ่งของความเป็นเอกะในการอภิบาลของพระองค์ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสมาชิกในสังคมนั้น จึงจำเป็นจะต้องมีกฎระเบียบกฎหมายเฉพาะมาควบคุม
ความเป็นเอกภาพในการวางบทบัญญัติข้อกฎหมายหรือการปกครอง คือ การมีความเชื่อความศรัทธาว่า ผู้ที่วางบทบัญญัติข้อกฎหมายและการปกครองคือ อัลลอฮ์(ซบ)เพียงผู้เดียว นอกเหนือจากพระองค์แล้วไม่มีผู้ใดได้รับการอนุญาตอย่างเป็นเอกเทศในการวางบทบัญญัติข้อกฎหมายและการปกครองในการจัดระเบียบบริหารวิถีชีวิตของมนุษย์
ดังนั้น ผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดในการวางบทบัญญัติกฎหมายต่างๆคือ อัลลอฮ์(ซบ)เท่านั้นและผู้ที่ได้รับการอนุญาตจากพระองค์ให้สามารถวางบทบัญญัติข้อกฎหมายและการปกครองซึ่งต้องไม่ชัดกับบทบัญญัติและกฎหมายของพระองค์ด้วย
ด้วยเหตุนี้ วิชาการเรื่องความเป็นเอกภาพในอิสลาม ถือว่าผู้ที่มีสิทธิวางบทบัญญัติข้อกฎหมายและการปกครองและการบังคับใช้กฎเกณฑ์ต่างๆอย่างแท้จริงคือ อัลลอฮ์(ซบ) ดังนั้นแล้ว บุคคลอื่นไม่มีสิทธ์ใดๆในการวางกฎเกณฑ์ต่างๆเหล่านี้ได้ ยกเว้นบุคคลที่ได้รับอนุมัติจากพระองค์ที่มีความประเสริฐ มีความสูงส่งกว่าบุคคลอื่นๆในสังคม ซึ่งได้รับการเลือกเป็นพิเศษและได้รับการอนุมัติจากพระองค์ในการบริหารจัดการวิถีชีวิตของมนุษย์และบังคับใช้บทบัญญัติข้อกฎหมายของพระองค์ในสังคม
ความจำเป็นในความเป็นเอกะในการวางบทบัญญัติและข้อกฎหมายและการปกครองในมุมเหตุผลทางสติปัญญา
1.เป็นที่ชัดเจนว่าบทบัญญัติ ข้อกฎหมายและการปกครองมีความจำเป็นต่อสังคมเพื่อบริหารจัดระเบียบวิถีชีวิตของสมาชิกในสังคม และอีกด้านหนึ่งการวางบทบัญญัติ ข้อกฎหมายและการปกครองเป็นสาขาหนึ่งของความเป็นเอกะในการอภิบาล ซึ่งผู้อภิบาลที่แท้จริงของมนุษย์ ก็คือ อัลลอฮ์(ซบ) ซึ่งแน่นอนว่าการวางบทบัญญัติและข้อกฎหมายและการปกครองนั้นเป็นสิทธิของพระองค์ และสิ่งอื่นๆและมนุษย์นั้นไม่มีอำนาจในการอภิบาลแบบ “ตักวีนี” คือ ไม่มีอำนาจอภิบาลสิ่งต่างๆในธรรมชาติได้ จึงไม่มีความสามารถอย่างเป็นเอกเทศในการวางบทบัญญัติและข้อกฎหมายได้
2.เป็นที่ชัดเจนว่า ผู้ที่สามารถวางบทบัญญัติกฎหมายและการปกครองได้อย่างเหมาะสมและดีที่สุดให้แก่มนุษย์ จะต้องเป็นผู้ที่รู้จักแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ดีที่สุดและรู้จักหนทางที่จะนำมนุษย์ไปสู่ความรอดพ้น พบความผาสุขและความสมบูรณ์ในทุกแง่มุมของชีวิตได้ดีที่สุด นั้นก็คืออัลลฮ์(ซบ) เพราะไม่มีผู้ใดที่จะรู้จักมนุษย์ดีไปกว่าผู้ที่สร้างมนุษย์ และพระองค์คือผู้รอบรู้ในทุกๆสิ่งอย่างสมบูรณ์
ด้วยเหตุผลนี้ เป็นที่เพียงพอว่าอัลลอฮ์(ซบ)เท่านั้นคือ ผู้ที่มีสิทธิที่จะออกบทบัญญัติข้อกฎหมายและการปกครองให้แก่มนุษย์ เฉกเช่นเดียวกันการที่พระองค์ให้สิทธิแก่มนุษย์กลุ่มหนึ่งในการวางบางกฎเกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับของสังคมและวางอยู่บนความมีวิทยปัญญาเพื่อจัดระเบียบสังคมและวิถีชีวิตของมนุษย์ในโลกนี้ให้ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งจะต้องอยู่บนกฎเกณฑ์ทางศาสนาของพระองค์
ขอขอบคุณสถาบันศึกษาศาสนาอัลมะฮ์ดี